เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1015
ไม่ว่าจะเป็นนักบู๊หรือผู้ฝึกชี่ เงื่อนไขที่สำคัญที่สุดอันดับแรกก็คือเคารพผู้แข็งแกร่ง
พละกำลังของลู่ฝาน แค่แดนปราณชีวิตเท่านั้น ไม่ใช่นักบู๊แดนปราณดินด้วยซ้ำ แต่ฝืนต้านทานคาถาของเซียนบำเพ็ญชี่ทั้งสามคนเอาไว้ได้
ไม่เพียงแค่นั้น ถึงแม้ช่วงที่ใกล้ตาย ก็ยังดึงกระบี่ออกมาออกมาสู้อย่างห้าวหาญ
ความห้าวหาญระดับนี้ ควรค่าให้ทุกคนเคารพเลื่อมใส ถึงเป็นผู้ฝึกชี่ที่มีความภูมิใจในตนเองสูงอย่างพวกเขาก็เถอะ
ตึก ตึก ตึก!
จู่ๆ มีเสียงเท้าดังขึ้น เป็นพวกเฮ่อจงที่พุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นลู่ฝาน สีหน้าเฮ่อจงประหลาดใจและสับสน
สงป้าเทียน ตาเฒ่าซูก็อยู่ข้างๆ ด้วย ทั้งสองคนเอาแต่จ้องลู่ฝาน ไม่พูดอะไรสักคำ
การแสดงออกของลู่ฝานเมื่อครู่ พวกเขาอยู่บนเจดีย์ยาก็เห็นทั้งหมด
เฮ่อจงเงียบอยู่นาน จากนั้นพูดว่า “ลู่ฝาน นายนี่เป็นคนที่ก่อเรื่องเก่งจริงๆ!”
ลู่ฝานพูดว่า “เรื่องมันชอบมาหาผมเองต่างหาก”
เฮ่อจงสะบัดมือแล้วพูดว่า “นายรบกวนอริยปราชญ์ดวงดาวแล้ว ตามฉันขึ้นมาข้างบน”
เฮ่อจงหันหลังเดินขึ้นไป ลู่ฝานอุ้มอู่คงหลิงเดินตามไป
พวกเขาก้าวขึ้นมาบนบันไดเมฆ เดินขึ้นไปชั้นบนสุดของเจดีย์ยา
ขณะนั้นกลุ่มผู้ฝึกชี่ด้านล่าง เริ่มพูดคุยกันเสียงเบา
“การแสดงออกของลู่ฝานเมื่อกี้ มีความห้าวหาญของชายแท้จริงๆ”
“นี่คือสไตล์ของนักบู๊เหรอ ถ้าเป็นฉันคงไม่มีทางดึงกระบี่ใส่เซียนบำเพ็ญชี่ทั้งสามคนหรอก”
“แม้ฉันไม่ชอบเขา แต่เขาเป็นนักบู๊ที่เก่งล้ำเลิศจริงๆ จุดนี้ไร้ที่ติ”
“ถ้าเขาไม่ใช่คนจัดการดูแล ฉันชอบเป็นเพื่อนกับนักบู๊ที่มีเลือดอันพลุ่งพล่านและองอาจแบบนี้” ……
ลู่ฝานไม่ได้ยินการพูดคุยของพวกเขา
เขารู้เพียงว่าเมื่อเขาขึ้นไปบนเจดีย์ยาเรื่อยๆ จู่ๆ เขารู้สึกว่าความเร็วในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บบนร่างกาย เริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ
“เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อกี้เจ้านายห้าวหาญไร้เทียมทานมาก เหมือนเทพสงครามเกิดใหม่มา……”
ไอ้เก้าพูดเยินยออยู่ในใจลู่ฝาน แต่มันพูดไปพลาง จู่ๆ เสียงของมันก็เบาลง
ลู่ฝานพูดในใจว่า “อย่าพูดไร้สาระ ทำไมเสียงของแกเบาลงเรื่อยๆ อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้แกก็เสียพลังไปเหมือนกัน”
ไอ้เก้าอึ้งไป จากนั้นเหมือนนึกอะไรได้ จึงรีบพูดว่า “แย่แล้ว เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฉันลืมไปเลย มีไอ้แก่ตายยากในเจดีย์ยาสองสามคนรู้จักฉัน เมื่อเจอพวกเขา พลังของฉันจะโดนช่วงชิงไป เจ้านาย ขอโทษด้วย อีกเดี๋ยวฉันต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่ในตันเถียนของเจ้านายสักระยะ ไม่ต้องเรียกฉัน ฉันยังไม่อยากโดนพวกเขาเปลี่ยนแปลง ไอ้พวกปีศาจร้าย ไอ้คนแก่เลว!”
พูดพลาง เสียงของไอ้เก้าหายไปแล้ว
ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ แต่ก็ขี้เกียจสนใจมัน
เมื่อเดินมาถึงเจดีย์ยาชั้น 96 จู่ๆ พวกเฮ่อจงชะงักฝีเท้าลง
เฮ่อจงพูดช้าๆ ว่า “ลู่ฝาน อริยปราชญ์ดวงดาวอยู่ชั้น 97 เหลืออีกหนึ่งชั้น นายขึ้นไปเองเถอะ เราไม่สามารถขึ้นไปได้”
ลู่ฝานพยักหน้า อุ้มอู่คงหลิงเดินขึ้นไปข้างบนกับสิบสาม
เมื่อเดินมาถึงชั้น 97 จู่ๆ ลู่ฝานเห็นคนสิบกว่าคนยืนเรียงเป็นแถวหน้ากระดาน หน้าประตูเหล็กขนาดใหญ่บานหนึ่ง
ประตูเป็นสีดำและขาว เหมือนการเคลื่อนไหวของหยินหยาง
ในบรรดาคนที่ยืนอยู่หน้าประตูสิบกว่าคน มีเงาของผู้อาวุโสโม่อยู่ในนั้นด้วย
“ผู้อาวุโสโม่!”
แต่ลู่ฝานเรียกไปหนึ่งครั้ง กลับพบว่าผู้อาวุโสโม่ไม่ได้ตอบกลับ! เมื่อเดินไปข้างหน้า จู่ๆ ลู่ฝานพบว่าแท้จริงแล้วคนพวกนี้เป็นรูปปั้นหินทั้งหมด ขณะที่กำลังประหลาดใจ ประตูบานใหญ่เปิดออก
แสงดวงดาวเต็มท้องฟ้า สาดส่องออกมาจากด้านใน!