เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1017
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1017
ผู้อาวุโสโม่โดนด่าจนหน้าแดงถึงหูทันที พวกผู้อาวุโสพากันเงียบไปด้วย
ลู่ฝานอ้าปากเบาๆ เขาไม่เคยคิดถึงจุดนี้เลย
อริยปราชญ์ดวงดาวมองลู่ฝานแล้วพูดว่า “เจ้าหนุ่ม ตอนนี้หายนะใหญ่กำลังจะมาหานาย แม้เจดีย์ยาคุ้มครองนายได้ระยะหนึ่ง แต่ไม่สามารถคุ้มครองนายได้ทั้งชีวิต อีกทั้งเพราะนาย เจดีย์ยาก็จะเกิดปัญหาไปด้วยเหมือนกัน ฉันจะเอาป้ายจัดการดูแลของนายคืน นายมีความเห็นอะไรไหม”
ลู่ฝานกัดฟันพูดว่า “ไม่มีครับ”
อริยปราชญ์ดวงดาวพูดว่า “ไม่มีก็ดี เจดีย์ยาใจดีมีเมตตามาตลอด ฉันยอมให้นายอยู่ในเจดีย์ยาจนกว่าจะผ่านเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี แล้วค่อยออกไป แต่นายอยู่ได้ถึงเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปีผ่านไปเท่านั้น ถ้าถึงเวลาแล้วนายยังไม่ไป เจดีย์ยาจะไล่นายออกไป ช่วงนี้นายก็รีบวางแผนไว้แล้วกัน!”
ลู่ฝานลุกขึ้นคารวะอริยปราชญ์ดวงดาว
ตัวของอริยปราชญ์ดวงดาวค่อยๆ หายไป
ผู้อาวุโสที่เหลือต่างมองลู่ฝานด้วยแววตาเสียดาย จากนั้นก็หายตัวไป
สุดท้ายเหลือเพียงผู้อาวุโสโม่เพียงคนเดียว
เขามองลู่ฝานด้วยแววตาสับสน แล้วพูดว่า “ดูเหมือนฉันทำผิดพลาดจริงๆ”
ลู่ฝานพูดว่า “อาจจะผิด หรืออาจไม่ผิดก็ได้ เรื่องแบบนี้พูดยากครับ”
ผู้อาวุโสโม่ส่ายหน้าพูดว่า “อริยปราชญ์ดวงดาวบอกแล้วว่าฉันผิด งั้นฉันก็ต้องผิด ลู่ฝาน เอาป้ายนายมาให้ฉันเถอะ”
ลู่ฝานค่อยๆ เอาป้ายจัดการดูแลเจดีย์ยาออกมาวางไว้บนโต๊ะ
ผู้อาวุโสโม่หยิบป้ายขึ้นมา ถอนหายใจแล้วพูดว่า “เดิมทีฉันเข้าใจว่าฉันจะพบคนหรืออสูรวิเศษที่เปลี่ยนแปลงทั้งโลกผู้ฝึกชี่ แต่ความจริงมักโหดร้ายเสมอ ดูเหมือนช่วงนี้ฉันก็ต้องปลีกวิเวกแล้วเหมือนกัน อสูรวิเศษของนาย อีกเดี๋ยวฉันจะคืนมันให้นาย นายไม่ต้องกังวล”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “ผู้อาวุโสโม่ ท่านเป็นคนดี”
ผู้อาวุโสโม่ยิ้มอย่างเศร้าๆ แล้วพูดว่า “คนดีเหรอ อาจจะมั้ง ลู่ฝาน นายน่ะสิ ช่วงนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ หลังจากเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี ออกจากเมืองหลวงเถอะ ที่นี่ไม่มีที่ให้นายอยู่แล้ว”
ลู่ฝานไม่ได้ตอบ ทำเพียงมองผู้อาวุโสโม่อย่างเงียบๆ
ส่วนผู้อาวุโสโม่ถอนหายใจยาวเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็หายไปด้วย
ทุกคนออกไปหมดแล้ว ลู่ฝาน อู่คงหลิงและคนอื่น รู้สึกว่าตัวโดนดึงอย่างแรงขึ้นไปด้านบน
ทันใดนั้น ตัวของลู่ฝานสั่นไปมาครู่หนึ่ง
จู่ๆ เขาพบว่าตัวเองกลับมาอยู่หน้าประตูใหญ่ชั้น 97 อีกครั้ง ยังอุ้มอู่คงหลิงอยู่ที่อกเหมือนเดิม
ทุกอย่างเหมือนความฝัน
แต่ลู่ฝานรู้ว่าความฝันนี้คือเรื่องจริง
เขายื่นมือไปสัมผัสตรงเข็มขัด ป้ายจัดการดูแลหายไปแล้วจริงๆ
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เขาไม่สามารถอาศัยอำนาจของเจดีย์ยาได้อีกแล้ว เหลือเพียงตัวเขาเท่านั้น
อีกทั้งตอนนี้เขายังแตกหักกับไท่จื่อด้วย
เกรงว่าไท่จื่อคงสามารถฆ่าเขาได้อย่างมีความสุขแล้ว
ลู่ฝานอุ้มอู่คงหลิง หันหลังเดินออกไปข้างนอก
ภายใต้การจับจ้องของพวกผู้ฝึกชี่ ลู่ฝานกลับมาที่ห้องยา จากนั้นรีบเอากระดาษกับปากกาขึ้นมา เริ่มเขียนจดหมาย
เซียวเฮ่ากับอูลี่คุนช่วยประคองอู่คงหลิงมาอีกด้าน ลู่ฝานเขียนจดหมายสองฉบับ หลังจากนั้นเหมือนนึกถึงใครขึ้นได้ จึงเขียนอีกฉบับ แล้ววางปากกาลง
ลู่ฝานเอาจดหมายสามฉบับให้สิบสาม
พูดอย่างราบเรียบว่า “หานหยวนหนิงแห่งตระกูลหาน เทียนหยาจื่อแห่งตระกูลเทียน แล้วก็องค์ชายรอง ต้องส่งให้ถึงมือ สิบสาม ฝากนายด้วยนะ”
สิบสามพยักหน้าอย่างสุขุม จากนั้นหันหลังเดินออกไป
มองด้านหลังของสิบสามค่อยๆ หายลับไปจากสายตา ลู่ฝานเดินมาข้างอู่คงหลิงแล้วพูดว่า “ช่วงนี้เธอก็หลบอยู่ที่เจดีย์ยาเถอะ ที่นี่ถือว่าเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว”
อู่คงหลิงพยักหน้า จู่ๆ ก็ถามคำถามที่ไม่เกี่ยวกันออกมา “นายเสียใจไหม”