เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1030
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1030
หลังผ่านไปสิบวัน ที่เมืองหลวง
“ได้ยินข่าวหรือยัง ลู่ฝาน นักกระบี่แห่งตงหวา เอาชนะซูเฉียนตระกูลซูได้อีกแล้ว แค่สามกระบี่เท่านั้น ซูเฉียนหมัดศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงถึงกับบาดเจ็บสาหัส ล้มลงบนลานประลอง”
“นี่ยังถือว่าดี ไม่ง่ายเลยที่จะรอดภายใต้กระบี่ของลู่ฝาน เมื่อวานโล่ปีศาจมู่ฉินเก๋อเอ่อ อันดับ 46 ในรายชื่อประเทศ โดนลู่ฝานทำลายเกราะบนตัวกลางลานประลอง ฆ่าด้วยกระบี่เดียว มู่ฉินเก๋อเอ่อคือการป้องกันอันเลื่องลือของเผ่าสัตว์เกล็ดเชียวนะ! คิดไม่ถึงว่าสู้สิบกระบวนท่าของลู่ฝานไม่ได้ น่ากลัวๆ!”
“ใช่ เหมือนลู่ฝานท้าผู้โดดเด่นในใต้หล้า ใครมาก็ฆ่าคนนั้น ไม่ออมมือเลยสักนิด สิบวันมาแล้ว ไม่รู้มียอดฝีมือและผู้แข็งแกร่งพ่ายแพ้ให้เขาตั้งเท่าไร”
“นี่ยังต้องพูดอีกเหรอ นายไม่เห็นเหรอว่าช่วงนี้คนไปที่เจดีย์ยามากขึ้นเรื่อยๆ อยากรู้ว่าต่อไปใครจะมาสู้กับลู่ฝาน ตอนนี้นักบู๊ธรรมดาไม่กล้าขึ้นไปบนลานประลองแล้ว ถ้าลู่ฝานยังกล้าสู้ต่อ เกรงว่ายอดฝีมือที่แท้จริงของสิบตระกูลใหญ่คงนั่งไม่ติด”
“ฉันสนับสนุนให้ลู่ฝานสู้ต่อ ยอดฝีมืออายุน้อยของสิบตระกูลใหญ่ไม่โผล่ออกมานานแล้ว ถ้าล่อออกมาได้สัก 1-2 คน ก็มีอะไรให้ดูแล้ว”
“อืม แต่ฉันว่าแปดผู้โดดเด่นของจวนไท่จื่อ มีโอกาสออกมาสู้สูงมาก ไม่ได้ยินข่าวเหรอ เพราะลู่ฝานล่วงเกินไท่จื่อ จึงจำใจต้องเจอการต่อสู้ที่ดุเดือดอย่างต่อเนื่อง สองสามวันนี้มียอดฝีมือของคนในราชวงศ์ไปท้าประลองมากมาย ดูท่าทางพวกเขาอาฆาตรุนแรง ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเป็นการประลองธรรมดา ส่วนลู่ฝานก็ฆ่าโดยไม่ถามอะไรใครสักคำ เห็นได้ชัดว่าเป็นการกระทำที่ปกป้องตัวเอง!”……
ถนนสายหลักและตรอกเล็กซอยน้อย มีเสียงพูดคุยไม่ขาดสาย
ชื่อของลู่ฝาน มักถูกกล่าวถึงอยู่บ่อยๆ
ทุกครั้งที่พูดถึง จะมีเสียงอุทานอย่างตกใจออกมาจากกลุ่มคน ไม่พูดเรื่องอื่น แค่การต่อสู้อย่างดุเดือดต่อเนื่องสิบวันของลู่ฝาน ก็ทำให้นักบู๊อายุน้อยยอมรับไปครึ่งเมืองหลวงแล้ว
ผู้ชายควรเป็นเหมือนลู่ฝาน กระบี่หนักเล่มเดียวสู้ไม่ถอย
นักบู๊ควรเป็นเหมือนลู่ฝาน กองศพและเลือดมากมายก็ไม่หวั่น!
ชื่อของลู่ฝาน ดังกระฉ่อนไปทั้งในและนอกเมืองหลวง
สาววัยรุ่นมากมาย หลังจากชมการต่อสู้ของลู่ฝาน ล้วนโดนดึงดูดจากร่างอันแข็งแกร่งห้าวหาญที่อยู่บนลานประลอง
นักบู๊มากมาย หลังจากเห็นลู่ฝานถือกระบี่หนักในมือ ฟาดฟันกระบี่แล้วกระบี่เล่าและได้รับชัยชนะ ต่างพากันเลื่อมใสในพละกำลังของลู่ฝานเป็นอย่างมาก
ตอนนี้ตามถนนสายหลักและตรอกเล็กซอยน้อย ลู่ฝานกลายเป็นหนึ่งในคนที่ต้องพูดถึง
มีคนพูดฟันธงว่าแค่ลู่ฝานไม่ตาย ภายในสิบปี ต้องเข้าสู่แดนปราณฟ้าได้แน่นอน
ยังมีคนพูดฟันธงอีกว่าการคัดเลือกปีหน้า ลู่ฝานต้องเหนือกว่าบรรดาผู้โดดเด่น ได้รับโอกาสไปการแข่งนานาประเทศ เป็นตัวแทนประเทศอู่อาน ทำศึกพิชิตโลก
ด้านล่างเวทีประลอง มีคนมุงดูมากขึ้นทุกวัน
ในเจดีย์ยา พวกฝึกชี่ที่เดิมไม่ชอบดูการต่อสู้ของนักบู๊ ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่นั่งยองดูอยู่หน้าประตู
พวกเขาอยากดูว่าลู่ฝานจะสู้ได้ถึงเมื่อไร
จะเป็นแบบนี้ไปจนถึงเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปีหรือเปล่า!
“ลู่ฝาน สู้ๆ! อดทนอีกไม่กี่วัน ฉันพนันว่านายจะอดทนได้สิบห้าวัน อย่าประมาทจนแพ้นะ!”
“ลู่ฝาน ฉันรักนาย เดี๋ยวนายลงมา ต้องมาโบกแขนทักทายพวกเรานะ ฉันเอาพี่สาวน้องสาวที่ดีที่สุดมาด้วย ให้นายแบบฟรีครบชุดเลย!”
“ลู่ฝาน! นายหล่อมากเลย ยิ้มหน่อยได้ไหม!” ……
เสียงตะโกนต่างๆ ดังขึ้นข้างหู
บนลานประลอง ลู่ฝานหลับตาลง นั่งขัดสมาธิบนพื้น วางกระบี่หนักไร้คมเอาไว้ข้างหน้า
หายใจเข้า หายใจออก
ปราณชี่ในตัวเคลื่อนไหว เข้าสู่ทวารทั้ง 9 งอกงามอย่างต่อเนื่อง
แม้ต่อสู้อย่างดุเดือดติดต่อกันเป็นเวลาสิบวัน แต่ตอนนี้ลู่ฝานยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อม ไม่มีความอ่อนเพลียเลยสักนิด
สาเหตุง่ายมาก ก็เพราะตัวอ่อนจิตฟ้าดินที่องค์ชายรองฉินฝานให้เขา
สารอาหารและพลังเต็มเปี่ยมมากมาย เหมือนมีน้ำพุที่พ่นออกมาไม่หยุดอยู่ในตัว พอใช้พลังหมด ก็จะมีพลังใหม่ออกมาจากทั่วร่างกายทันที
ตัวอ่อนจิตฟ้าดินนี้ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าจิตแห่งมหาสมุทร
ตัวอ่อนจิตฟ้าดินเพียงหยดเดียว เทียบได้กับพลังปราณรวมทั้งหมดสิบปี ของนักบู๊แดนปราณนอกทั่วไป
ลู่ฝานกินไปทั้งชิ้น รู้เลยว่าเขามีตั้งเท่าไร
ยังดีที่ตัวอ่อนจิตฟ้าดินไม่เหมือนกับยา ที่กินเข้าไปแล้วมีฤทธิ์ยาออกมาทันที
มันคงอยู่อย่างต่อเนื่อง ค่อยเป็นค่อยไป ตอนที่กินไปในตอนนั้น ไม่ได้มีประโยชน์อะไร แต่เมื่อใช้พลังหมด ตัวอ่อนจิตฟ้าดินก็จะเติมเต็มทันที จนกว่าพลังที่เก็บไว้ในตัวอ่อนจิตฟ้าดินจะหมดลง!
นี่คือของดีที่แท้จริง ของดีที่มีเงินก็ซื้อไม่ได้
ลู่ฝานมองมัน ฆ่าอีกสักสิบวันก็ไม่มีปัญหา