เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1033
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1033
ในช่วงเวลาอันตรายที่สุด ลู่ฝานทำได้แค่ตั้งกระบี่ไว้ข้างหน้า
พลังโจมตีของเกราะสองสามชิ้น แข็งแกร่งจนเขาจำเป็นต้องถอยหลังไปหลายก้าว
สวี่ฉูแผดเสียงออกมาอีกครั้ง ขณะนั้นเกาะปราณพุ่งกลับมาจากทุกทิศทุกทาง
กลับมาก่อตัวบนตัวเขาอีกครั้ง เกาะปราณของเขา เหมือนเครื่องรางจริงๆ เก็บและปล่อยตามใจชอบ ลู่ฝานเพิ่งเคยเห็นคนใช้เกราะปราณแบบนี้เป็นครั้งแรก
ที่แท้เกาะปราณไม่ได้ใช้แค่ป้องกัน ยังใช้ฆ่าคนได้ด้วย!
สวี่ฉูไอออกมาหนึ่งครั้ง พ่นเสมหะเปื้อนเลือดลงบนพื้น
ใช้มือซ้ายเช็ดเลือดตรงมุมปาก สวี่ฉูมองลู่ฝานด้วยใบหน้าโกรธ แล้วพูดว่า “นายทำให้ฉันโกรธได้สำเร็จแล้ว วันนี้นายต้องตายศพไม่สวยแน่นอน!”
ลู่ฝานไม่พูดอะไรสักคำ แบกกระบี่หนักไร้คมไว้บนไหล่ มองสวี่ฉูอย่างเฉยเมย
ลู่ฝานค่อยๆ ยกยิ้มมุมปาก
ยื่นมือซ้ายออกมา ลู่ฝานกระดิกนิ้วชี้เบาๆ ใส่สวี่ฉู!
ยั่วยุ นี่มันยั่วยุชัดๆ
จางกวังที่อยู่ด้านล่างเห็นแล้วหัวเราะพรืด!
ด้านล่างลานประลอง กลุ่มคนเห็นลู่ฝานทำท่าแบบนี้ ก็ตะโกนเสียงดัง
“ฮ่าๆ ลู่ฝานสู้ๆ ฉันสนับสนุนนาย”
“อวดดีเกินไปแล้ว ดิบเถื่อนเกินไปแล้ว ทำท่าแบบนี้ใส่แปดผู้โดดเด่น ลู่ฝาน ไม่ว่านายจะแพ้หรือชนะ ฉันก็เชียร์นาย!”
“ยอมไม่ได้ ยอมไม่ได้จริงๆ สวี่ฉู จัดการเด็กอวดดีนี่ทิ้งซะ เอาชนะเขาให้ได้ ทำให้เขารู้ว่าคนจะอวดดีเกินไปไม่ได้!” ……
เสียงตะโกนต่างๆ ทำให้บรรยากาศคึกคัก อีกทั้งยังทำให้ถึงจุดสูงสุด!
สวี่ฉูค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ถือค้อนทั้งสองอันไว้ในมือ จู่ๆ เขาสูดหายใจลึก
ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เริ่มได้ยินเสียงแตกดังออกมาบนตัวสวี่ฉู
เอ็นและกระดูกของเขา ร่างกายของเขา เริ่มขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว เวลาเพียงพริบตา ขยายขึ้นหนึ่งเท่าทันที และยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดแค่นี้ด้วย
ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ นี่มันวิชาอะไรกัน
ด้านล่าง ผู้ชายที่นั่งข้างจางกวังหัวเราะแล้วพูดว่า “เจ้าอ้วนสวี่ถึงกับใช้กระบวนท่านี้ คงอายจนโมโหแล้วล่ะ!”
จางกวังพยักหน้าพูดว่า “ใช่ ในเมื่อเขาใช้กระบวนท่านี้แล้ว งั้นการต่อสู้ครั้งนี้คงไม่ต้องกังวลแล้ว รู้แพ้ชนะแล้วล่ะ!”
เหรินเจียง จูจวิ้นและคนอื่นพยักหน้าเบาๆ
บนลานประลอง สวี่ฉูกลายเป็นยักษ์สูงสามร้อยกว่าเมตรไปแล้ว เขาถือค้อนขนาดใหญ่สองอันไว้ในมือ เหมือนของเล่นเด็กชัดๆ
แต่ต่อมา ค้อนใหญ่ในมือสวี่ฉูก็เริ่มใหญ่ขึ้นเหมือนกัน
ลู่ฝานอ้าปากค้างมองภาพนี้ ที่เขาตกใจไม่ใช่เพราะอาวุธของสวี่ฉูใหญ่ขึ้น แต่ทำไมกางเกงของสวี่ฉูก็ใหญ่ขึ้นได้ด้วย!
สวี่ฉูก้มหน้าใช้สายตายโสมองลู่ฝาน แล้วพูดว่า “ตายซะเถอะ!”
จู่ๆ ค้อนยักษ์ในมือทุบลงมา พร้อมด้วยเสียงลม มันพัดจนคนจำนวนไม่น้อยหมอบลงพื้น
สีหน้าลู่ฝานเย็นชาทันที เขายกกระบี่สวนไป!
เมื่อเห็นภาพนี้ จางกวังและคนอื่นเผยรอยยิ้มเย้ยหยันออกมา
ตู้ม!
ลานประลองทั้งลานโดนทำลายจนหมด หินที่ระเบิดโดนคนจนบาดเจ็บจำนวนไม่น้อย
เหรินเจียงส่ายหน้าพูดว่า “น่าขำ สู้ด้วยกำลังกับสายเลือดทรงพลังอย่างสวี่ฉู สมองของคนคนนี้ใช้ไม่ได้เลย มิน่าล่ะขนาดไท่จื่อก็ยังไม่อยู่ในสายตา”
จางกวังค่อยๆ ลุกขึ้น เตรียมจะหันหลังเดินออกไป
คนที่เหลือก็ลุกขึ้นตาม โดนกระบวนท่าค้อนพลังทำลายเขาของสวี่ฉู ลู่ฝานต้องตายศพไม่สวยแน่นอน
“ไปเถอะ!”
ก่อนไปจูจวิ้นตะโกนพูดกับสวี่ฉู
แต่ขณะนั้นเอง สวี่ฉูกลับไม่ตอบกลับมา และยืนแข็งทื่อไม่ขยับ!
ทันใดนั้น จางกวังและคนอื่นชะงักฝีเท้าลง หันมามองทางสวี่ฉู
“นี่มันเรื่อง……”
ยังไม่ทันพูดจบ ทันใดนั้นเงาใครคนหนึ่งปรากฏในสายตา
เหรินเจียงพูดอย่างตกใจว่า “ลู่ฝาน!”
ถือกระบี่หนักไร้คมอยู่ในมือ ลู่ฝานยืนตระหง่านอย่างแข็งแกร่งอยู่ในกองเศษหิน