เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1043
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1043
เคล็ดวิชาบู๊เหาะเหินเดินอากาศ พอเห็นชื่อก็จะทราบถึงความหมาย เป็นเคล็ดวิชาบู๊ที่สามารถทำให้คนเหาะได้
นักบู๊แดนปราณฟ้า ถึงจะเหาะได้
ถ้าอยากสัมผัสความรู้สึกลอยกลางอากาศได้ ก่อนถึงแดนปราณฟ้า ถ้าไม่เป็นผู้ฝึกชี่ ก็ต้องฝึกเคล็ดวิชาบู๊เหาะเหินเดินอากาศ
เคล็ดวิชาบู๊เหาะเหินเดินอากาศในใต้หล้ามีน้อยมาก อย่างน้อยในสถาบันสอนวิชาบู๊ ก็ไม่มีให้เห็น
สถานที่ที่มีแน่นอน หนึ่งคือในกองทหาร นักบู๊แดนปราณดินขึ้นไป ได้รับการอนุมัติจากราชสำนัก ถึงจะสามารถฝึกฝนได้
สองคือในวัง ตำหนักรวมบู๊ คลังเคล็ดวิชาบู๊ของราชวงศ์ สถานที่รวบรวมเคล็ดวิชาบู๊ในใต้หล้า
เคล็ดวิชาบู๊เหาะเหินเดินอากาศที่ฉินฝานให้ลู่ฝาน เป็นระดับสูงในระดับสูงอีกที เป็นเคล็ดวิชาบู๊ที่มีเงินก็ไม่สามารถซื้อได้
“ยำก้าวยอดเมฆาฟ้า”
ลู่ฝานค่อยๆ อ่านออกเสียง
จากคำอธิบายของวิชา การเรียนรู้เคล็ดวิชาบู๊นี้ เหยียบยอดเมฆจนถึงสวรรค์สูงสุด เหมือนมังกรเทพผลุบโผล่ เห็นหัวไม่เห็นหาง
วิชานี้ไม่เพียงแต่ให้นักบู๊แดนปราณดินฝึกฝน ถึงนักบู๊ทะลุระดับถึงแดนปราณฟ้าแล้ว มีความสามารถเหาะเหินกลางอากาศแล้ว วิชานี้ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการเหาะเหินได้ด้วย ทำให้การต่อสู้กลางอากาศ ยิ่งมั่นคงและรวดเร็วขึ้น
“เคล็ดวิชาบู๊ที่ดี!”
ลู่ฝานเอ่ยชมออกมา แม้เคล็ดวิชาบู๊นี้ไม่ถึงขั้นเคล็ดวิชาบู๊ระดับฟ้า แต่อย่างน้อยก็เป็นระดับดินขั้นสูงสุด
ลู่ฝานดูด้วยสีหน้ายินดี ในตัวเขามีวิชาของผู้ฝึกชี่ แต่ไม่กล้าใช้ตามอำเภอใจ ถ้าฝึกวิชายำก้าวยอดเมฆาฟ้าสำเร็จ เขาก็กล้าเอาวิชาเหินเวหากับวิชาหายตัวของผู้ฝึกชี่เข้ามาเพิ่ม
ถึงตอนนั้น เมื่อต่อสู้กลางอากาศ ความเร็ววิชากายของเขา ต้องแข็งแกร่งกว่านักบู๊คนอื่นหลายเท่าแน่นอน
จะฝึกก็ฝึกเลย ได้เคล็ดวิชาบู๊ดีมาหนึ่งวิชา ถ้าไม่รีบฝึกฝนจะทำให้เสียของ
ลู่ฝานคิดพลางจะเดินออกไปข้างนอก เพื่อหาที่สงบไร้ผู้คนฝึกเคล็ดวิชาบู๊
ในห้องยา ไม่มีอย่างอื่นมากนัก แต่มีที่ว่างเยอะ สามารถให้คนกลั่นยาได้ และสามารถให้คนฝึกบู๊ได้ด้วย!
ลู่ฝานรีบเดินออกจากห้อง เพิ่งเดินออกมาก็เห็นพวกผู้ดูแลเฮ่อจง เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ลู่ฝานชะลอฝีเท้า ใจเต้นตึกตักครู่หนึ่ง คนพวกนี้คงไม่ได้มาไล่เขาออกจากเจดีย์ยาใช่ไหม
ถ้าเป็นอย่างนั้น เรื่องราวจะลำบาก
เฮ่อจงเดินมาข้างหน้าลู่ฝาน จู่ๆ เขามีรอยยิ้มเต็มใบหน้า
ลู่ฝานเพิ่งเคยเห็นเฮ่อจงยิ้มสดใสขนาดนี้เป็นครั้งแรก เมื่อมองดูข้างๆ ตาเฒ่าซูก็ยิ้มเช่นกัน ซึ่งเห็นได้ยากมาก
นี่ผีหลอกชัดๆ คนอื่นยิ้มให้เขา ลู่ฝานยังพอรับได้
มีเพียงตาเฒ่าซู ตั้งแต่เขาเข้ามาในเจดีย์ยา ยังไม่เคยแสดงท่าทีเป็นมิตรกับเขาเลย
วันนี้คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะยิ้ม
“เดี๋ยวก่อนลู่ฝาน ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
เฮ่อจงเรียกลู่ฝานเอาไว้ หลังจากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้ม “ลู่ฝาน นี่นายจะไปไหนเหรอ”
ลู่ฝานพูดว่า “ฝึกบู๊ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ”
เฮ่อจงยิ้มแล้วพูดว่า “เรื่องเล็กน้อย หลายวันก่อนหน้านี้ อริยปราชญ์ดวงดาวกำหนดให้นายออกจากเจดีย์ยา หลังจากเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปีไม่ใช่เหรอ”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “ใช่ครับ พวกคุณวางใจเถอะ หลังผ่านเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปีไปแล้ว ผมไม่อาศัยอยู่ที่นี่ต่อแน่นอนครับ”
เฮ่อจงรีบโบกมือไปมาแล้วพูดว่า “ไม่ๆ เราปรึกษากันแล้ว ทำแบบนี้ดูไม่เหมาะสมมาก อริยปราชญ์ดวงดาวก็คิดว่าทำเกินไป จึงให้พวกเรามาบอกนาย ในเมื่อนายถือหยกแห่งจิตเข้ามาในเจดีย์ยา และเป็นเภสัชกรของเจดีย์ยา งั้นนายจะอยู่นานเท่าไรก็ได้ ให้ค่าตอบแทนเหมือนเดิม ที่พักก็เหมือนเดิม มีอะไรไม่พอใจ ก็บอกเราได้เลย พูดได้ทุกอย่างเลย”
ลู่ฝานอึ้งไป เขาสงสัยว่าตัวเองฟังผิดหรือเปล่า
ตาเฒ่าซูที่อยู่ข้างๆ กระแอมออกมาสองครั้ง แล้วพูดว่า “ลู่ฝาน ก่อนหน้านี้ฉันมีอคติกับนายมาก เพียงเพราะนายเป็นนักบู๊ ไม่ใช่เรื่องอื่นเลย ตอนนี้ในเมื่ออริยปราชญ์ดวงดาวพูดแล้ว งั้นความเห็นของฉันก็ไม่สำคัญแล้ว นายอยู่ต่อเถอะ ไม่มีใครว่าอะไรอีกแล้ว”