เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1053
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1053
ลู่ฝานมองฉินฝานแล้วค่อยๆ พูดว่า “เตี้ยนเซี่ย ถ้าเตี้ยนเซี่ยเสียดายก็ดื่มเองสิ ถ้าเตี้ยนเซี่ยคิดว่าเทียบกับพละกำลัง สิ่งที่ต้องแลกมันไม่สำคัญ งั้นเตี้ยนเซี่ยก็ดื่มเองสิ ฉันไม่สนใจยาเปลี่ยนโลหิตสักนิด เตี้ยนเซี่ยได้โปรดอย่าบังคับฉัน!”
ในที่สุดสีหน้าฉินฝานเปลี่ยนไปแล้ว จากใบหน้าที่มีรอยยิ้มสดใส แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าเย็นยะเยือก
ฉินฝานค่อยๆ เดินกลับไป นั่งลงอย่างดุดันเคร่งขรึม
ฉินฝานเงยหน้ามองลู่ฝาน แล้วพูดเสียงเย็นชาว่า “ลู่ฝาน ฉันไม่อยากบาดหมางกับนายเพราะเรื่องนี้ ฉันคิดว่านายเป็นนักบู๊ที่มีศักยภาพมาก ฉันแค่อยากดึงนายให้ก้าวหน้าเร็วขึ้นเล็กน้อย ถ้านายดื่มยาเปลี่ยนโลหิตหม้อนี้ ฉันยอมรับนายเข้ามาในจวนฉัน เป็นองครักษ์ส่วนตัวของฉัน ร่วมสร้างความยิ่งใหญ่ไปกับฉัน”
ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “เตี้ยนเซี่ย ฉันยิ่งไม่สนใจสิ่งนี้ ถ้าองค์ชายรองไม่อยากบาดหมางกับฉันจริงๆ ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ ส่วนเรื่องสู้กับจางกวัง ฉันจะสู้เหมือนเดิม เตี้ยนเซี่ยวางใจได้เลย”
ฉินฝานพูดว่า “ให้ฉันวางใจงั้นเหรอ เหอะๆ วางใจที่เห็นนายแพ้เหรอ วางใจที่เห็นจางกวังโอ้อวดความน่าเกรงขามของจวนไท่จื่อต่อไปงั้นเหรอ ลู่ฝาน ในเมื่อวันนี้นายมาแล้ว ไม่ว่านายจะยินดีหรือไม่ยินดี ยาเปลี่ยนโลหิตหม้อนี้เป็นของนายแล้ว ไม่อยากดื่มก็ต้องดื่ม จับตัวไว้!”
เมื่อออกคำสั่ง องครักษ์เกราะทองที่อยู่รอบๆ เคลื่อนไหวทันที
องครักษ์เกราะทองสิบกว่าคน ลงมือพร้อมกัน แทงมาทางลู่ฝานอย่างพร้อมเพรียง พละกำลังของแต่ละคนอยู่ระดับแดนปราณดินขึ้นไป!
ลู่ฝานจับตัวสิบสามแล้วพุ่งขึ้นไปด้านบน เมื่อฝ่าเท้าแตะลงกลางอากาศ เงามีแสงสีม่วงขึ้นเป็นแถบ รอดจากการล้อมฆ่าขององครักษ์เกราะทองได้ทันที
อากาศระเบิดออก แสงสีทองสะดุดตาเป็นแถบ
ฉินฝานเห็นภาพนี้ เขายิ้มเย็นชาแล้วพูดว่า “นายฝึกรวดเร็วจริงๆ รู้เคล็ดยำก้าวยอดเมฆาฟ้าแล้ว!”
ลู่ฝานไม่สนใจฉินฝาน เขาพุ่งไปบนหลังคาอย่างรวดเร็ว ฟาดฟันกระบี่ออกไป ปราณกระบี่รูปจันทร์เสี้ยวฟันลงบนหลังคาอย่างแรง
ถึงเป็นหลังคาที่ทำจากหินศิลาดำ ลู่ฝานก็มั่นใจว่าจะฟันขาดด้วยกระบี่เดียว
แต่ต่อมา เสียงอึกทึกดังขึ้นมา ห้องสั่นไหวอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ หลังคาสูงขึ้นหลายร้อยฟุต
ลู่ฝานตะลึงทันที เสียงของฉินฝานดังขึ้น
“จะหนีเหรอ ในค่ายกลใร้สิ้นสุด มีทางเข้าออกเพียงทางเดียว นายหนีให้ฉันดูสิ!”
ทันใดนั้น ลู่ฝานมองไปยังทางที่เข้ามา แต่ขณะนั้นองครักษ์เกราะทองสิบกว่าคนพุ่งเข้ามาเช่นกัน
“กรงคุกฟ้าดิน!”
แสงสิบกว่าแสงฟาดฟันทำลายอากาศ เหลือเป็นรอยแตกของอากาศอยู่รอบตัวลู่ฝาน ขังลู่ฝานเอาไว้ในอากาศเวิ้งว้างที่แคบและเล็ก
จู่ๆ รู้สึกเบาที่มือ สิบสามโดนแสงสีทองฟาดฟันเสื้อจนขาด และร่วงลงไปข้างล่าง
ตอนร่างกายผ่านรอยแยกมิติ มีรอยแผลเกิดขึ้นมาอีกหลายสิบรอย
ปราณชี่บนตัวลู่ฝานพุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่ง จ้ององครักษ์เกราะทองที่แข็งแกร่งสิบกว่าคนนี้
เสียงของฉินฝานดังขึ้นอีกครั้ง
“ลู่ฝาน ฉันจะให้โอกาสนายอีกครั้ง ถ้านายดื่มยาเปลี่ยนโลหิตจนหมดไม่เหลือสักหยด วันนี้ฉันจะปล่อยนายไป”
เสียงดังพลั่ก สิบสามร่วงลงมาบนพื้น ทุกคนไม่แม้แต่จะมองเขา
มีเพียงลู่ฝานที่มองสิบสามแวบหนึ่ง เมื่อพบว่าเขายังขยับได้ จึงละสายตาออกมา
ยกกระบี่หนักไร้คมขึ้นสูง ลู่ฝานพูดเสียงดังว่า “จะฆ่าฉันก็เข้ามา ไม่จำเป็นต้องพูดเยอะ คนอย่างฉันไม่ชอบการข่มขู่!”
ฉินฝานโมโหแล้ว ชี้นิ้วใส่ลู่ฝานแล้วพูดว่า “จัดการเขาจนกว่าจะยอม พวกนายก็ไปด้วย!”
สัตว์อสูรสองสามตัวที่กำลังกวนของเหลวอยู่ พากันลุกขึ้นแล้วเหาะขึ้นมา มองไปทางลู่ฝานเขม็ง
ลู่ฝานไม่กลัวสักนิด พลังพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุด