เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1075
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1075
ผู้อาวุโสยิ้มแล้วพูดว่า “ร่างแห่งสรรพสิ่ง เป็นวิชามหัศจรรย์อย่างหนึ่ง หลังจากฝึกสำเร็จ สามารถเคลื่อนย้ายกระดูก หมุนเส้นลมปราณได้ตามใจชอบ ถ้าฝึกถึงขั้นสมบูรณ์ จะไร้รูปร่าง เป็นอิสระ วิชาของมนุษย์เผ่ามังกร เคล็ดวิชาบู๊ของเผ่าเหนือมนุษย์อะไรนั่น ล้วนฝึกได้ทั้งหมด”
ลู่ฝานได้ยินแล้วจิตใจวูบไหว แต่ไม่ได้พูดตอบ
จู่ๆ ผู้อาวุโสหมุนฝ่ามือ เหล้าหนึ่งหยดลอยออกมาจากกาเหล้า
ผู้อาวุโสแตะนิ้วลงเบาๆ ทันใดนั้น หยดเหล้ากลายเป็นดวงไฟลุกโชนขึ้น เมื่อแตะนิ้วลงไปอีกครั้ง เปลวเพลิงกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง ไอเย็นแผ่ซ่านไปทั่ว
เมื่อหมุนฝ่ามือ จู่ๆ ก้อนน้ำแข็งกลายเป็นกระบี่แสงเล่มหนึ่ง มีแสงหยินหยางเคลื่อนไหวอยู่ด้านบน
เมื่อใช้มือข้างหนึ่งจับเอาไว้ กระบี่แสงหายไป กลายเป็นมุกในมือผู้อาวุโส โปร่งใสเป็นอย่างมาก เมื่อมองเข้าไป ด้านในสะท้อนโลกทั้งใบ
มีภูเขาและแม่น้ำ มีฟ้าครามและเมฆขาว อีกทั้งยังมีทุ่งหญ้าด้วย
ลู่ฝานมองตาค้าง ตอนนี้ประสบการณ์ของเขาก็พอใช้ได้ อย่างน้อยก็เห็นความน่ากลัวตอนที่ผู้อาวุโสพลิกฝ่ามือไปมา
เขตวิถี นี่เป็นเรื่องที่เขตวิถีสามารถทำได้เท่านั้น
มีเพียงเขตวิถีที่จะทำให้วัตถุที่เหมือนกัน ละเมิดกฎดั้งเดิมของโลกนี้ได้ และมีเพียงเขตวิถีที่จะทำเรื่องน่าทึ่งขนาดนี้ได้
นั่นหมายความว่าผู้อาวุโสคนด้านหน้า เป็นเซียนบู๊!
สุดท้ายผู้อาวุโสตบลงบนมุก สะบัดมือโยนออกไป หยดน้ำร่วงลงบนโต๊ะของลู่ฝาน
หยดน้ำ ก็เป็นหยดเหล้านั่น พอดิบพอดี แวววาวระยิบระยับ
แต่ทุกอย่างที่มันผ่านมาเมื่อกี้ เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนอุทานด้วยความตกใจออกมาได้
ผู้อาวุโสมองลู่ฝานด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดว่า “เป็นไง สนใจจะเรียนไหม”
ลู่ฝานอยากพูดออกมาทันทีว่า “อยาก” แต่คำพูดติดอยู่ตรงปาก เขากลับไม่พูดออกมา
ผู้อาวุโสไม่ได้รีบร้อน มองสีหน้าที่เปลี่ยนไปของลู่ฝานอย่างเงียบๆ ส่วนเถ้าแก่อ้วนมองอย่างมีความสุข
แต่ขณะนั้นเอง มีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาจากนอกประตู
“หลิวหมาง นายหลอกศิษย์แบบนี้ดีเหรอ ทำตัวไม่น่าเคารพไปหน่อยหรือเปล่า!”
คนที่เดินเข้ามาพร้อมเสียงคือผู้หญิงคนหนึ่ง อายุประมาณ 40-50 ปี เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่ยังดูมีเสน่ห์
ผู้อาวุโสหลิวมองผู้หญิงแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า “หยางซี ยัยแก่หยาง ทำไมเธอถึงมาล่ะ นี่ยังไม่ถึงเวลาเธอดื่มเหล้าเลย!”
ผู้หญิงหันไปมองเถ้าแก่อ้วนแวบหนึ่ง จากนั้นพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มีคนเรียกฉันมา บอกว่าจะแนะนำศิษย์ดีให้ฉัน”
พูดจบ ผู้หญิงมองไปทางลู่ฝาน ดวงตาที่มีแสงสีเขียวเล็กน้อย มองลู่ฝานอย่างประเมิน
ทันใดนั้น ยัยแก่หยางพูดว่า “ไม่เลว เป็นคนที่มีความสามารถ ไม่เสียแรงที่ฉันมา!”
ยัยแก่หยางพูดพลาง ยื่นมือข้างหนึ่งไปทางลู่ฝาน ลู่ฝานเห็นมือของเธอเข้ามา กลับรู้สึกว่าตัวเองหลบไม่ได้
แต่ทันใดนั้น มือของยัยแก่หยางโดนเหล้าหยดหนึ่งขวางเอาไว้
เหล้าหยดน้ำหยุดอยู่ข้างหน้ายัยแก่หยาง ไม่ขยับไปไหน ยัยแก่หยางไม่กล้าเข้ามาอีก
ยัยแก่หยางหันมาหาไอ้หลิวแล้วพูดว่า “นายหมายความว่ายังไง”
ไอ้หลิวพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ฉันยังไม่ได้ถามเธอเลยว่าหมายความว่ายังไง”
“นี่นายจะไม่หลีกทางให้เหรอ”
ยัยแก่หยางพูดด้วยรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มดูเย็นยะเยือก
ไอ้หลิวก็ไม่กลัวเธอ พูดอย่างเฉยเมยว่า “ไม่หลีกให้หรอก”
พูดจบ ลู่ฝานรู้สึกว่ามีพลานุภาพน่ากลัวสองพลานุภาพ ปรากฏขึ้นในร้านเหล้าแห่งนี้ทันที
ขณะที่พลานุภาพนี้กำลังจะปกคลุมเขาจนหมด เสียงเถ้าแก่อ้วนดังขึ้นมา
“ทั้งสองคนนั่งลงเถอะ วันนี้ไม่ได้มีแค่พวกนายสองคนที่มาดู”
คำพูดของเถ้าแก่อ้วน ราวกับสายฟ้าผ่าลงบนพลานุภาพของทั้งสองคนจนกระจาย
สีหน้าของยัยแก่หยางกับไอ้หลิวเปลี่ยนไปเล็กน้อย หลังจากนั้นยัยแก่หยางไปนั่งอีกด้านหนึ่ง
เถ้าแก่อ้วนมองลู่ฝานด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดว่า “ตอนนี้นายคิดอะไรอยู่”
ลู่ฝานจ้องเถ้าแก่อ้วนแล้วพูดว่า “ฉันกำลังคิดว่าร้านนี้เปิดเพื่อฆ่าหรือปล้นลูกค้าหรือเปล่า!”