เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1113
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1113
ลู่ฝานจำเขาได้ พูดขึ้นมาพวกเขาก็มาด้วยกันตลอดทาง
“หยวนเลี่ย ไม่ได้เจอกันนานเลย”
ลู่ฝานเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม องครักษ์เกราะทองทั้งสองคนจึงหลีกทางให้ หยวนเลี่ยรีบเดินเข้าไปในลานบ้าน
“คุณชายลู่ ไม่มีเวลาพูดเรื่อยเปื่อยแล้ว ผมมีเรื่องจะคุยกับนาย”
หยวนเลี่ยพูดด้วยใบหน้ากังวล
ลู่ฝานยิ้มให้หยวนเลี่ยแล้วพูดว่า “เรื่องอะไร อย่าบอกนะว่านายโดนคนไล่ฆ่า ศัตรูอยู่ไหนล่ะ ฉันช่วยกำจัดทิ้งเอง!”
หยวนเลี่ยเดินเข้ามาพูดเสียงเบาว่า “คุณชายลู่ ผมไม่ได้โดนไล่ฆ่า แต่นายโดนคนเพ่งเล็ง นายไม่รู้หรอก ตอนนี้ทุกคนคิดจะจัดการนาย พวกเขาจะร่วมมือกันจัดการนายตอนรอบที่สอง ถึงกระทั่งที่จะฆ่านายบนเขาวิถีบู๊ด้วย!”
รอยยิ้มบนใบหน้าลู่ฝานไม่จางหายไปเลย เขาพูดว่า “งั้นเหรอ นี่เป็นความคิดใครเหรอ เขามีความสามารถจริงๆ ทำให้ทุกคนรวมตัวกันฆ่าฉันได้”
หยวนเลี่ยพูดว่า “จะใครอีกล่ะ ใครก็ดูออกว่าเทียนชิงหยางจงใจทำ คุณชายลู่ฝาน ผมว่าคุณชายรีบถอยเพื่อเอาชีวิตรอดดีกว่า ยังไงแล้วนายก็ได้ที่หนึ่งในรอบแรกแล้ว ตอนนี้แสร้งทำเป็นป่วย แล้วออกจากการคัดเลือก รักษาชีวิตเอาไว้ได้ อีกทั้งยังไม่เสียหน้าด้วย”
ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ไม่มีทาง ฉันไม่ถอยหรอก สหายหยวนเลี่ย เข้ามานั่งสิ เฝิงอิ่งกับเซี่ยงจู้ล่ะ พวกเขาเข้าร่วมการคัดเลือกหรือยัง”
หยวนเลี่ยเห็นลู่ฝานไม่ตกใจสักนิด ถึงขั้นที่หนังตาไม่กระตุกเลย จึงอดพูดอย่างประหลาดใจไม่ได้ “คุณชายลู่ฝาน อย่าบอกนะว่านายไม่กังวลเลย”
ลู่ฝานพูดด้วยรอยยิ้ม “กังวลล้วนเป็นสิ่งที่เกินความจำเป็น พวกเขาจะมาก็มาสิ การสอบประเมินผู้ตรวจการในตอนนั้น ฉันก็โดนกลุ่มคนล้อมโจมตี แต่แล้วยังไงล่ะ ซัดให้ล้มทั้งหมดก็จบ ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่แน่อาจไม่ต้องแข่งรอบสามก็ได้ ประกาศไปเลยว่าฉันชนะ!”
ลู่ฝานหัวเราะออกเสียง
หยวนเลี่ยอ้าปากค้างมองลู่ฝาน หุบปากไม่ลงอยู่นาน
ลู่ฝานฉุดกระชากหยวนเลี่ยเข้ามาในห้อง
ไม่ต้องให้ลู่ฝานพูดอะไรมาก องครักษ์เกราะทองคนหนึ่ง เอาชามาวางไว้บนโต๊ะหนึ่งกาอย่างรู้งาน
ชาหอมมาก ต้องเป็นชาชั้นยอดแน่ๆ แต่หยวนเลี่ยไม่มีกะจิตกะใจดื่มชาจริงๆ เขามองลู่ฝานแล้วพูดขึ้นว่า “คุณชายลู่ฝาน ตอนเพิ่งรู้จักนาย ผมรู้แค่ว่านายเป็นนักบู๊ ไม่มีประสบการณ์ ออกมาเป็นครั้งแรก แม้แต่สิ่งที่เดินทางผ่านมิติยังควบคุมไม่เป็น แต่หลังจากผ่านรังหนอน ผมได้รู้ว่านายเป็นนักบู๊ที่เก่งกาจ พละกำลังแข็งแกร่งมาก เหนือกว่านักบู๊ทั่วไปมาก ผมอยากเรียนรู้จากนาย หลังจากถึงเมืองหลวง ผมเพิ่งรู้ว่านายเป็นยอดฝีมือในรายชื่อประเทศ นักกระบี่แห่งตงหวา เป็นแบบอย่างของผม ตอนนี้ชื่อเสียงนายดังกระฉ่อนไปทั้งเมืองหลวง ยังได้อันดับหนึ่งในรอบแรกด้วย กลายเป็นบุคคลที่ผมเลื่อมใส ผมไม่อยากเห็นนายตกม้าตาย จบชีวิตที่เขาวิถีบู๊หรอกนะครับ!”
ลู่ฝานค่อยๆ รินชาให้ตัวเอง แล้วพูดว่า “วางใจเถอะ ฉันไม่มีทางตาย”
หยวนเลี่ยพูดว่า “นายมั่นใจขนาดนี้เลยเหรอ”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “อืม มั่นใจขนาดนี้ คำตอบนี้นายพอใจแล้วหรือยัง”
หยวนเลี่ยถอนหายใจแล้วพูดว่า “ได้ครับ งั้นผมไม่พูดอะไรมากแล้ว คุณชายลู่ นายกับผมได้เจอกัน ถือว่าเป็นเพื่อนกันแล้ว ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยได้ บอกผมมาได้เลย ไม่มีปัญหา”
ลู่ฝานครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ก็มีอยู่นะ สหายหยวนเลี่ย เมื่อถึงตอนขึ้นเขาวิถีบู๊ ทางที่ดีนายอยู่ให้ห่างจากฉัน ทำเหมือนไม่รู้จักฉัน หนำซ้ำฆ่าฉันไปกับพวกเขาก็ได้”
หยวนเลี่ยขมวดคิ้วพูดว่า “ทำไมล่ะครับ”