เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1122
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1122
ในการมองเห็นของเขา ถึงขั้นที่เริ่มมีแถบแสงเป็นเส้นๆ ปรากฏขึ้น สีสันแพรวพราว เคลื่อนไหวอยู่ข้างหน้าเหมือนอุโมงค์ข้ามมิติ
เคลื่อนไหวแบบไหน แสงเปลี่ยนแปลงอย่างไร ล้วนอยู่ในสายตาของเขาทั้งหมด
จู่ๆ ลู่ฝานมองจนเหม่อลอย เขาจมไปกับภาพฟ้าดินอันลึกลับที่ปรากฏออกมา
เขามองอยู่เกือบหนึ่งชั่วยาม มีเสียงดังแบบอึดอัดออกมาจากตัวลู่ฝาน ไม่สามารถกลั้นลมหายใจในร่างกายได้ ถูกปล่อยออกมาทั้งหมด โลกกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง!
จู่ๆ ลู่ฝานรู้สึกเหมือนมีเลือดที่ลำคอ เหมือนเลือดสดกำลังจะพุ่งขึ้นมา
นี่คือสัญญาณที่อวัยวะภายในกำลังจะพังทลาย ลู่ฝานแอบตระหนกใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น
พลังฟื้นฟูร่างกายของเขาแข็งแกร่งมาก เขาอาศัยสิ่งนี้ จึงสามารถยืนนิ่งอยู่ตรงนี้ได้ห้าวัน ถ้าเป็นนักบู๊ทั่วไป ไม่ถึงสิบลมหายใจ ก็คงล้มลงบนพื้นแล้วตายไปเลย
แต่ตอนนี้เขาใกล้จะฝืนไม่ไหวแล้วเช่นกัน
ลู่ฝานคำนวณอยู่ครู่หนึ่ง ตั้งแต่เลือดพลุ่งพล่าน จนถึงร่างกายพังทลาย อย่างมากยังเหลือเวลาอีกหนึ่งวัน
นั่นหมายความว่าในหนึ่งวันนี้ ถ้าเขาคิดหาวิธีไม่ได้ เขาคงทำได้เพียงเลิกต้านทาน ให้ตัวเองสลบไป และโดนป้ายประจำตัวพาออกจากเขาวิถีบู๊ ความพยายามสูญเปล่า!
เวลาเพียงหนึ่งวัน!
ลู่ฝานแอบกัดฟัน ดูเหมือนคงทำได้แค่ฮึดสู้แล้วล่ะ!
ลู่ฝานสูดหายใจลึกอีกครั้ง ครั้งนี้เขาจะใช้วิชาเทพเต่าปรับลมหายใจ ดูว่าจะทำให้ปราณชี่ของตัวเองพุ่งขึ้นมาได้สักเล็กน้อยหรือเปล่า
รูขุมขนปิดลงตามไปด้วย ลู่ฝานเข้าสู่สภาวะซ่อนลมหายใจอย่างสมบูรณ์
ตอนนี้เขาสามารถเห็นลมหายใจของตัวเอง ไหลผ่านหลอดลมเข้าไปในตัว
ลู่ฝานพยายามเอาลมหายใจนี้เข้าไประเบิดในตันเถียน เขาไม่สนใจการบาดเจ็บอะไรแล้ว นี่คือการสู้สุดชีวิต!
ลู่ฝานค่อยๆ พยายามเอาลมหายใจนี้เข้าไปในท้อง
สำหรับคนที่ฝึกทั้งบู๊และชี่อย่างเขา ชี่ฟ้าดินกับพลังฟ้าดิน แท้จริงแล้วคือสิ่งเดียวกัน
ลู่ฝานใช้วิธีระเบิดพลังฟ้าดิน ระเบิดลมหายใจนี้
จู่ๆ ลู่ฝานรู้สึกว่าเส้มลมปราณตรงท้องของตัวเองขาด มีเลือดไหลซึมออกมาตามไรฟัน
ตรงตันเถียน ปราณชี่ถูกกระตุ้นขึ้นมา ร่างกายสั่นสะเทือนไปหมด
ลู่ฝานพยายามสุดชีวิตเพื่อที่จะควบคุมปราณชี่ส่วนหนึ่งที่กระตุ้นขึ้นมา แต่ต่อมาพลังกดดันที่แข็งแกร่ง กดมันกลับไปอีกครั้ง!
“ทุเรศ น่าเกลียด!”
ลู่ฝานตะโกนเสียงดังในใจ
ตอนนี้จู่ๆ ก็มีเสียงอ่อนแรงดังขึ้น
“เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ในที่สุดฉันก็เชื่อมต่อกับเจ้านายได้สักที”
ลู่ฝานฟังออกว่าเป็นเสียงของใคร เขาพูดด้วยความดีใจอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง “ไอ้เก้า ฮ่าๆ ในที่สุดแกก็ปรากฏตัวสักทีนะไอ้เก้า”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดเสียงเบา “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฉันก็อยากปรากฏออกมานะ ใครจะไปรู้ว่าพลานุภาพสร้างความกดดันของเทพบู๊บนเขาวิถีบู๊จะเก่งกาจขนาดนี้ ผนึกของทุกอย่างที่มีพลังชี่เอาไว้ทั้งหมด ขนาดฉันยังเกือบโดนผนึกตาย อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น! ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้านายระเบิด ทำให้ฉันโผล่ออกมาจากตันเถียน ฉันต้องโดนขังไว้ในนั้นแน่ๆ”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรเริ่มบ่นความน่ารังเกียจของพลานุภาพสร้างความกดดันของเทพบู๊ ว่าไร้เหตุผลและน่าขยะแขยงขนาดไหน
ลู่ฝานรีบพูดตัดบทมันทันที “อย่ามัวพูดไร้สาระ แกแค่เกือบโดนผนึก ฉันโดนกดดันอยู่ที่นี่ห้าวันแล้ว รีบบอกมาว่าฉันจะทำลายมันยังไง”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ พลานุภาพสร้างความกดดันของเทพบู๊ เป็นการรวมตัวจากความตั้งใจของเซียนบู๊เขาวิถีบู๊จำนวนหลายสิบคน จะทำลายได้ยังไงล่ะ ทำได้เพียงคล้อยตามมันเท่านั้น”
ลู่ฝานพูดว่า “ฉันไม่ได้ยั่วโมโหมันสักหน่อย มันมีสิทธิ์อะไรมากดดันฉัน อย่าบอกนะว่าเซียนบู๊หลายสิบคนเป็นคนที่ไร้เหตุผลขนาดนี้เลยเหรอ”