เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1134
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1134
ในจวนเซียนบู๊กระบี่คลั่ง จู่ๆ มีแสงสว่างพุ่งขึ้นไปบนฟ้า
แสงนี้ทำให้เขาวิถีบู๊ตกอยู่ในความสั่นสะเทือน ทุกคนมองมาทางนี้ด้วยความตกตะลึง
ตอนนี้ด้านนอกจวนเซียนบู๊กระบี่คลั่ง มีคนรออยู่หลายสิบคนแล้ว
พวกเขาล้วนตามซุนจื้อมา รอลู่ฝานออกมาจากการทดสอบ
เห็นเหตุการณ์แบบนี้ ไม่มีใครที่ไม่อ้าปากค้าง
แสงร่วงลงไปด้านหลังยอดเขา ด้านหลังยอดเขามีบ้านหินเล็กๆ อยู่หนึ่งหลัง
ในบ้านหินมีรูปปั้นอยู่องค์หนึ่ง ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง แสงทั้งหมดร่วงลงบนตัวมัน จากนั้นโดนดูดเข้ามาจนหมด
แสงสว่างต่อเนื่องอยู่นานจึงหายไป ทุกอย่างกลับเป็นปกติอีกครั้ง
“สมบัติล้ำค่าปรากฏออกมาแล้ว การถ่ายทอดปรากฏออกมาแล้ว ต้องเป็นเช่นนี้แน่ๆ ทุกคน ถ้าลู่ฝานออกมา เราจะล้อมโจมตีเขา ส่วนสิ่งของที่ถ่ายทอด ผู้แข็งแกร่งได้ครอบครองมัน ทุกคนคิดว่าอย่างไร”
ซุนจื้อพูดเสียงดัง
คนสิบกว่าคนส่งเสียงตอบรับ นัยน์ตาคนจำนวนไม่น้อย เต็มไปด้วยประกายความโลภ
พวกเขาเดินไปเดินมาบนเขาหลายวันแล้ว พบว่าตัวเองคือคนที่หมดหวังในการเข้าไปในอุโมงค์สวรรค์
อยากได้อะไรบนเขาวิถีบู๊ คงอาศัยได้แค่การแย่งชิง และตอนนี้คนที่ทุกคนเต็มใจจะแย่งก็คือลู่ฝาน ไม่มีเหตุผลใดอื่น เพราะมีคนแย่งเยอะไง!
คนหลายสิบคนอยู่ด้วยกัน มีเหตุผลที่จะแย่งของมาไม่ได้เหรอ
ทุกคนทำเหมือนเหตุการณ์ใหญ่โต ล้อมจวนเอาไว้
ไม่ว่าลู่ฝานออกมาตรงไหน ต้องเจอกับการต่อสู้ที่ดุเดือด
ในจวนตอนนี้
ลู่ฝานมองกระบี่หนักไร้คมในมือด้วยความอึ้ง วินาทีเมื่อกี้ เขารู้สึกเหมือนกระบี่หนักไร้คมกำลังร้องเรียกอะไร เขตวิถีในกระบี่เด้งออกมาเอง ปกคลุมตัวกระบี่เอาไว้
ลู่ฝานเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก เขามองเซียนบู๊กระบี่คลั่งแล้วพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น”
ไซโคลนรุนแรงดุดันปรากฏขึ้นบนฟ้า เมื่อมองดูดีๆ จึงเห็นว่าใบหน้าของเซียนบู๊กระบี่คลั่งบิดเป็นก้อน
“กระบี่เล่มนี้จริงๆ คิดไม่ถึงว่าเด็กอย่างนายคือคนที่เขาเลือก ความโกรธของฉัน ช่างเถอะๆ ใครใช้ให้เราครองถิ่นของเขาล่ะ ไอ้เด็กเวร ฉันไม่สามารถถ่ายทอดให้นายได้แล้ว นายไปหาการถ่ายทอดที่นายต้องการอย่างแท้จริงที่หลังเขาเถอะ”
พูดจบ เซียนบู๊กระบี่คลั่งมีท่าทีว่าจะไป ท้องฟ้าค่อยๆ กลับมาเป็นเหมือนเดิม
เมื่อลู่ฝานได้ยินก็ตะโกนเสียงดังทันที “หมายความว่ายังไง การถ่ายทอดที่แท้จริงอะไรกัน กว่าฉันจะเข้ามาได้ ไหนพูดกันไว้แล้วว่าจะถ่ายทอดให้ ผู้อาวุโสหวางเหมิ่ง ท่านคงไม่ได้จะไม่รักษาคำพูดใช่ไหม!”
ไม่มีใครตอบกลับ พื้นดินกลับเป็นเหมือนเดิม ท้องฟ้าเป็นสีครามอย่างยิ่ง
ลู่ฝานแอบกัดฟัน จู่ๆ เขากลอกตาไปมาแล้วแผดเสียงดังว่า “เซียนบู๊กระบี่คลั่งผู้ยิ่งใหญ่ ไม่รักษาคำพูด หลอกฉันมาที่นี่ ไม่ให้เคล็ดวิชาบู๊ฉันสักเล่ม แย่มาก ไม่คู่ควรเรียกว่าเซียนบู๊เลย!”
ทันใดนั้น ใบหน้าของเซียนบู๊กระบี่คลั่งปรากฏขึ้นอีกครั้ง พูดตะโกนเสียงดังว่า “คำพูดฉันหนักแน่นมาตลอด เคยไม่รักษาคำพูดตอนไหน ไอ้เด็กเวรอย่างนายเดี๋ยวโดนฉันตบตาย”
ลู่ฝานพูดเสียงดังว่า “เอาสิ ตบฉันให้ตายเลย ฉันมารับการถ่ายทอดของนาย ถ้าท่านฆ่าฉันตาย ถ้าพูดออกไป ฉันจะดูสิว่าวิชาของท่านยังสามารถสืบทอดต่อไปได้จริงหรือเปล่า ท่านรออยู่ที่นี่ไปอีกเป็นพันเป็นหมื่นปีเถอะ!”
เสียงฟ้าร้องน่ากลัวดังขึ้นบนท้องฟ้า สะเทือนจนลู่ฝานปวดแก้วหู รีบปิดผนึกประสาทสัมผัสทั้งหก ตัวเซไปมาครู่หนึ่ง อวัยวะภายในปั่นป่วน
นั่นเป็นเสียงหึอย่างเย็นชา จากความโมโหของเซียนบู๊กระบี่คลั่ง เสียงหึอย่างเย็นชาสามารถทำให้ลู่ฝานสะเทือนจนเกือบกระอักเลือด พละกำลังระดับนี้ ต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆ