เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1139
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1139
ฉินซางต้าตี้ก็วางหนังสือลงแล้วพูดว่า “เสียงดังเอะอะเรื่องอะไร ให้เขาเข้ามา”
องครักษ์เกราะทองรีบเข้ามาในห้องทรงพระอักษร คุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นแล้วพูดเสียงดัง “ฝ่าบาท ลู่ฝานแห่งเขตตงหวาออกมาจากจวนเซียนบู๊กระบี่คลั่งแล้วครับ”
ฉินซางต้าตี้พูดด้วยรอยยิ้ม “งั้นเหรอ มาเปิดม่านน้ำสรวงสวรรค์ ให้ฉันดูหน่อยว่าลู่ฝานได้ของดีอะไร”
นางข้าหลวงคนหนึ่งรีบเดินเข้ามา ถือไข่มุกสีน้ำเงินในมือ โยนเบาๆ ขึ้นไปในอากาศ
ทันใดนั้น ม่านน้ำสรวงสวรรค์ขนาดใหญ่เปิดออก นิ้วของฉินซางต้าตี้ขยับเบาๆ ด้านในม่านน้ำสรวงสวรรค์ มีแสงและเงากะพริบทันที
ไม่นานเงาของลู่ฝานปรากฏอยู่ในม่านน้ำสรวงสวรรค์ เป็นภาพที่ลู่ฝานเดินออกมาจากจวนเซียนบู๊กระบี่คลั่งพอดี
ฉินซางต้าตี้หัวเราะ มองคนหลายสิบคนล้อมลู่ฝานเอาไว้ อีกทั้งยังโจมตีใส่ด้วย ยังหัวเราะแล้วดูลู่ฝานโยนซุนจื้อออกไปไกลเท่าไรไม่รู้ อีกทั้งยังถลึงตาใส่นักบู๊คนหนึ่งจนทรุดลงบนพื้น
เมื่อดูทุกอย่างจบ ฉินซางต้าตี้พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ลู่ฝานเดินไปไหนก็มีแต่คนเล่นงานเขา”
ไท่จื่อฉินอวิ่นที่อยู่ข้างๆ หวาดกลัวขึ้นในใจ แต่ไม่กล้าแสดงความไม่เหมาะสมออกมาบนใบหน้า
ฉินซางต้าตี้ชี้จวนเซียนบู๊กระบี่คลั่งในม่านน้ำสรวงสวรรค์ แล้วพูดว่า “ลู่ฝานออกมาจากในจวน แต่แสงของจวนยังอยู่ ดูเหมือนได้ของดีไม่มากเท่าไร อย่างน้อยก็ไม่ได้รับการถ่ายทอดอย่างสมบูรณ์ น่าเสียดายๆ!”
ไท่จื่อฉินอวิ่นยกยิ้มมุมปาก ฉินฝานที่อยู่ข้างๆ ก้มหน้าไม่พูดอะไร
ขณะกำลังพูดอยู่ จู่ๆ องครักษ์เกราะทองอีกคนตะโกนขึ้นมา
“รายงาน!”
ฉินซางต้าตี้สะบัดมือเบาๆ องครักษ์เกราะทองคนนี้รีบพุ่งเข้ามาพูดว่า “ฝ่าบาท หานหยวนหนิงแห่งตระกูลหานออกมาจากจวนเซียนบู๊จิ่วหวาแล้วครับ!”
ฉินซางต้าตี้สะบัดมือไปทางม่านน้ำสวรรค์อีกครั้ง ทันใดนั้น สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาคือจวนเซียนบู๊จิ่วหวาที่มืดมนไร้แสง รวมถึงหานหยวนหนิงที่เปลือยท่อนบน ท่าทางดุดันทรงพลัง
“ดี! ตระกูลหานมีเด็กที่ไม่เลวออกมา คิดไม่ถึงว่าหานหยวนหนิงจะได้รับการถ่ายทอดอย่างสมบูรณ์แบบจากเซียนบู๊จิ่วหวา รีบออกคำสั่ง มอบอาวุธวิเศษหนึ่งชิ้นกับของขวัญชิ้นใหญ่หนึ่งอย่าง เป็นรางวัลให้ตระกูลหาน!”
ฉินซางต้าตี้หัวเราะเสียงดังสามครั้ง
ครั้งนี้ในที่สุดก็มีคนได้รับการถ่ายทอดอย่างสมบูรณ์แบบสักที
หานหยวนหนิงแห่งตระกูลหาน!
ฉินซางต้าตี้จำชื่อนี้เอาไว้แล้ว ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป หานหยวนหนิงจะกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของประเทศอู่อาน
ผู้สืบทอดของเซียนบู๊จิ่วหวา!
นี่ยังไม่จบ ขณะที่ฉินซางต้าตี้กำลังดีใจ มีองครักษ์เกราะทองอีกคนหนึ่งพุ่งเข้ามา
“ฝ่าบาท เทียนชิงหยางแห่งตระกูลเทียน ออกมาจากจวนเซียนบู๊เทียนซ่วนแล้วครับ!”
ฉินซางต้าตี้อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นพูดอย่างตกใจว่า “จวนของเซียนบู๊เทียนซ่วน เป็นจวนบรรพบุรุษตระกูลเทียนของพวกเขาไม่ใช่เหรอ ครั้งนี้ตระกูลเทียนมีลูกหลานได้รับการถ่ายทอดแล้วเหรอ”
จู่ๆ ฉินซางต้าตี้หัวเราะเสียงดัง เสียงหัวเราะดังลั่นทะลุไปบนฟ้า
“นี่มันสัญญาณแห่งความรุ่งเรืองของอู่อานหรือเปล่า ดีมาก รอเทียนชิงหยางออกมา ฉันก็มีของรางวัลใหญ่ให้เหมือนกัน ผู้สืบทอดศักดิ์สิทธิ์ พวกตาเฒ่าตระกูลเทียนต้องยิ้มจนปากฉีกแน่ๆ!”
ฉินอวิ่นกับฉินฝานลุกขึ้นพร้อมกัน แล้วพูดว่า “สวรรค์คุ้มครองเสด็จพ่อ อู่อานยิ่งใหญ่งดงาม”
ฉินซางต้าตี้ชี้ฉินอวิ่นกับฉินฝานแล้วพูดว่า “เพราะพวกนายสองคนไม่เอาไหน ถ้าพวกนายเข้าไปในจวนจักรพรรดิอู่ได้ นั่นคงเป็นเรื่องโชคดีที่สุดของอู่อานของฉัน”
ฉินอวิ่นกับฉินฝานก้มหน้าลง ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
พวกเขาสองคนขึ้นไปบนเขาวิถีบู๊หลายครั้งจนนับไม่ถ้วนแล้ว แต่กลับไม่ได้อะไรสักอย่าง พูดขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่น่าอายมาก
ตอนนี้ฉินซางต้าตี้ที่กำลังอารมณ์ดี ขี้เกียจจะว่าอะไรพวกเขา โบกมือไปมาแล้วพูดว่า “ออกคำสั่งไปว่าให้เตรียมงานเลี้ยง รอพวกเขาออกมาจากเขาวิถีบู๊ ฉันจะเชิญเหล่าข้าราชการมาร่วมงานเลี้ยง”
ฉินอวิ่นกับฉินฝานตอบรับเสียงเบา
คำสั่งต่างๆ ออกมาจากในห้องทรงพระอักษร
ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน เรื่องที่หานหยวนหนิงแห่งตระกูลหานได้รับการถ่ายทอดจากเซียนบู๊จิ่วหวา กับเรื่องที่เทียนชิงหยางแห่งตระกูลเทียนออกมาจากจวนเซียนบู๊เทียนซ่วน แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวง
สองคนนี้ต้องกลายเป็นเป็นกำลังสำคัญในประเทศอู่อานแน่นอน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปสองคนนี้จะมีอนาคตที่สวยงามราวกับผ้าไหมทอดิ้น เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน!
อีกทั้งเมื่อเทียบกันแล้ว การประสบความสำเร็จของลู่ฝาน ก็โดดเด่นสะดุดตาขนาดนั้นแล้ว
แม้เขาได้เข้าไปในจวน ได้รับของดีเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับสองคนนี้ ไม่ได้ต่างกันแค่น้อยๆ
ถ้าลู่ฝานได้รับการถ่ายทอดอย่างสมบูรณ์แบบ ยังพอนำมาเทียบกับพวกเขาสองคนได้
ตอนนี้ลู่ฝานกำลังเดินไปหลังภูเขา
จากไกลๆ ลู่ฝานเห็นบ้านหินหลังหนึ่ง ใช้มือสัมผัสลงบนกระบี่หนักไร้คม
ลู่ฝานพึมพำว่า “ใช่ที่นั่นหรือเปล่า ไม่คมเอ๋ย ไม่คม แกจะต้องชี้ทางให้ฉันนะ!”