เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1142
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1142
จู่ๆ เทียนชิงหยางหัวเราะ เริ่มจากหัวเราะเบาๆ หลังจากนั้นหัวเราะลั่น
เทียนชิงหยางถือกระบี่มังกรคำรามในมือ หัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “หานหยวนหนิง นายคิดว่าได้การถ่ายทอดของเซียนบู๊จิ่วหวาก็จะแข่งกับฉันได้งั้นเหรอ”
พลังปราณบนตัวหานหยวนหนิงลุกโชน เขาแผดเสียงดังออกมา “เทียนชิงหยาง ไม่ต้องพูดไร้สาระ รับกระบี่ฉันไปก่อน!”
จู่ๆ มีเงาขนาดใหญ่เก้าเงาปรากฏขึ้นด้านหลังหานหยวนหนิง
มืดฟ้ามัวดิน โหดเหี้ยมน่ากลัว!
“วิชากระบี่ครองสวรรค์!”
เสื้อผ้าบนตัวหานหยวนหนิงขาดออกหมด ตอนนี้พลังของเขาถึงขั้นนักบู๊แดนปราณฟ้าแล้ว
เทียนชิงหยางที่เอาแต่นับนิ้วชะงักไปทันที
มือหนึ่งกำกระบี่เอาไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งยื่นนิ้วออกมาสองนิ้ว ดีดเบาๆ ลงบนปลายกระบี่!
“ครืน!”
เสียงสะเทือนออกไป ตัวของเทียนชิงหยางเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“วิชากระบี่ทะยานเมฆา!”
เทียนชิงหยางลงมือในเวลาเดียวกันนับครั้งไม่ถ้วน แสงสว่างจ้า!
วิชากระบี่ของทั้งสองคนปะทะกัน ฝุ่นกลายเป็นคลื่นม้วนออกไป พื้นดินแตกร้าว พลังลมกระจายไปทั่ว เสียงระเบิดดังสนั่นเลือนลั่น
ทันใดนั้น มีเสียงฟ้าร้องอย่างน่าตกใจบนเขาวิถีบู๊ เสียงสะเทือนสวรรค์!
นักบู๊แทบทุกคน พากันมองมาทางสถานที่ที่ทั้งสองคนต่อสู้กัน……
อากาศเวิ้งว้างไม่สิ้นสุด แสงสว่างพุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้า
ลู่ฝานค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน
เท้าเหยียบลงบนผืนน้ำใส ลึกจนมองไม่เห็นด้านล่าง
ด้านซ้ายมีพระจันทร์สว่างหมุนรอบตัวเขา ด้านขวามีพระอาทิตย์ร้อนแรงลอยอยู่ ส่องแสงร้อนระอุออกมา
ด้านหลังคือดวงดาวนับไม่ถ้วน ส่องแสงกะพริบระยิบระยับ
ด้านหน้าคือเนบิวลา ด้านในยังมีพื้นที่ขนาดใหญ่
ตอนนี้ลู่ฝานเพิ่งพบว่าร่างกายตัวเองใหญ่ขึ้นอย่างมาก ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
พระอาทิตย์และพระจันทร์อยู่ข้างหน้าเขา มีขนาดเท่าไข่ไก่เท่านั้น
แม้เขาไม่รู้ว่าทำไมมองเพียงแวบเดียว ก็รู้ว่าวัตถุทรงกลมทั้งสองที่ลอยอยู่ด้านหน้าคือพระอาทิตย์และพระจันทร์
เขามีหลายอย่างที่ไม่เข้าใจ รอคนมาคลายความสงสัยให้เขา
ตอนนี้น้ำใสด้านล่างเท้าค่อยๆ รวมตัวเป็นเงาคน
เป็นกระดูกก่อน จากนั้นจึงเป็นเส้นลมปราณ เลือดเนื้อและผิวหนัง
ลู่ฝานมองทุกอย่างเงียบๆ ทิศทางการไหลของเส้นลมปราณทุกเส้นและการประกอบกันของเลือดเนื้อทุกส่วนที่ชัดเจน ผุดขึ้นมาในหัวเขาเอง
ความรู้ประหลาดพวกนี้ เหมือนมีคนพยายามยัดเข้ามาในหัวของเขา
ในที่สุด เมื่อคนนี้ก่อตัวเสร็จสมบูรณ์ ลู่ฝานจำหน้าเขาได้
“จักรพรรดิอู่!”
ลู่ฝานพูดเสียงเบา
จักรพรรดิอู่มองลู่ฝานอย่างเรียบเฉย แล้วพูดว่า “คนรุ่นหลังล้วนเรียกฉันแบบนี้เหรอ ชื่อนี้ถือว่าไม่เลวนะ”
ลู่ฝานมองซ้ายมองขวา แล้วพูดว่า “ที่นี่คือที่ไหน ทำไมผมถึงมาโผล่อยู่ที่นี่”
จักรพรรดิอู่พูดว่า “ตอนนี้นายอยู่ในโลกของฉัน เหมือนนายมีหลายสิ่งที่ไม่เข้าใจ”
ลู่ฝานถามว่า “โลกของท่านเหรอ หมายความว่ายังไง”
จักรพรรดิอู่พูดด้วยรอยยิ้ม “คิดดูดีๆ นายเข้ามาในโลกของฉันในฐานะคนนอก อีกทั้งยังได้ความรู้ทุกอย่างบนโลกใบนี้ นายจะคิดออกเอง!”
ลู่ฝานขมวดคิ้ว ครุ่นคิดเงียบๆ
จู่ๆ เขา “คิดออก” แล้วจริงๆ
โลกใบนี้คือเขตวิถีของจักรพรรดิอู่!
นักบู๊ฝึกถึงแดนหยินหยาง จากนั้นอาศัยแดนหยินหยางสร้างเขตวิถีขึ้นมา นำวิถีบู๊ของตัวเองเข้ามาด้านใน ด้วยเหตุนี้ในเขตวิถีจึงสามารถเปลี่ยนแปลงกฎของโลกได้ นี่คือเซียนบู๊ ผู้ฝึกชี่ก็เช่นกัน แต่ผู้ฝึกชี่สร้างเขตวิถีจากฟ้าดิน เรียกว่าอริยปราชญ์
และเมื่อผ่านแดนเซียนขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง จะสามารถสร้างกฎขึ้นเองได้ และต้านทานกับฟ้าดิน
เมื่อถึงขั้นนี้ เหมือนจะเป็นจุดสูงสุดของมนุษย์ ดังนั้นจึงเรียกมันว่าขุนพลังสุดเหนือฟ้า
เวลาเป็นพันเป็นหมื่นปีมานี้ ดูเหมือนจะไม่มีใครผ่านขั้นนี้ได้ คนที่ต้านทานกับฟ้าดิน จุดจบมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือความตาย