เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1153
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1153
ตอนมาถึงศูนย์กลางเมือง เดิมทีลู่ฝานเข้าใจว่าจะเหมือนกับตอนเข้ามาครั้งก่อน ที่ได้ยินเสียงเชียร์จากกลุ่มคนด้านล่าง
แต่เมื่อก้มลงไปมอง กลับเห็นถนนว่างเปล่า ทุกบ้านปิดประตู ร้านค้าไม่เปิด เต็มไปด้วยความเงียบเหงา
ลู่ฝานพูดอย่างประหลาดใจว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น ฉันเพิ่งขึ้นไปบนเขาวิถีบู๊ไม่กี่วันเอง ทำไมเมืองหลวงถึงเงียบแบบนี้ล่ะครับ”
ฉินฝานพูดว่า “สหายลู่ฝาน อย่าบอกนะว่านายไม่รู้เรื่องหานหยวนหนิง”
ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ไม่ทราบครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอครับ”
ฉินฝานพูดอย่างประหลาดใจว่า “นายไม่รู้จริงๆ ด้วย สองสามวันนี้นายไปเก็บตัวที่อุโมงค์สวรรค์แห่งไหนมา คิดไม่ถึงว่าจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย หานหยวนหนิงโดนเทียนชิงหยางซัดจนพิการ ตอนนี้ในเมืองหลวงมีสัญญาณว่ากำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่!”
“พิการงั้นเหรอ พิการยังไงเหรอครับ”
ลู่ฝานถาม
“แขนขาดหนึ่งข้าง ตันเถียนแตกสลายหมด ชีวิตนี้คงไม่มีหวังในการฝึกฝนอีกแล้ว”
ฉินฝานถอนหายใจเบาๆ เหมือนกำลังถอนหายใจกับความอนาถที่หานหยวนหนิงเจอ
ลู่ฝานอ้าปากกว้างแล้วพูดว่า “เป็นถึงขนาดนี้ ตระกูลหานก็ต้องไปสู้สุดชีวิตกับตระกูลเทียนน่ะสิครับ”
ฉินฝานพูดว่า “ก็ใช่น่ะสิ นายเดาออก คนอื่นก็เดาออกเหมือนกัน คนทั้งเมืองหลวงก็เดาออกทั้งนั้น ดังนั้นทุกคนจึงไม่ค่อยกล้าเดินบนท้องถนน กลัวว่าตอนเดินบนถนนจะเห็นคนตระกูลหานยกพวกไปคิดบัญชีตระกูลเทียน หลังจากนั้นจะเกิดสงครามใหญ่ เกิดการบาดเจ็บล้มตายมากมาย!”
ลู่ฝานพูดว่า “ตระกูลหานจะทำแบบนี้เหรอ”
ฉินฝานส่ายหน้าพูดว่า “ใครจะไปรู้ล่ะ เสด็จพ่อฉันยังไม่แน่ใจเลย ตอนนี้ทำได้เพียงควบคุมเรื่องนี้ไว้ ไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมแบบตระกูลโอวหยางในตอนนั้นขึ้นอีกครั้ง สงครามใหญ่ครั้งนั้นทำลายศูนย์กลางเมืองไปเกือบครึ่ง ขอแค่เป็นคนเก่าคนแก่ของเมืองหลวง ล้วนจำการต่อสู้อันเจ็บปวดครั้งนั้นได้ดี หวังว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”
พูดพลาง เรือมังกรทองห้ากรงเล็บบินเข้ามาในเมืองชั้นใน และลอยลงด้านหน้าตำหนักไท่เหอ
เห็นพวกข้าราชการใหญ่เข้าพบฝ่าบาทเรียบร้อย กำลังเดินออกมาอย่างรวดเร็วพอดี
ลู่ฝานกับฉินฝานเดินลงจากเรือมังกร มองแวบเดียวก็เห็นหลู่เฉิงเซี่ยงเดินสวนมา
เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นลู่ฝาน หลู่เฉิงเซี่ยงรีบเดินมาอย่างรวดเร็ว เขาทำความเคารพฉินฝานก่อน แล้วพูดว่า “องค์ชายรอง”
หลังจากนั้นหลู่เฉิงเซี่ยงพูดกับลู่ฝานว่า “นายกลับมาสักที”
ฉินฝานเดินเข้าไปในตำหนักไท่เหอ ขณะนั้นหลู่เฉิงเซี่ยงจับแขนเขาเอาไว้แล้วพูดว่า “องค์ชายรอง ตอนนี้ทางที่ดีอย่าเพิ่งเข้าไปก่อนดีกว่าครับ เมื่อครู่ฝ่าบาทเพิ่งยกเลิกงานเลี้ยงต้อนรับพวกเทียนชิงหยาง”
ฉินฝานตอบรับอย่างเข้าใจ แล้วพูดว่า “ขอบคุณหลู่เฉิงเซี่ยง งั้นฉันขอตัวกลับก่อน”
ก่อนไปจู่ๆ ฉินฝานยัดป้ายอันหนึ่งใส่มือลู่ฝานแล้วพูดว่า “ถ้ามีเวลาว่างมาดื่มชากับฉันนะ”
ฉินฝานเดินออกไปอย่างรวดเร็ว หลู่เฉิงเซี่ยงดึงลู่ฝานมาอีกด้านหนึ่ง แล้วพูดว่า “ลู่ฝาน ตอนนี้ฉันมีเรื่องหนึ่งอยากรบกวนนาย นายยินดีไปให้ฉันไหม”
ลู่ฝานพูดว่า “หลู่เฉิงเซี่ยงจะให้ฉันไปตระกูลหานใช่ไหม”
หลู่เฉิงเซี่ยงพูดด้วยตาเป็นประกาย “ฉลาด ลู่ฝาน ช่วยฉันหน่อยเถอะ ถือว่าช่วยประเทศอู่อานด้วยสักครั้ง”
ลู่ฝานพยักหน้าเข้าใจแล้วพูดว่า “ฉันเข้าใจแล้ว”