เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1154
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1154
ตระกูลหาน เมฆดำทะมึนเต็มไปหมด
หลังจากหานหยวนหนิงโดนแบกกลับมา ตระกูลหานเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความอาฆาต
เสียงหัวเราะพูดคุยเมื่อก่อนหายไปจนหมด ตอนนี้ลูกหลานตระกูลหานเตรียมพร้อมไปฆ่าที่ตระกูลเทียนทุกเมื่อ
“เงียบ เงียบ! วุ่นวายอะไรกัน พวกนายรู้แต่การแก้แค้นเหรอ รอคำสั่งจากเจ้าบ้าน ถ้าไม่มีคำสั่งจากเจ้าบ้าน ใครก็ห้ามขยับไปไหนทั้งนั้น”
ที่ลานประลองบู๊ตระกูลหาน หานจุนตะโกนพูดเสียงดัง
พวกลูกหลานตระกูลหานที่เต็มไปด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม ยกอาวุธขึ้นมา ไม่สนใจเสียงตะโกนของหานจุน ยังคงส่งเสียงดังโวยวายอยู่อย่างนั้น
“ตระกูลหานของเราเคยเสียเปรียบขนาดนี้เมื่อไรไม่ได้ ฉันจะไปทำลายประตูตระกูลเทียนตอนนี้เลย”
“เปิดศึก ตระกูลเทียนของเขาเก่งมากเหรอ ทำลายพวกเขาซะ!”
“หานหยวนหนิงจะเสียเลือดฟรีไม่ได้!”
เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ จู่ๆ หานจุนสูดหายใจลึก แล้วแผดเสียงพูดออกมา
“หุบปากให้หมด!”
เสียงทำให้ลานประลองบู๊สั่นสะเทือนจนแกว่งไปมาครู่หนึ่ง
ตอนนี้ลูกหลานตระกูลหานทุกคนพากันหุบปากอย่างว่าง่าย แต่พวกเขาก็ยังมองหานจุนอย่างเดือดดาล
หานจุนกระวนกระวายจนตกอยู่ภายใต้ความกดดัน เขาก็โมโหสุดขีดเหมือนกัน อยากไปฆ่าถึงตระกูลเทียน แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาจริงๆ
หลังภูเขาตระกูลหาน กลุ่มคนล้อมอยู่หน้าบ้านไม้หลังหนึ่ง
คนที่นอนอยู่ในห้องคือหานหยวนหนิง
ตอนนี้หานหยวนหนิงดูสงบมาก ใบหน้าไม่สะทกสะท้าน มองดวงดาวบนฟ้านอกหน้าต่างอย่างเงียบๆ
แต่พวกคนที่อยู่นอกประตู กลับพูดคุยกันอย่างเคร่งเครียด
ในนั้นมีพี่ใหญ่ตระกูลหานอย่างหานอู๋ซวงอยู่ด้วย
“ผู้อาวุโสทุกท่าน ไม่มีวิธีรักษาตันเถียนของหยวนหนิงจริงๆ เหรอครับ อย่าบอกนะว่าตระกูลหานที่ยิ่งใหญ่ของเราจะหาผู้สูงส่งมารักษาเขาให้หายไม่ได้จริงๆ”
หานอู๋ซวงดูโมโหมาก ขณะพูดมีความเย็นชากะพริบอยู่นัยน์ตา
ผู้อาวุโสสองสามคนที่อยู่ข้างๆ ถอนหายใจแล้วส่ายหน้า พวกเขาเป็นผู้อาวุโสของตระกูลหาน เป็นผู้แข็งแกร่งที่ถ้าไม่มีสถานการณ์เร่งด่วน จะไม่ปรากฏตัวออกมาง่ายๆ
ผ่านไปนาน ผู้อาวุโสหนึ่งในนั้นพูดว่า “ถ้าแค่ตันเถียนโดนทำลายก็ดีสิ แค่คิดหาวิธีเชิญอริยปราชญ์มาช่วยสร้างร่างกายขึ้นมาใหม่ ซ่อมแซมตันเถียนกลับมา ค่อยๆ ฝึกวิทยายุทธกลับมาอีกครั้ง แต่ร่างกายของหยวนหนิงมีการถ่ายทอดของเซียนบู๊จิ่วหวา ถ้าสร้างร่างกายเขาขึ้นมาใหม่ จะทำลายการถ่ายทอดของเซียนบู๊จิ่วหวาจนหมด นี่เป็นเรื่องที่ยากลำบาก”
หานอู๋ซวงพูดว่า “แล้วไม่มีวิธีที่รักษาเอาไว้ทั้งสองอย่างเหรอครับ”
ผู้อาวุโสส่ายหน้าพูดว่า “เว้นแต่จะเชิญขุนพลังสุดเหนือฟ้า อาศัยพลังของโลกมาช่วย ไม่งั้นคงไม่มีวิธีแล้ว!”
หานอู๋ซวงแผดเสียงออกมาว่า “ขุนพลังสุดเหนือฟ้าเหรอ ไม่แน่ว่าทั้งประเทศอู่อานอาจหาขุนพลังสุดเหนือฟ้าไม่เจอด้วยซ้ำ ไม่ได้การแล้ว ตระกูลเทียนทำลายอัจฉริยะตระกูลฉัน ฉันจะไปสับเทียนชิงหยางให้เละ แก้แค้นให้หยวนหนิง!”
ผู้อาวุโสสองสามคนห้ามหานอู๋ซวงเอาไว้พร้อมกัน
ผู้อาวุโสใหญ่ที่เป็นหัวหน้า ดึงหานอู๋ซวงกลับมาแล้วพูดว่า “ไร้สาระ นายจะสร้างสงครามภายในสิบตระกูลใหญ่เหรอ นายคิดว่าฝ่าบาทจะนิ่งดูดายไม่สนใจเหรอ นายจะให้ตระกูลหานกลายเป็นตระกูลฉู่ตระกูลที่สองใช่ไหม!”
ผู้อาวุโสอีกคนพูดว่า “ตอนนี้ยังไม่เหมาะ ยังไงพวกเขาก็สู้กันอย่างยุติธรรมบนเขาวิถีบู๊ ความเป็นตายล้วนเป็นไปตามโชคชะตาของแต่ละคน เทียนชิงหยางไม่ได้ฆ่าหยวนหนิงทันที ถือว่าไว้หน้าแล้ว ทั้งด้านความรู้สึกและด้านเหตุผล เราไม่สามารถแย้งอะไรได้เลย”
หานอู๋ซวงกัดฟันพูดว่า “นี่ก็ไม่ได้ นั่นก็ไม่ได้ งั้นควรทำยังไง”
ผู้อาวุโสใหญ่พูดเสียงกังวานว่า “แพ้ยังไง ก็ต้องเอาชนะกลับมาให้ได้อย่างนั้น ตระกูลหานของเราไม่เคยเสียเปรียบขนาดนี้มาก่อน ต้องเอาชัยชนะกลับมาให้ได้!”
ผู้อาวุโสสองสามคนพยักหน้าแรง หานอู๋ซวงขมวดคิ้วพูดว่า “แต่หานหยวนหนิงเป็นลูกหลานที่โดดเด่นที่สุด ในบรรดาคนอายุน้อยของตระกูลหานแล้วนะครับ ขนาดเขายังสู้ไม่ได้ จะไปหาใครได้อีก ถึงเป็นลูกหลานที่โดดเด่นของตระกูลอื่น คงไม่มีใครสามารถสยบเทียนชิงหยางได้ เด็กคนนี้มีพรสวรรค์สูงมาก ตอนนี้ยังได้การถ่ายทอดจากไอ้แก่ทุเรศเทียนซ่วนบรรพบุรุษของพวกเขาอีก ต้องหยิ่งยโสโอหังจนไม่เห็นใครอยู่ในสายตาไปแล้ว!”