เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1162
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1162
เทียนชิงหยางเห็นเขาก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ชื่อเสียงจอมปลอมเท่านั้น สหายหลิ่วเชิญนั่ง ยากที่นายจะให้เกียรติ คนตระกูลอื่นฉันยังเชิญมาไม่ได้เลย มาดื่มกับฉันสักแก้ว!”
หลิ่วเจินนั่งลงช้าๆ เทียนชิงหยางมองเขาด้วยรอยยิ้ม ยกแก้วขึ้นชนกัน
ช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ตอนเขาไม่ลงรอยกับคนตระกูลหาน คนตระกูลใหญ่อื่นๆ กลัวจนพากันหลีกหนีจากเขาแทบไม่ทัน มีเพียงคนตระกูลหลิ่วที่มาดื่มกับเขา
นี่แสดงให้เห็นไม่มากก็น้อยว่าตระกูลหลิ่วยืนข้างเขา
ตระกูลหลิ่วแสดงออกเช่นนี้ ตระกูลหานยิ่งไม่สามารถลงมือ เทียนชิงหยางอารมณ์ดีมาก เงยหน้ากระดกเหล้าดื่มรวดเดียวจนหมด
หลิ่วเจินพูดต่อ “สหายชิงหยาง อันดับหนึ่งในการคัดเลือกครั้งนี้ น่าจะเป็นของนายแล้วล่ะ ต่อไปถ้านายไปเข้าร่วมการแข่งนานาประเทศ ต้องสู้เพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้ประเทศอู่อานของเรานะ!”
เทียนชิงหยางสะบัดฝ่ามือ เชิดหน้าพูดอย่างอกผายไหล่ผึ่งว่า “ก็แค่การแข่งนานาประเทศ ฉันอยากไปตั้งนานแล้ว ได้ยินว่าอันดับหนึ่งของการแข่งนานาประเทศ ยังได้รางวัลเป็นสมบัติล้ำค่าไร้เทียมทานด้วย เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะเอาสมบัติล้ำค่ากลับมาให้ทุกคนดูด้วยกัน”
คนที่อยู่ในที่นี้หัวเราะลั่น
“คุณชายเทียนพูดแล้วต้องทำให้ได้นะ!”
“ใช่ เมื่อถึงตอนนั้นทำให้เราได้เปิดหูเปิดตาหน่อย”
“ฉันว่าถ้าคุณชายเทียนไป ต้องเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากแน่ๆ”
……
คำพูดเยินยอมากมาย ทำให้เทียนชิงหยางจะลอยแล้ว หลิ่วเจินอมยิ้มอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไร เขาแค่จิบเหล้าเบาๆ เท่านั้น
เทียนชิงหยางโบกมือไปมาแล้วพูดว่า “เฮ้อ แต่เรื่องพวกนี้ตัดสินตอนนี้ยังเร็วเกินไป ทุกคนต้องรอหน่อย ทานข้าวกันก่อน คืนนี้ทุกคนกินดื่มสนุกให้เต็มที่ ฉันจ่ายให้ทั้งหมด”
เทียนชิงหยางยกแก้วเหล้าขึ้นมาคารวะให้ทุกคน จู่ๆ ทุกคนพากันลุกขึ้นอย่างประหม่า
หลิ่วเจินก็ลุกขึ้นยืนแล้วปัดก้น จากนั้นพูดว่า “เทียนชิงหยางช่างองอาจจริงๆ หลิ่วเจินสู้ไม่ได้จริงๆ”
เทียนชิงหยางตีแขนหลิ่วเจินแล้วพูดว่า “สหายหลิ่วล้อฉันเล่นเหรอ มานั่งดื่มสิ ยืนทำไมล่ะ”
หลิ่วเจินนั่งพลางพูดว่า “สหายชิงหยาง ได้ยินว่านายมีความแค้นกับเจ้าบ้าหานเพราะผู้หญิงคนหนึ่งเหรอ เรื่องนี้จริงหรือเปล่า”
ทุกคนหูผึ่งทันที ข่าวซุบซิบแบบนี้ปกติไม่ได้ยินกันง่ายๆ นะ
เทียนชิงหยางพูดด้วยรอยยิ้ม “สหายหลิ่วรู้เยอะจริงๆ เพราะผู้หญิงคนหนึ่งจริงๆ เธอไม่ยอมไปกับเขา เธออยากอยู่กับฉัน เขาเลยร้อนใจ เอาแต่จะสู้กับฉัน ฉันก็ทำได้เพียงทำให้เขาพิการ”
หลิ่วเจินพูดด้วยตาเป็นประกาย “งั้นเราขอเจอผู้หญิงคนนี้หน่อยได้ไหม ได้ยินว่าเป็นคนสวยสุดยอด!”
เทียนชิงหยางชะงักไปครู่หนึ่ง พูดอย่างลังเลเล็กน้อยว่า “เอ่อ……”
กลุ่มคนข้างๆ ส่งเสียงโห่ร้องออกมาทันที “คุณชายเทียน ขอพวกเราดูหน่อยเถอะ”
“ใช่ ให้เราดูแวบเดียวก็ได้ เรายังไม่เคยเห็นเลยว่าคนสวยสุดยอดหน้าตาเป็นยังไง”
หลิ่วเจินเห็นท่าทีลังเลของเทียนชิงหยาง เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วไปเถอะ ถือว่าฉันไม่เคยพูดละกัน ที่แท้สหายชิงหยางก็ไม่ใช่คนเปิดเผยตรงไปตรงมาจริงๆ”
เทียนชิงหยางแอบกัดฟันพูดว่า “ดูก็ดูสิ ไปเรียกคุณอู่คงหลิงมา”
ทันใดนั้น พวกคนใช้ส่งเสียงตอบรับ แล้วรีบเดินออกไป
ทุกคนมองไปด้านข้างด้วยความสงสัย แต่ละคนตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
แต่ตอนนี้เอง มีเงาคนลอยลงมาจากฟ้า มาถึงริมแม่น้ำหย่งอาน
มองเรืองดงามนับไม่ถ้วนบนแม่น้ำ ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดพึมพำว่า “ที่นี่แหละ อู่คงหลิง เธออยู่ตรงไหนกันแน่”