เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1185
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1185
“อะไรกัน เทียนชิงหยางสู้ตั้งแต่รอบแรกเลยเหรอ!”
“ใครมันซวยขนาดนี้ รอบแรกก็เจอกับผู้แข่งขันที่มีโอกาสชิงที่หนึ่งได้มากที่สุด!”
ลู่ฝานมองซ้ายมองขวา เห็นบนเจดีย์ทางซ้ายมือ มีคนยืนช็อกอยู่กับที่ คนข้างๆ พากันถอยห่างจากเขา คนคนนี้มองป้ายของตัวเองซ้ำๆ อย่างไม่อยากเชื่อ สุดท้ายจึงกัดฟันเด้งตัวออกมาจากปราณเกราะ
ระดับความสูงเกือบ 300 กว่าเมตร นักบู๊คนนี้ลอยเข้ามาในสนามราวกับใบหลิว ไม่ต้องพูดเรื่องอื่น ระดับวิทยายุทธนี้ อันที่จริงพอใช้ได้เลย
องครักษ์เกราะทองคนหนึ่งตะโกนเสียงดัง “รอบแรก เทียนชิงหยางแห่งตระกูลเทียนสู้กับซูอี้แห่งตระกูลซู!”
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนขององครักษ์ ผู้ชมในงานรู้อย่างแจ่มแจ้งทันที
ที่แท้คนนี้คือลูกหลานตระกูลซูนี่เอง! ตระกูลซูในเมืองหลวง ก็เป็นตระกูลข้าราชการที่มีชื่อเสียง มีผู้แข็งแกร่งออกมาจากตระกูลไม่น้อย
เทียนชิงหยางมองซูอี้ เขาคารวะแล้วพูดเสียงดังว่า “สหายซู ขออภัยด้วย”
ซูอี้ก็คารวะแล้วพูดว่า “โชคไม่ดี ช่วยไม่ได้ สหายชิงหยางช่วยออมมือให้ด้วย!”
พูดออกมาด้วยน้ำเสียงทรงพลัง พลานุภาพยิ่งใหญ่!
ผู้ชมจำนวนไม่น้อยพากันส่งเสียงเชียร์ นี่สิคือลักษณะของนักบู๊!
เทียนชิงหยางดึงกระบี่มังกรคำรามของตัวเองออกมา แล้วชี้ไปทางซูอี้ ตอนนี้ซูอี้ก็ดึงดาบยาวของตัวเองออกมา ชี้ด้วยความสั่นเทาไปทางเทียนชิงหยางเหมือนกัน
พลังปราณของทั้งสองคนพุ่งขึ้นพร้อมกัน คนหนึ่งคือแดนปราณดินขั้นสูงสุด ส่วนอีกคนคือแดนปราณชีวิตขั้นสูงสุด ความแตกต่างอย่างมหาศาล มองเพียงแวบเดียวก็เห็นอย่างชัดเจน
“ฆ่า!”
ทันใดนั้น ซูอี้ชิงลงมือก่อน ความแตกต่างระหว่างพวกเขามากเกินไปจริงๆ ถ้าไม่ชิงลงมือก่อน เขากลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้ลงมือ!
แต่เขาเพิ่งตะโกนออกมา เทียนชิงหยางเก็บกระบี่แล้ว
ซูอี้ยังไม่ทันเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็รู้สึกเจ็บปวดรอบตัว ล้มลงบนพื้น แล้วสลบไปทันที!
หัวหน้าองครักษ์เกราะทองตะโกนว่า “เทียนชิงหยางชนะ!”
“ดี!”
“เก่งเกินไปแล้ว!”
“ไม่เสียแรงที่เป็นเทียนชิงหยางแห่งตระกูลเทียน!”
เสียงพูดคุยดังสะเทือนไปทั่ว ทักษะอันน่าทึ่งที่เทียนชิงหยางแสดงให้เห็น ทำให้ทุกคนตะโกนเชียร์เสียงดัง
เทียนชิงหยางคารวะให้ผู้ชมบนที่นั่งรอบๆ จากนั้นค่อยๆ เดินออกจากสนามบู๊
การต่อสู้เปิดสนามที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ อารมณ์ของทุกคนพลุ่งพล่านขึ้นอีกครั้ง
ฉินซางต้าตี้ปรบมือเบาๆ พยักหน้าไปทางด้านล่าง หัวหน้าองครักษ์เกราะทองสะบัดมือปล่อยแสงออกมา แล้วพูดว่า “รอบต่อไป!”
แสงสีทองปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้ง มีตัวเลขปรากฏออกมา
“หมายเลข 9 สู้กับหมายเลข 13!”
ลู่ฝานยิ้มบางๆ ถึงตาเขาเร็วขนาดนี้เลยเหรอ!
เขายิ่งสงสัยขึ้นเรื่อยๆ ว่าการจับฉลากนี้ จงใจเตรียมการไว้แล้วหรือเปล่า
ค่อยๆ เดินออกจากเจดีย์สูง ลู่ฝานใช้เท้าย่ำก้าวยอดเมฆาฟ้า เหาะไปในสนามบู๊
ตัวลอยลงมาบนพื้น กระบี่หนักไร้คมปรากฏในมือ ลู่ฝานปักกระบี่ลงบนพื้น
“คุณชายลู่ฝาน ฉันจะมีลูกกับนาย!”
เสียงตะโกนรอบๆ ดังขึ้นเป็นระลอก ลู่ฝานรอคู่แข่งตัวเองอยู่เงียบๆ เขาก็จะเปิดสนามอย่างสมบูรณ์แบบเหมือนกัน!
แต่รออยู่นาน กลับไม่เห็นอีกคนหนึ่งลงมา
ลู่ฝานเงยหน้ามองรอบๆ คู่ต่อสู้ของตัวเองล่ะ
หัวหน้าองครักษ์เกราะทองตะโกนว่า “หมายเลข 13 เชิญเข้าสนาม!”
ยังคงไม่มีใครตอบรับ ลู่ฝานขมวดคิ้วขึ้น จู่ๆ เขาเริ่มมีลางสังหรณ์ไม่ดี
ขณะนั้นเอง มีคนตะโกนเสียงดังว่า “หลี่เฟย หมายเลข 13 มาไม่ได้เพราะบาดเจ็บ เขาสละสิทธิ์เองแล้ว!”
เมื่อพูดออกมา คนนับไม่ถ้วนพูดคุยกัน
หัวหน้าองครักษ์เกราะทองมองขึ้นไปบนฟ้า ฉินซางต้าตี้พูดเสียงดังว่า “หลี่เฟยมาไม่ได้เพราะบาดเจ็บจริงเหรอ ทำไมเขาถึงได้รับบาดเจ็บล่ะ”
คนนั้นพูดตอบเสียงดังอีกครั้ง “เพราะโดนคนลอบทำร้ายครับ ไม่ทราบว่าคนร้ายคือใคร!”
ฉินซางต้าตี้ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นพูดต่อ “งั้นถือว่าลู่ฝานชนะแล้วกัน!”
หัวหน้าองครักษ์เกราะทองพูดเสียงดังว่า “ลู่ฝานชนะ!”
ลู่ฝานขมวดคิ้วเป็นปม!