เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1191
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1191
เมื่ออู่จุนลงจากสนาม การสอบภาคแรกของการคัดเลือกรอบสาม เสร็จสิ้นลงอย่างเป็นทางการ
ฉินซางต้าตี้ประกาศเสียงดัง การต่อสู้รอบต่อไปจะจัดขึ้นอีกสามวัน ผู้ชมทุกคนจึงออกไปแบบยังไม่ทันหายอยาก
ลู่ฝานก็ตามกลุ่มคนออกไป แม้เขาผ่านการสอบภาคแรกแล้ว แต่เหมือนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย
ขึ้นมาบนสนาม ไม่ได้ออกกระบวนท่าสักอย่าง ไม่ได้แสดงอะไรออกมาเลย
ถ้าเป็นคนอื่น คงดีใจแบบโง่ๆ คิดว่านี่เป็นเรื่องดี
แต่ลู่ฝานกลับรู้สึกว่ามีคนวางแผนทำร้ายเขา ลู่ฝานไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้ถูกต้องหรือเปล่า ตอนนี้ทำได้เพียงดูไปทีละขั้น
ส่วนการข่มขู่ของเทียนชิงหยาง ลู่ฝานไม่ได้เก็บมาใส่ใจเท่าไร
เดินบนถนนใหญ่ ได้ยินเสียงพูดคุยของกลุ่มคนไปทั่วทุกที่
วันนี้การแสดงออกของยอดฝีมือทุกคน เป็นบุญตาของคนจำนวนไม่น้อยจริงๆ
ลู่ฝานหาร้านน้ำชานั่ง เขาไม่ได้เอากระบี่หนักไร้คมวางไว้ข้างนอก สวมเสื้อผ้าที่ปกติไม่ค่อยใส่ จึงไม่มีใครจำเขาได้
เพราะผู้ชมนั่งอยู่บนที่นั่ง น้อยมากที่จะมองเห็นและจำใบหน้าของนักบู๊ทุกคนได้
ยิ่งไปกว่านั้น ลู่ฝานตั้งใจใช้วิชาบู๊สรรพสิ่งไร้รูปร่างด้วย
แม้ใบหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่ท่าทางและความรู้สึกที่คนอื่นเห็น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
เมื่อคนอื่นมองมา เขากับนักกระบี่แห่งตงหวาที่เจิดจรัสเป็นประกาย เป็นคนละคนกันเลย นี่คือสิ่งที่ลู่ฝานต้องการ
สั่งของกินมานิดหน่อย ลู่ฝานชิมคำเล็กๆ
ขณะกำลังกิน จู่ๆ เด็กผู้ชายคนหนึ่งพุ่งเข้ามา พูดเสียงดังว่า “รายชื่อสิบยอดฝีมือที่เพิ่งออกมาสดๆ ร้อนๆ ใครที่ลงพนันแพ้ชนะ ลงพนันที่หนึ่ง หรือดูการแข่งขันซื้อไว้สักเล่มสิ! เป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้แน่นอน เป็นข้อมูลลับที่พวกคาสิโนเซิ่งซื่อ บ่อนพนันใหญ่ๆ ทำออกมา ด้านในบันทึกผลการต่อสู้ของยอดฝีมือที่โดดเด่นเอาไว้ อีกทั้งยังมีการประเมินอย่างละเอียดด้วย ช่วยพวกคุณให้ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วว่าจะลงพนันใคร! เล่มละหนึ่งเหรียญทอง ค้าขายด้วยความสุจริต!”
ลู่ฝานยิ้มบางๆ มีคนทำของแบบนี้ออกมาด้วยเหรอ
ลู่ฝานสะบัดมือโยนเหรียญทองออกไปหนึ่งเหรียญ แล้วพูดว่า “เอามาให้ฉันหนึ่งเล่ม!”
เด็กผู้ชายรีบโยนให้ลู่ฝานหนึ่งเล่ม กลุ่มคนในโรงน้ำชาก็พากันตะโกนขึ้น
“เอามาให้ฉันหนึ่งเล่ม!”
“ฉันก็อยากดูเหมือนกัน”
เมื่อได้รับสมุดรายชื่อ ลู่ฝานพลิกดู สิ่งที่ปรากฏในสายตาเป็นอันดับแรกคือชื่อของตัวเอง
“ยอดฝีมืออันดับที่สิบ ลู่ฝาน นักกระบี่แห่งตงหวา! หลังจากคนคนนี้มาถึงเมืองหลวง ก็ต่อกรกับยอดฝีมือคนอื่นหลายครั้ง ทำให้มีชื่อเสียงไม่น้อย ในบรรดาการต่อสู้ที่ควรค่าแก่การพูดถึงคือการสู้กับจางกวง มนุษย์เผ่ามังกร หัวหน้าแปดผู้โดดเด่น ลู่ฝานแสดงวิทยายุทธที่เหนือกว่าแดนปราณดินทั่วไป วิชาของเขา จากการประเมินด้วยสายตาของยอดฝีมือ น่าจะเป็นระดับฟ้า กระบี่หนักในมือมีวิชากระบี่ที่โดดเด่น ร่างกายของเขายิ่งไม่ธรรมดา มีความสามารถในการฟื้นฟูแข็งแกร่งมาก เชี่ยวชาญการต่อสู้แบบสุดชีวิต ด้วยเหตุจึงสามารถอยู่ในอันดับที่สิบได้”
ลู่ฝานอ่านคำบรรยายเกี่ยวกับตัวเองในหนังสือ รอยยิ้มเต็มใบหน้า คิดไม่ถึงว่าจะพูดถูกหมดทุกอย่าง ดูเหมือนประชาชนก็มียอดฝีมือที่มีสายตาหลักแหลมโดดเด่นเหมือนกันนะเนี่ย!
เมื่ออ่านไปถึงข้างล่าง ยังมีเชิงอรรถอธิบายเอาไว้ด้วย
“จากข่าวที่เชื่อถือได้ ตอนลู่ฝานนักกระบี่แห่งตงหวา อยู่ที่บ้านเกิดเขตตงหวา สอบผ่านตำแหน่งผู้ตรวจการระดับกลาง ในบรรดานั้นเขาต้องผ่านด่านที่สู้กับสัตว์อสูรซึ่งก็คือกุยวัว! ตอนนั้นวิทยายุทธของลู่ฝานแค่แดนปราณชีวิต ผลการต่อสู้ระดับนี้ ทำให้คนตระหนกตกใจมาก ยิ่งไปกว่านั้น ว่ากันว่าการที่ลู่ฝานได้อยู่ในรายชื่อประเทศ เพราะเขาเคยฟันมารทั้งสี่ร่วงลงมาด้วยกระบี่เดียว ว่ากันว่าแต่ละคนเป็นนักบู๊แดนปราณฟ้า เรื่องนี้พูดกันมานานแล้ว แต่กลับไม่มีใครเชื่อ จนถึงตอนนี้ผู้เขียนก็ไม่กล้าฟันธงว่าเรื่องนี้จริงหรือเท็จ คงทำได้เพียงปล่อยให้ทุกท่านตัดสินกันเอาเอง”