เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1193
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1193
เวลาเดินไปเรื่อยๆ เพียงพริบตาก็ผ่านไปสามวันแล้ว
วันนี้เป็นการสอบรอบสุดท้ายสำหรับพวกที่สอบผ่านรอบแรก คนแน่นสนามต่อสู้แปดทิศตั้งแต่เช้า
ทั้งนอกและในประตู คนหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย พยายามเบียดเข้าไปข้างในสุดชีวิต องครักษ์เกราะเงินที่ยืนอยู่หน้าประตูรั้งเอาไว้ไม่ค่อยอยู่แล้ว
กระจกจำภาพนับไม่ถ้วนวางอยู่ตามถนนและตรอกซอย ในร้านน้ำชาและโรงเหล้าวางไว้เรียบร้อย แขวนเอาไว้สูง เพื่อให้คนดื่มชาพูดคุยกันและรับชมไปด้วย
พื้นที่บางส่วนที่งดงามสูงส่ง สถานที่ที่มีการใช้จ่ายสูง ถึงขั้นทำม่านน้ำสรวงสวรรค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนภาพเพื่อรับชมอย่างละเอียด
ของแบบนี้ทำยากมาก สถานที่ที่มีม่านน้ำสรวงสวรรค์ ต้องมีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่และมีเส้นสาย เทียบกับร้านน้ำชาและโรงเหล้าทั่วไป แตกต่างราวฟ้ากับเหว
ทั้งในและนอกเมืองหลวง ทุกที่ที่สามารถรวมตัวชมการแข่งขันได้ ส่วนใหญ่มีคนนั่งเต็มหมดแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง เด็ก คนชรา ล้วนนั่งกันเรียบร้อย นั่งชมกันครอบครัวละหนึ่งโต๊ะ จำนวนไม่น้อยเลย
ทุกคนในประเทศอู่อานให้ความสำคัญเรื่องบู๊ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย
ส่วนผู้ฝึกชี่มีจำนวนน้อย ทั้งประเทศอู่อาน มีนักบู๊เป็นส่วนใหญ่ และการต่อสู้คัดเลือก เป็นรายการบันเทิงที่หาได้ยากในประเทศอู่อาน ใครจะไม่อยากเห็นหน้าตาของผู้โดดเด่นอายุน้อยแห่งยุคของประเทศอู่อานบ้างล่ะ!
ในสนามต่อสู้แปดทิศ คนเยอะจนไม่ไหวแล้ว
ทุกที่ที่สามารถยืนได้ โดยส่วนใหญ่จะมีคนยืนเต็มหมดแล้ว ส่วนที่ยืนไม่ได้ก็มีคนเบียดกันเต็ม
อันที่จริงราคาตั๋วของสนามต่อสู้แปดทิศ สามวันมานี้อย่างน้อยก็พุ่งสูงขึ้น แต่เมื่อมองดูวันนี้คนเยอะมากจริงๆ
ดูเหมือนประชาชนของเมืองหลวงมั่งคั่งร่ำรวย ไม่ขาดแคลนเงิน!
ด้านบนท้องฟ้า ฉินซางต้าตี้พร้อมองค์ชายทั้งสอง รวมถึงข้าราชการทุกคน นั่งลงเรียบร้อยแล้ว!
พวกเขาไม่ได้จับฉลากการแข่งขันวันนี้
แต่พวกนักบู๊ที่เหลือเป็นคนจับฉลากเอง!
ภายในสนามบู๊ ในห้องที่ลู่ฝานกับเทียนชิงหยางเถียงกันเมื่อสามวันก่อน
หัวหน้าองครักษ์เกราะทอง ถือเซียมซีไม้ไผ่ไว้ในมือ แล้วพูดเสียงเบาว่า “คุณชายคุณหนูทุกคน เชิญครับ เลือกได้หมายเลขไหนก็หมายเลขนั้น เดี๋ยวจะเรียงลำดับเข้าสนามตามหมายเลข!”
ทุกคนพยักหน้า หลังจากนั้นเข้าแถวเดินเข้าไปจับฉลากตามลำดับ!
เมื่อเลือกออกมา หัวหน้าองครักษ์เกราะทองจะประกาศชื่อและหมายเลข มีข้าราชการคอยจดบันทึกอยู่ข้างๆ
“เทียนชิงหยาง หมายเลข 16!”
“ฟู่เต๋อ หมายเลข 53!”
“หลู่ยิน หมายเลข 7!”
ไม่นานก็ถึงตาลู่ฝาน ตอนนี้มีคนจับฉลากเสร็จไปเกือบครึ่งแล้ว พากันสอบถามกันไปมาว่าคู่ต่อสู้ของตัวเองคือใคร
ลู่ฝานยื่นมือเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ แล้วดึงก้านไม้ไผ่ออกมาหนึ่งอัน
หัวหน้าองครักษ์เกราะทองมองแวบหนึ่ง แล้วพูดเสียงดังว่า “ลู่ฝาน หมายเลข 5!”
ลู่ฝานมองตัวเลข แล้วเดินไปที่เจ้าหน้าที่จดบันทึก จากนั้นมองไปยังกระดาษ
ใช้สายตากวาดตามอง ลู่ฝานเห็นแล้วว่าหมายเลข 6 คือใคร
“เจี่ยจวิ้น!”
ลู่ฝานไม่ค่อยมีความทรงจำอะไรกับชื่อนี้เท่าไร
เมื่อกวาดตามอง ลู่ฝานจำไม่ได้ว่าใครคือเจี่ยจวิ้น จึงยอมแพ้แล้วเดินไปนั่งอีกด้าน จากนั้นหลับตาเพื่อพักสายตา
ประกายประหลาดฉายขึ้นนัยน์ตาเทียนชิงหยาง เขาค่อยๆ เดินไปทางชายคนหนึ่ง
“สหายเจี่ย นายหมายเลข 6 ใช่ไหม!”
ตอนนี้เหงื่อเต็มหน้าผากเจี่ยจวิ้น เขาพยักหน้าพูดว่า “ใช่ ฉันหมายเลข 6 คุณชายเทียนมีอะไรชี้แนะหรือเปล่า!”
เทียนชิงหยางทำท่าบอกให้เงียบเสียง แล้วพูดเบาๆ ว่า “สหายเจี่ย มาคุยกันทางนี้!”
เทียนชิงหยางลากเจี่ยจวิ้นมาอีกด้าน แล้วพูดเสียงเบาว่า “สหายเจี่ย นายคือคนที่ไท่จื่อแนะนำเข้ามาใช่ไหม”
เจี่ยจวิ้นพยักหน้าพูดว่า “ใช่ เจี่ยโหวเจวี๋ยลุงของฉันเป็นคนปูทางให้ ฉันได้โควตารายชื่อมาจากไท่จื่อ เอายามายกระดับวิทยายุทธ และได้มาที่นี่”