เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1194
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1194
เทียนชิงหยางพูดเสียงเบาว่า “งั้นวันนี้นายยินดีช่วยไท่จื่อไหม”
เจี่ยจวิ้นแววตาวูบไหว พูดเสียงเบาว่า “คุณชายเทียน ถ้านายจะให้ฉันฆ่าลู่ฝาน โปรดอภัยที่ฉันไม่มีความสามารถนี้ ถึงนายให้ยาฉันอีกกองใหญ่ ฉันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของลู่ฝานอยู่ดี ตอนนี้ฉันกำลังกลุ้มว่าอีกเดี๋ยวจะขึ้นไปยอมแพ้ดีหรือเปล่า!”
เทียนชิงหยางพูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า “นายไม่จำเป็นต้องชนะเขา นายฟังรายละเอียดก่อน”
เทียนชิงหยางยื่นปากไปข้างหูเจี่ยจวิ้น บอกแผนการที่เขาปรึกษากับไท่จื่อออกมาจนหมด
หลังจากเจี่ยจวิ้นฟังจบ สีหน้าเขาเปลี่ยนไปมาก จากนั้นพูดว่า “วิธีนี้โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว”
เทียนชิงหยางจับแขนเจี่ยจวิ้นเอาไว้ ออกแรงเบาๆ แล้วพูดว่า “สหายเจี่ย โหดเหี้ยมหรือเปล่า ไม่ใช่เรื่องที่นายจะตัดสินได้ นายแค่ทำตามเท่านั้น หลังจากเสร็จเรื่อง รับรองว่านายจะได้รับตำแหน่งในเมืองหลวงทันที ตระกูลจะร่ำรวยไปตลอดกาล!”
เจี่ยจวิ้นแอบกัดฟัน แล้วพูดว่า “ได้ ฉันจะทำเรื่องนี้เอง หวังว่าไท่จื่อกับคุณชายเทียนชิงหยางจะไม่เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล!”
เทียนชิงหยางค่อยๆ เอายาขวดหนึ่งยัดเข้าไปในมือเจี่ยจวิ้น แล้วพูดว่า “แค่ยาขวดนี้ ก็มีค่าเท่ากับสิ่งที่นายทำทั้งหมดแล้ว นายจัดการอย่างไม่ต้องกังวลได้เลย!”
เจี่ยจวิ้นใช้มือบีบขวดยาสองสามครั้ง พยักหน้าแล้วรีบเดินไปทางลู่ฝาน
เทียนชิงหยางมองด้านหลังเจี่ยจวิ้นด้วยรอยยิ้ม เรื่องสนุกกำลังจะเริ่มแล้ว
“หมายเลข 1 หมายเลข 2 ลงแข่งในสนามได้แล้ว!”
หัวหน้าองครักษ์เกราะทองตะโกนขึ้น ทันใดนั้นนักบู๊สองคนในห้องเดินออกไปข้างนอก
ในเวลาเดียวกัน ในห้องมีม่านน้ำสรวงสวรรค์สว่างขึ้นมากมาย เห็นสถานการณ์ทุกอย่างในสนามบู๊!
ลู่ฝานลืมตาขึ้น มองไปทางม่านน้ำสรวงสวรรค์
แต่ขณะนั้นเอง จู่ๆ มีชายคนหนึ่งเดินมาหน้าเขาแล้วคารวะ จากนั้นพูดเสียงดังว่า “สหายลู่ฝาน ยินดีที่ได้รู้จัก!”
ลู่ฝานหันมามองเขาแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “นายคือใคร”
ผู้ชายพูดเสียงดังว่า “ฉันชื่อเจี่ยจวิ้น อีกเดี๋ยวจะเป็นคู่ต่อสู้ของสหายลู่ฝาน!”
ระหว่างพูด เจี่ยจวิ้นเอาก้านไม้ไผ่ออกมาให้ลู่ฝานเห็นชัดๆ
นักบู๊คนอื่นพากันมองมาทางลู่ฝานจำนวนไม่น้อย
ลู่ฝานพูดด้วยรอยยิ้ม “ที่แท้ก็สหายเจี่ยนี่เอง เสียมารยาทแล้ว!”
เจี่ยจวิ้นพูดว่า “ไม่ทราบว่าฉันนั่งคุยข้างสหายลู่ฝานได้ไหม”
ลู่ฝานพูดว่า “ได้อยู่แล้ว เชิญนั่ง!”
เจี่ยจวิ้นยิ้มแล้วนั่งลงข้างลู่ฝาน หลังจากนั้นเก็บก้านไม้ไผ่เอาไว้ แล้วพูดว่า “สหายลู่ฝาน อีกเดี๋ยวจะเป็นการแข่งขันของนายกับฉัน สหายลู่ฝานไม่ต้องออมมือนะ แม้ฉันรู้ว่าตัวเองสู้สหายลู่ฝานไม่ได้ แต่จะพยายามสู้สุดชีวิต วิถีบู๊ที่ฉันฝึกฝนมาอย่างยากลำบากตั้ง20 ปีจะได้ไม่เสียเปล่า!”
คำพูดของเจี่ยจวิ้น ทำให้นักบู๊ที่อยู่ข้างๆ จำนวนไม่น้อย หันมามองด้วยสายตาชื่นชม
คำพูดองอาจห้าวหาญเช่นนี้ คนธรรมดาพูดออกมาไม่ได้หรอก คนจำนวนไม่น้อยชื่นชมเจี่ยจวิ้นว่าเป็นผู้ชายอย่างแท้จริง
ลู่ฝานได้ยินคำพูดของเจี่ยจวิ้น สีหน้าประหลาดเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะคำพูดของเจี่ยจวิ้นมีอะไรผิดปกติ แต่ตอนเจี่ยจวิ้นพูดแบบนี้ออกมา ทำไมมือถึงสั่น เหงื่อซึมออกมาบนหน้าผาก หายใจเร็วขึ้น
นี่ไม่ค่อยเหมือนอาการตื่นเต้น แต่เหมือนอาการเครียดมากกว่า!
ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “วางใจเถอะ สหายเจี่ย ฉันทุ่มเต็มกำลังแน่นอน!”
เจี่ยจวิ้นพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นเริ่มพูดคุยกับลู่ฝานไปเรื่อยเปื่อย
“สหายลู่ฝานเป็นคนเขตตงหวา พูดไปพูดมาฉันยังไม่เคยไปเขตตงหวาเลย เล่าให้ฉันฟังได้ไหม”
คนอื่นพูดขนาดนี้แล้ว ลู่ฝานทำได้เพียงตอบๆ ไปเท่านั้น