เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1206
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1206
ฉินอวิ่นพยักหน้าพูดว่า “ดีมาก ฉันต้องการแบบนี้แหละ เดิมทีฉันจะหายอดฝีมือสักคนในสิบตระกูลใหญ่มาจัดการเขา ตอนนี้มีนายแล้ว ผลยิ่งดีเข้าไปอีก นายพยายามให้ได้เป็นอันดับหนึ่งในการคัดเลือกด้วยสิ ต่อไปเมื่อเข้ามาในจวนไท่จื่อของฉัน นายเลือกตำแหน่งได้ตามสบายเลย”
อู่จุนมีสีหน้ายินดีออกมาสุดขีด “ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยตรงไปตรงมาจริงๆ ฉันขอแค่ได้เป็นผู้ติดตามข้างกายไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย แสวงหาความสุขกับไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยทุกวันก็พอแล้ว!”
ฉินอวิ่นหัวเราะร่าแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ได้อยู่แล้ว มาสิ พวกเธอกลัวอะไรกัน รีบมาปรนนิบัติคุณชายอู่จุนเร็วๆ!”
ฉินอวิ่นกวักมือตะโกนเรียกสาวงามข้างๆ
เหล่าโสเภณีรีบซอยเท้าเดินกลับมาทันที มุดเข้าไปในอกของอู่จุนกับฉินอวิ่น
ทั้งสองคนหัวเราะไม่หยุด ดังก้องไปทั่วตำหนัก
อู่จุนเก็บเงาดำ ส่ายหัวไปมาอย่างมีความสุขแล้วพูดว่า “คนกระจอกอย่างลู่ฝาน ไม่ควรค่าให้พูดถึง!”
……
หลังผ่านไปสามวัน
สนามต่อสู้แปดทิศ ผู้คนเบียดเสียดกันแน่นจนไม่มีที่ว่าง
“ตระกูลหานมาถึงแล้ว!”
เมื่อตะโกนออกมา บนที่นั่งผู้ชม รีบแยกออกเป็นทางเดิน
แม้คนทั้งสองข้างเบียดกันจนแทบจะขาดอากาศหายใจแล้ว แต่ก็ยังเว้นทางเดินออกมาได้
หานอู๋ซวง ผู้อาวุโสใหญ่ รวมถึงลูกหลานตระกูลหานมาถึงอย่างพร้อมเพรียง
เดินมาจนถึงด้านหน้าสุดของที่นั่งผู้ชม จากนั้นนั่งลงช้าๆ
“คึกคักจริงๆ!”
หานอู๋ซวงหัวเราะร่าแล้วเอ่ยขึ้น
การแข่งขันไม่กี่รอบก่อนหน้านี้เขาไม่ได้มาเลย ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบดูการแข่งขัน แต่ไม่กี่รอบก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรน่าดูจริงๆ ตอนนี้ถึงจะเป็นการต่อสู้ของยอดฝีมืออย่างแท้จริง แต่ละรอบล้วนแข็งแกร่ง บวกกับวันนี้เป็นการต่อสู้รอบที่สามของลู่ฝาน จากการคาดเดาของเขา น่าจะเป็นการต่อสู้ที่สำคัญ การต่อสู้ระดับนี้เขาต้องมาดูอยู่แล้ว ไม่เพียงแค่เขา สิบสามกับเจ้าดำก็ตามมาด้วย นั่งอยู่ด้านหลังหานอู๋ซวง
ผู้คนรอบๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ เหตุผลก็ง่ายมาก ช่วงนี้ตระกูลหานมีเรื่องเยอะแยะไปหมด แม้ก่อนหน้านี้ไม่ได้ปะทะกับตระกูลเทียนเหมือนที่จินตนาการไว้ แต่ใครจะรับประกันได้ล่ะว่าวันนี้ตระกูลหานจะไม่ก่อเรื่อง ดังนั้นอยู่ห่างไว้ดีกว่า
“ตระกูลเทียนมาถึงแล้ว!”
สวมชุดขาวทั้งหมด เจ้าบ้านตระกูลเทียนนำลูกหลานตระกูลเทียนมาเชียร์เทียนชิงหยางเช่นกัน
ในความคิดของคนตระกูลเทียน การคัดเลือกนี้เป็นแค่ทางผ่านให้เทียนชิงหยางสู่จุดสูงสุดเท่านั้น ดังนั้นลูกหลานตระกูลเทียนแต่ละคนหยิ่งยโสเป็นอย่างมาก
“ตระกูลสือมาถึงแล้ว!”
“ตระกูลสุ่ยมาถึงแล้ว!”
“ตระกูลถานไถมาถึงแล้ว!”
……
ไม่นาน สิบตระกูลใหญ่ตระกูลอื่นๆ พากันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ละตระกูลเป็นตระกูลใหญ่ของประเทศอู่อานที่สืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน แน่นอนว่าไม่มีใครยอมใคร ล้วนมีใบหน้าหยิ่งผยอง
บนท้องฟ้า เงาของฉินซางต้าตี้และพวกค่อยๆ ปรากฏออกมาเช่นกัน
ทันใดนั้น ผู้ชมทั้งหมดพากันตะโกนเสียงดัง ใบหน้าฉินซางต้าตี้และพวกเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
วันนี้ตรงมุมที่นั่งของผู้ชมก็มีผู้อาวุโสอยู่หลายคนเช่นกัน
พวกเขาวางโต๊ะตัวเล็กๆ เอง นั่งอยู่ด้านบนสุดของที่นั่งผู้ชม แทะเมล็ดแตงโมไปพลางดูไปพลาง เหมือนคนอื่นมองไม่เห็นพวกเขาอย่างไรอย่างนั้น
“ไอ้อ้วนตง นายดูได้เลย วันนี้ลู่ฝานต้องเอาจริงแน่นอน เรามาพนันกันไหมว่าสองสามวันนี้เขาฝึกวิชาของใคร ยัยแก่หยาง เซวียนหยวน พวกนายคิดว่าไง”
“ฉันว่าได้”
“ฉันว่าไม่น่ามีปัญหา!”
สองสามคนหัวเราะอย่างราบเรียบ
ทว่าตอนนี้มีผู้อาวุโสคนหนึ่งโผล่มา นั่งลงข้างไอ้อ้วนตงแล้วพูดว่า “ฉันร่วมด้วยคนได้ไหม”
เมื่อสองสามคนเห็นผู้อาวุโสคนนี้ พากันอึ้งเล็กน้อย
ไอ้อ้วนตงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ลุงเฒ่าหวู นายก็มาเหรอ ช่วงนี้นายไปไหนมาล่ะ”
หวูเฉินยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ทำเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย โอเค เริ่มแล้ว!”
ปึง!
เสียงดังสนั่น แสงนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ระเบิดกลางท้องฟ้ากลายเป็นลวดลายดอกไม้สวยงามหลากหลายรูปแบบ
หลังจากนั้นเสียงหัวหน้าองครักษ์เกราะทองดังขึ้น
“การคัดเลือกรอบที่สาม เข้ารอบได้เพียง 16 คนจาก 32 คน การแข่งขันเริ่มขึ้นได้!”