เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1213
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1213
ตอนนี้จู่ๆ ฉินซางต้าตี้ที่อยู่ข้างๆ พูดออกมาว่า “เด็กคนนี้ไม่เลว ฉันว่าเขาเข้ามาเป็นตัวสำรองในหน่วยองครักษ์เสิ่นหวาได้!”
เพียงประโยคเดียว ฉินอวิ่นตกใจจนเกือบสะดุ้งออกมา
หน่วยองครักษ์เสิ่นหวา!
ถ้าลู่ฝานเข้ามาในหน่วยองครักษ์เสิ่นหวาก็ซวยสิ
หน่วยองครักษ์เสิ่นหวาเป็นกำลังแข็งแกร่งสุดของประเทศ นักบู๊แต่ละคนภายในนั้น เรียกได้ว่าเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองประเทศ มีอำนาจยิ่งใหญ่ เหนือจินตนาการของคนทั่วไปมาก
เรียกได้ว่าในประเทศอู่อานนอกจากฝ่าบาท ก็มีหน่วยองครักษ์เสิ่นหวานี่แหละที่มีอำนาจใหญ่ที่สุด มีอำนาจชี้เป็นชี้ตายกับพวกข้าราชการ ฉินอวิ่นเคยได้ยินหน่วยองครักษ์เสิ่นหวาคนหนึ่งพูดลอยๆ ออกมาว่าฆ่าล้าง ก็สามารถทำลายข้าราชการระดับสูงในเมืองหลวงไปได้หลายคน รวมถึงคนในครอบครัวด้วย ฆ่าไปด้วยพร้อมกันทั้งหมด ถอนรากถอนโคน เลือดไหลนอง
ถึงเป็นไท่จื่อ เมื่อเจอผู้แข็งแกร่งในหน่วยองครักษ์เสิ่นหวา ยังต้องทำความเคารพ
อย่างเช่น อีหมิง ผู้แข็งแกร่งในหน่วยองครักษ์เสิ่นหวา เขาคือผู้มีอำนาจอย่างแท้จริงในประเทศอู่อาน อีหมิงเคยชี้หน้าฝ่าบาทแล้วพูดว่า
“ประเทศไร้ประมุขได้ แต่ไร้ผู้แข็งแกร่งไม่ได้ มีผู้แข็งแกร่ง ประเทศก็คงอยู่ ประมุขเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ ผู้แข็งแกร่งดับสูญ ประเทศดับสลาย มีประมุขจะมีประโยชน์อะไรอีก!”
ประโยคนี้พูดจนฝ่าบาทยังต้องทำความเคารพเขา เพื่อรับคำสอน
อีกทั้งในหน่วยองครักษ์เสิ่นหวามีคนที่คิดแบบนี้ไม่น้อย ในนั้นมีแต่พวกบ้าวิถีบู๊อย่างจริงจริง ถ้าลู่ฝานเข้าไปในหน่วยองครักษ์เสิ่นหวา มีอำนาจแข็งแกร่งยิ่งใหญ่ งั้นไท่จื่ออย่างเขาคงเป็นได้แค่คนที่ถูกรังแก ไม่แน่เดินไปบนถนนแล้วโดนคนทุบตี ก็อาจเป็นไปได้
จะให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด
ฉินอวิ่นรีบพูดว่า “เสด็จพ่อ ลู่ฝานยังคัดเลือกไม่เสร็จ ให้เขาเข้าหน่วยองครักษ์เสิ่นหวาตอนนี้คงเร็วไปหน่อย”
ฉินซางต้าตี้จ้องฉินอวิ่นเขม็งแล้วพูดว่า “อืม นายพูดมีเหตุผลเหมือนกัน งั้นค่อยว่ากัน!”
ฉินอวิ่นถึงกับโล่งอก มองลู่ฝานในสนาม แววตาแปรเปลี่ยนเป็นสับสนอย่างมาก
อู่จุนโดนคนหามไปอย่างรวดเร็ว เขาเหลือแรงเพียงน้อยนิดเท่านั้น
นี่ไม่ใช่เพราะลู่ฝานทำพลาด แต่ลู่ฝานเจตนาทำอย่างนั้นต่างหาก
เขาไม่อยากฆ่าอู่จุนตอนนี้ เขาจะใช้อู่จุนล่ออู่ชิงเฉิงออกมา ความแค้นของเซียนสือฟาง ลู่ฝานคิดว่าถ้าแก้แค้นได้ก็แก้แค้น ถ้าแก้แค้นไม่ได้ก็ต้องหาวิธีแก้แค้นให้ได้
ลู่ฝานเดินลงจากสนามช้าๆ ตอนนี้คนทั้งงานไม่ได้ส่งเสียงเชียร์ลู่ฝาน มีเพียงเสียงปรบมือเท่านั้น
จินตนาการได้เลยว่าวันนี้บ่อนพนัน คงมีคนไม่น้อยต้องจ่ายจนสิ้นเนื้อประดาตัว
และจินตนาการได้อีกว่าหลังจากวันนี้ อัตราต่อรองในบ่อนพนันใหญ่ๆ ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก อันดับรายชื่อของลู่ฝานจะสูงขึ้นขนาดไหนกันนะ
ลู่ฝานเดินกลับมาในห้องรอ ครั้งนี้นักบู๊คนอื่นไม่กล้าแสดงสีหน้าเยาะเย้ยออกมาอีกแล้ว พวกเขาแอบเทียบกับอู่จุน พบว่าพวกเขามีแค่ไม่กี่คนที่สู้อู่จุนได้ งั้นเมื่อพวกเขาอยู่ต่อหน้าลู่ฝาน ยังมีสิทธิ์อะไรมาทำเป็นหยิ่งยโสเย็นชา
แม้แต่เทียนชิงหยาง ตอนนี้ก็มองลู่ฝานเหมือนเจอศัตรูตัวฉกาจ
ตอนแรกเขาไม่เคยคิดเลยว่าลู่ฝานจะสู้เขาได้ แต่ตอนนี้เขาต้องมองความแข็งแกร่งของลู่ฝานอย่างจริงจัง พละกำลังสามารถสู้กับเขาได้แล้วจริงๆ อีกทั้งอัตราชนะของลู่ฝานยังไม่น้อยอีกด้วย
ลู่ฝานนั่งลง คนอื่นออกห่างจากเขาไปไกลโดยอัตโนมัติ
ทว่าตอนนี้กลับมีคนหนึ่งเดินเข้ามา มองลู่ฝานด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า “ลู่ฝาน นายเก่งขนาดนั้นเลยหรือไง”
ลู่ฝานหันไปมอง เห็นหลู่ยินเดินค้ำไม้เท้าเข้ามา
จู่ๆ หลู่ยินขยับมือ ลู่ฝานเห็นมวลแสงอยู่ในมือตัวเอง อีกทั้งยังรวมตัวเป็นตัวอักษร “แข็งแกร่ง!”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ที่แท้เธอแอบเตือนฉันแบบลับๆ นี่เอง!”
หลู่ยินพูดว่า “ก็ใช่น่ะสิ นอกจากฉันใครจะเป็นห่วงนายอีกล่ะ!”