เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1217
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1217
“กระบี่ฝูหลิ่ว โล่เสวียนเจวี๋ย นี่มันอะไรกัน”
ลู่ฝานดูการแข่งขันในสนาม แล้วถามออกมาเสียงเบา
หานเยียนที่อยู่ข้างๆ มองผู้อาวุโสด้านหลัง ผู้อาวุโสรีบยื่นหน้าเข้ามาแล้วพูดว่า “นี่คือสมบัติสำคัญของสิบตระกูลใหญ่ในประเทศอู่อาน หรือเรียกว่าสิบอาวุธวิเศษ อาวุธแต่ละชิ้นเป็นสิ่งที่ผู้แข็งแกร่งบรรพบุรุษของพวกเขาสืบทอดต่อกันมา ถ้าไม่ใช่คนที่เจ้าบ้านถ่ายทอดให้ จะไม่สามารถใช้ได้”
หานเยียนพยักหน้าเข้าใจแล้วพูดว่า “ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง แต่ก็แค่อาวุธเซียนบู๊ไม่กี่ชิ้นเท่านั้นเอง จะเรียกว่าอาวุธวิเศษได้ยังไง”
ลู่ฝานแอบเงี่ยหูฟังที่ผู้อาวุโสอธิบายอยู่ตลอดเวลา ได้ยินตอนที่หานเยียนวิจารณ์สิบอาวุธวิเศษ คิดไม่ถึงว่าเธอจะมีสีหน้าดูหมิ่น เขาแอบตกใจเล็กน้อย
หานเยียนมองลู่ฝาน แล้วขมวดคิ้วพูดว่า “นายมองฉันทำไม อย่าบอกนะว่าฉันพูดผิด”
ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ตอบอะไร
ในสนาม สือเฉินที่เอาโล่เสวียนเจวี๋ยออกมา พลานุภาพเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทันที
หันกลับมามองหลิ่วเจิน สีหน้าเขาดูเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก!
เจ้าบ้านตระกูลหลิ่วใบหน้าตกใจ หันไปมองเจ้าบ้านตระกูลสือ เหมือนกำลังพูดว่า “คิดไม่ถึงว่าตระกูลสือของพวกนายก็เอาอาวุธวิเศษออกมาเหมือนกัน!”
เจ้าบ้านตระกูลสือยิ้มอย่างได้ใจ เห็นสายตาของเจ้าบ้านตระกูลหลิ่วก็รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร จึงพูดเสียงดังว่า “ตระกูลหลิ่วของพวกนายเอาอาวุธวิเศษออกมาได้ ตระกูลสือของเราก็เอาออกมาได้เหมือนกัน ใครกลัวกันล่ะ!”
เจ้าบ้านตระกูลหลิ่วตอบกลับเสียงดังว่า “คอยดูเถอะ!”
เสียงของเจ้าบ้านสองตระกูลดังเข้าหูหลิ่วเจินกับสือเฉิน
หลิ่วเจินกำกระบี่ฝูหลิ่วเอาไว้ในแน่น ตัวของเขาเริ่มเลือนราง
“อย่าคิดว่ามีโล่เสวียนเจวี๋ยแล้วจะเอาชนะฉันได้!”
สือเฉินขี้เกียจพูดไร้สาระ ต่อยลงบนโล่เสวียนเจวี๋ย เสียงอึกทึกดังออกมาทันที ดินยกตัวเป็นคลื่นสูงหลายเมตร!
หลิ่วเจินโดนบีบจนต้องถอยหลังกรูด กระบี่ฝูหลิ่วตวัดไปมาอย่างรวดเร็ว แสงกระบี่ฟาดฟันคลื่นดินจนแหลกสลาย
ตัวกลายเป็นความว่างเปล่า กระบี่เหมือนแสงเลเซอร์สีเขียว พุ่งเข้าไปที่ซีกหน้าของสือเฉิน
สือเฉินกระแทกหมัดลงบนโล่เสวียนเจวี๋ยอีกครั้งโดยไม่มองแม้แต่น้อย!
ทันใดนั้น หลิ่วเจินที่พุ่งมาข้างหน้าสะเทือนไปทั้งตัว เหมือนโดนพลังปราณที่น่ากลัวจู่โจมใส่ เกือบหลุดออกมาจากสภาวะความว่างเปล่า
สะกดกลั้นความเจ็บปวด หลิ่วเจินแทงกระบี่ลงบนโล่เสวียนเจวี๋ยของสือเฉิน
แสงสีเขียวในกระบี่เข้าไปในโล่ ส่งเข้าไปในตัวสือเฉิน
เส้นลมปราณแตกกระจาย แสงสีเขียวพลุ่งพล่าน
สือเฉินกัดฟัน ยกโล่ขึ้นมากระแทกลงบนตัวหลิ่วเจินทันที
พื้นที่ว่างแตกออกทันที สภาวะความว่างเปล่าอะไรนั่น โดนกระแทกจนปลิว
ตู้ม!
ในสนามมีฝุ่นหลายสิบเมตรลอยขึ้นมาทันที
ค่ายกลนับไม่ถ้วนแตกกระจายอย่างต่อเนื่อง สือเฉินกลับหลิ่วเจินถอยหลังไปพร้อมกัน!
พรวด!
หลิ่วเจินเอากระบี่ค้ำลงบนพื้น ยันร่างกายตัวเองเอาไว้ เลือดทะลักออกมาจากปากไม่หยุด
สือเฉินแผดเสียงออกมา ตัดแขนขวาตัวเองจนขาด ผนึกแสงสีเขียวที่กำลังแผ่ซ่านเข้ามาเอาไว้
ทั้งสองคนต่างมองอีกฝ่ายแล้วยิ้มบางๆ
“ดูเหมือนฉันแพ้แล้ว!”
หลิ่วเจินพูดออกมา
สือเฉินพยักหน้าพูดว่า “กระบี่ฝูหลิ่วของนายยังแข็งแกร่งไม่พอ ไปเรียนมาใหม่เถอะ อันที่จริงโล่เสวียนเจวี๋ยอยู่ข้างกายฉันมาสิบปีแล้ว!”
หลิ่วเจินหัวเราะแล้วพูดว่า “ดูเหมือนฉันแพ้อย่างไม่คับข้องใจ!”
เมื่อพูดจบ หลิ่วเจินล้มลงบนพื้น กระบี่ฝูหลิ่วกลายเป็นแสงเข้าไปในตัวหลิ่วเจิน
ตอนนี้ฝุ่นพร้อมกับหินมากมายร่วงลงมา หัวหน้าองครักษ์เกราะทองพูดเสียงดังว่า “สือเฉินชนะ!”
เสียงเชียร์ดังสะเทือนเลือนลั่น
สือเฉินเก็บโล่เสวียนเจวี๋ย ยกมือซ้ายของตัวเองขึ้นสูง
ลู่ฝานปรบมือเบาๆ วิทยายุทธของสือเฉินไม่เลวจริงๆ เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
เจ้าบ้านตระกูลสือยิ้มอย่างมีความสุข เจ้าบ้านตระกูลหลิ่วดูไม่พอใจเล็กน้อย แต่โทษใครไม่ได้ ใครใช้ให้เขามอบอาวุธวิเศษให้ช้าเองล่ะ