เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1233
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1233
“ขลุ่ยอายุยืนของตระกูลหลู่งั้นเหรอ”
“นี่คือขลุ่ยอายุยืน หนึ่งในสิบอาวุธวิเศษเหรอ”
เสียงอุทานอย่างตกใจดังขึ้น
ลู่ฝานอดมองไปที่ขลุ่ยในมือหลู่ยินไม่ได้
หลังจากหลู่ยินพูดจบ ก็เป่าขลุ่ยต่อ
ซ่งหยางที่อยู่ในสนาม พลังปราณทั้งตัวเริ่มปั่นป่วน
แต่วินาทีต่อมา ซ่งหยางแสดงความห้าวหาญของนักบู๊ออกมา เห็นเขากัดปลายลิ้นของตัวเองอย่างโหดเหี้ยม ใช้ความเจ็บปวดมาสร้างความเด็ดเดี่ยวให้ความตั้งใจของตัวเอง ฝืนทำให้พลังปราณของตัวเองมั่นคง!
ต่อมาซ่งหยางเด้งตัวขึ้น พุ่งเข้าไปฆ่าหลู่ยินอีกครั้ง
“กระบี่อาทิตย์ลุกโชน!”
เมื่อจู่โจมออกมา ลูกไฟเต็มทั้งท้องฟ้า
เงาของหลู่ยินหายไปอย่างไร้ร่องรอยทั้งหมด
ซ่งหยางใช้เท้าเหยียบอยู่บนเปลวเพลิง เมื่อมองไปรอบๆ กลับไม่เห็นเงาของหลู่ยิน
ขณะที่เขากำลังหาอยู่ จู่ๆ ขลุ่ยยาวปรากฏข้างหูเขา ในเวลาเดียวกันเงาของหลู่ยินที่เป็นเปลวเพลิงนับไม่ถ้วนก็ปรากฏออกมาจากเปลวเพลิง
ทุกคนตะลึง ไม่รู้ว่าหลู่ยินใช้วิชาอะไร
ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ เขาพอมองอะไรออกอยู่บ้าง
“ใช้เวทมนตร์ก่อตัวเป็นรูปร่าง ใช้ภาพลวงตาขยายเสียง ฟ้าดินห้าธาตุสามารถส่งต่อเสียงได้ ซ่อนเสียงขลุ่ยเอาไว้ในพลังฟ้าดินธาตุไฟ แค่ซ่งหยางใช้พลังฟ้าดินธาตุไฟ จะได้ยินเสียงขลุ่ย เป็นวิธีที่โหดมาก!”
ลู่ฝานเป็นคนที่เคยร่ำเรียนในตระกูลหลู่ มองแวบเดียวก็รู้ทักษะที่หลู่ยินใช้
ทักษะนี้ไม่ได้สูงส่ง แต่เมื่ออยู่ในมือหลู่ยิน กลับเต็มไปด้วยความอันตรายและใช้งานได้เป็นอย่างดี
เห็นซ่งหยางที่ได้ยินเสียงขลุ่ย ตวัดดาบไปรอบๆ อย่างสุดชีวิตอีกครั้ง!
“เพลิงเผาสวรรค์!”
เปลวเพลิงน่ากลัวล้อมทั้งสนามบู๊เกือบทั้งสนาม เปลวเพลิงพุ่งเข้ามาหากำแพงชี่ใสด้านหน้าลู่ฝาน
พูดตามตรง พลังป้องกันของกำแพงชี่น่าทึ่งมาก
วิชาดาบเปลวเพลิงที่น่ากลัวของซ่งหยาง คิดไม่ถึงว่ากระแสลมยังต้านทานเอาไว้ได้
เปลวเพลิงอันบ้าคลั่ง ไม่สามารถทำลายเข้ามาได้สักนิด
ทันใดนั้น เปลวเพลิงหายไป ซ่งหยางโงนเงนลงมาบนพื้น ดูเขาทรงตัวไม่มั่นคง
พลังปราณทั้งตัวกำลังลดลง ผิวหนังและกระดูกบนตัวเขาก็กำลังเหี่ยวเหมือนกัน
ในที่สุดซ่งหยางต้านทานเสียงขลุ่ยที่เข้ามารบกวนสมองไม่ไหวแล้ว เขาทรุดลงบนพื้น
ตอนนี้บนพื้นมีปีกใสสองอันปรากฏออกมา ตัวของหลู่ยินปรากฏอยู่ในสายตาของทุกคนอีกครั้ง เหมือนเธอยืนอยู่ตรงนั้นตลอดเวลา แต่ปีกที่สามารถล่องหนได้ ปกคลุมร่างผอมบางของเธอไว้ทั้งหมด
หลู่ยินเก็บขลุ่ยแล้วพูดว่า “นายแพ้แล้ว!”
พูดจบ หลู่ยินดีดนิ้ว ซ่งหยางพ่นเลือดออกมาทันที ล้มลงบนพื้นไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก
“หลู่ยินชนะ!”
หัวหน้าองครักษ์เกราะทองประกาศเสียงดัง
ปีกของหลู่ยินเปลี่ยนกลับมาเป็นไม้เท้าอีกครั้ง เธอเดินช้าๆ กลับไปนั่งลงบนเก้าอี้กิเลนของตัวเอง ท่ามกลางสายตาประหลาดของทุกคน
ครั้งนี้ไม่มีใครกล้าสบประมาทเธออีกแล้ว ชนะการแข่งขันรอบแรกได้อย่างงดงามง่ายดายขนาดนี้ ทุกคนเริ่มหวาดระแวงเด็กผู้หญิงที่ดูเหมือนไม่มีพิษไม่มีภัยกับคนอื่นขึ้นมาในใจ
ลู่ฝานแอบเตือนตัวเอง ถ้าต่อไปต้องปะทะกับเธอต้องระวังให้มาก วิธีการยุ่งเหยิงของตระกูลหลู่มีเยอะมากจริงๆ
“รอบสอง สือเฉินสู้กับเซี่ยเหวินจื้อ!”
เมื่อหัวหน้าองครักษ์เกราะทองตะโกนขึ้น สือเฉินกับเซี่ยเหวินจื้อเดินออกมาช้าๆ
เซี่ยเหวินจื้อเป็นคนหนุ่มที่ดูสุภาพคงแก่เรียน รูปร่างผอม มีรอยยิ้มบางๆ สวมชุดคลุมยาว มีกระบี่ยาวหนึ่งเล่ม
เมื่อเข้ามาเขาคารวะสือเฉินแล้วพูดว่า “คุณชายสือ เชิญ!”
สือเฉินพยักหน้าเบาๆ ถือว่าทำความเคารพกลับ
หลังจากนั้น เซี่ยเหวินจื้อดึงกระบี่ยาวของตัวเองออกมา ทำท่าทางประหลาดออกมา