เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1252
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1252
ผู้อาวุโสคนหนึ่งถอนหายใจแล้วตอบว่า “ฉันไร้ความสามารถ คิดไม่ถึงว่าจะดูไม่ออกว่าถานไถเก๋อโดนวิชาอะไรกันแน่ พลังปราณในตัวปกติดี อวัยวะภายในก็ปกติดีเหมือนกัน แต่ร่างกายแข็งทื่อไปหมด ไม่ยอมฟื้นสักที ผู้อาวุโสโม่บอกว่าวิญญาณได้รับความเสียหาย เหมือนโดนวิชาของผู้ฝึกชั่วร้าย พวกเราตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วรอบหนึ่ง แต่กลับไม่เจอออร่าปีศาจแม้แต่น้อย เจ้าบ้าน เกรงว่าจะต้องเชิญยอดฝีมือที่เก่งกว่านี้มา อย่างน้อยต้องเซียนบำเพ็ญชี่ของเจดีย์ยามาที่นี่”
เจ้าบ้านตระกูลถานไถพูดว่า “เซียนบำเพ็ญชี่เหรอ เซียนบำเพ็ญชี่ที่สนามบู๊สองสามคนยังรักษาเธอไม่ได้เลย แค่ระงับอาการบาดเจ็บเธอชั่วคราวแล้วกลับไปหาวิธี จึงส่งเธอกลับมาที่จวน เดิมทีคิดว่าผู้ฝึกชี่ที่เจดีย์ยาจะมีความรู้กว้างขวางมากกว่า แต่คิดไม่ถึงว่าจะไม่มีวิธีเหมือนกัน เชิญเซียนบำเพ็ญชี่มาอีกก็คงไร้ประโยชน์ ช่างเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะไปคุยกับอริยปราชญ์ที่เจดีย์ยา ดูว่าจะเชิญอริยปราชญ์สักคนมาช่วยได้หรือเปล่า”
ผู้อาวุโสข้างๆ ถอนหายใจแล้วพูดว่า “เฮ้อ เชิญอริยปราชญ์มาช่วยก็ต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อย”
“เรื่องเงินเรื่องเล็ก ถ้าอริยปราชญ์ต้องการเงินก็ดีน่ะสิ สิ่งสำคัญคือพวกเขาชอบของล้ำค่ากับยาวิเศษ!”
“จะล้มละลายอีกแล้ว!”
เมื่อลู่ฝานได้ยินคำว่ายาวิเศษก็ตาเป็นประกายทันที เขาพูดว่า “เจ้าบ้านตระกูลถานไถ จะใช้ยาวิเศษไปเชิญอริยปราชญ์เหรอ”
เจ้าบ้านตระกูลถานไถหันมามองลู่ฝานแล้วพูดว่า “ใช่ คุณชายลู่ฝาน นายก็ได้ยินแล้ว เกรงว่าวันนี้เก๋อเอ๋อร์คงไม่ฟื้น ถ้านายไม่มีธุระที่อื่น พักที่นี่สักสองสามวันเถอะ รอเก๋อเอ๋อร์ฟื้นขึ้นมานายจะได้เจอเธอทันที”
เมื่อผู้อาวุโสสองสามคนข้างๆ ได้ยินชื่อลู่ฝานต่างมีสีหน้าประหลาดใจทันที
หลังจากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดกับลู่ฝาน “นี่คือคุณชายลู่ฝาน นักกระบี่แห่งตงหวางั้นเหรอ”
“ฮ่าๆ คุณชายลู่ฝานมาเยือนตระกูลถานไถ ฉันต้องดื่มกับคุณชายลู่สักหน่อย!”
ลู่ฝานยิ้มแล้วทักทายกลับ
หันไปมองเจ้าบ้านตระกูลถานไถแล้วพูดว่า “เจ้าบ้านตระกูลถานไถ ให้ฉันลองดูหน่อยได้ไหม ไม่แน่ฉันอาจรักษาคุณถานไถเก๋อได้ก็ได้”
เขาเพิ่งพูดจบ เจ้าบ้านตระกูลถานไถรวมถึงผู้อาวุโสพากันหัวเราะร่า
ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชายลู่ฝานอย่าพูดล้อเล่นสิ พวกเราเป็นนักบู๊ที่เข้าสู่แดนปราณฟ้ามานานแล้ว ยังจนปัญญาเลย นายไม่ใช่แดนปราณฟ้า อีกทั้งยังไม่ใช่ผู้ฝึกชี่ด้วย จะมีวิธีอะไรล่ะ”
ผู้อาวุโสชุดเขียวอีกคนพูดว่า “คุณชายลู่ฝาน นายคงไม่ได้อยากได้ยาวิเศษของตระกูลถานไถใช่ไหม ถ้านายอยากได้ก็มาเป็นลูกเขยของตระกูลถานไถเลยสิ ให้ของล้ำค่ากับยาวิเศษกับนายแล้วยังไงล่ะ”
เจ้าบ้านตระกูลถานไถโบกมือพัลวันแล้วพูดว่า “พวกนายอย่าพูดกับคุณชายลู่ฝานแบบนี้สิ เขาแค่อยากช่วยเก๋อเอ๋อร์เท่านั้น ไม่ได้คิดตื้นๆ แบบพวกนายสักหน่อย!”
ลู่ฝานเอามือจับจมูกอย่างกระอักกระอ่วน เขาคิดตื้นๆ แบบนี้จริงๆ ถ้าพวกเขารู้ว่าจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้คือการศึกษาวิชาชิงวิญญาณ จะว่าเขาเป็นคนความคิดตื้นเขินกว่าเดิมหรือเปล่า!
เจ้าบ้านตระกูลถานไถเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ “คุณชายลู่ฝานอย่าเพิ่งวู่วาม เก๋อเอ๋อร์ไม่เป็นอะไรหรอก”
ลู่ฝานอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง
ขณะนั้น ชายคนหนึ่งเดินออกมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นคนนี้ พวกเจ้าบ้านตระกูลถานไถรีบเข้าไปล้อมอย่างรวดเร็ว แล้วถามว่า “ผู้อาวุโสโม่ ตอนนี้เก๋อเอ๋อร์เป็นยังไงบ้าง”
ปรมาจารย์หมีส่ายหน้าพูดว่า “ฉันจนปัญญาแล้ว วิญญาณของเธอน่าจะโดนวิชาบางอย่างควบคุมเอาไว้”
เจ้าบ้านตระกูลถานไถถอนหายใจแล้วพูดว่า “ได้ รบกวนผู้อาวุโสโม่แล้ว”
เมื่อลู่ฝานเห็นคนคนนี้ก็หัวเราะร่าแล้วพูดว่า “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะผู้อาวุโสโม่!”
ผู้อาวุโสโม่เพิ่งเห็นลู่ฝาน เขาอึ้งเล็กน้อยแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้ดูแลลู่ คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอนายที่นี่!”