เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1257
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1257
ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “เจ้าบ้านไม่ได้จะเอาของอะไรออกมายกระดับพลังร่างกายให้ฉันใช่ไหม!”
เจ้าบ้านตระกูลถานไถอึ้งเล็กน้อย แล้วพูดเสียงเบาว่า “นายพูดอะไร……อ้อ! ฉันเข้าใจแล้ว นายเคยใช้มุกซานไห่ของตระกูลหานใช่ไหม ฮ่าๆ ดูเหมือนนายมีสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับตระกูลหาน เอามุกซานไห่ของตระกูลพวกเขามายกระดับพลังร่างกายให้นายด้วย ไม่ใช่ พลังที่ฉันพูดกับนายคือแดนวิทยายุทธ ตอนนี้นายอยู่แดนปราณดินชั้นสองหรือชั้นสาม เฮ้อ ยังไงแล้วก็คือแดนปราณดินขั้นต้นใช่ไหม”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “ใช่ อยู่ในแดนปราณดินขั้นต้น”
เจ้าบ้านตระกูลถานไถมีประกายประหลาดนัยน์ตา “แดนปราณดินขั้นต้น แต่สามารถสู้กับยอดฝีมือที่เกือบเป็นเซียนบู๊ อีกทั้งยังเอาชนะได้ด้วย พลังปราณของนายคงไม่ธรรมดาสินะ!”
ระหว่างพูด เจ้าบ้านตระกูลถานไถเอาของที่ดูเหมือนอัญมณีออกมา ยื่นให้ลู่ฝานแล้วพูดว่า “เก็บไว้สิ สิ่งนี้มีชื่อว่าหินเลือดสารจำเป็น หรือนายจะเรียกมันว่ายาเลือดสารจำเป็นก็ได้ ด้านในมีวิทยายุทธทั้งชีวิตของนักบู๊ที่เกือบเข้าสู่แดนปราณฟ้าแฝงอยู่ เมื่อกินเข้าไปจะใช้พลังปราณของเขาได้ แต่อยู่ได้แค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น หลังจากใช้แล้ว ร่างกายจะอ่อนแอสามวัน นายน่าจะรู้คุณค่าของสิ่งนี้!”
ลู่ฝานพูดอย่างประหลาดใจว่า “ตระกูลถานไถมียาแบบนี้ด้วย แล้วทำไม……”
ลู่ฝานไม่ได้พูดต่อ
แต่เจ้าบ้านตระกูลถานไถเข้าใจความหมายของลู่ฝาน เขายิ้มแล้วพูดว่า “แล้วทำไมเก๋อเอ๋อร์ถึงแพ้อีกใช่ไหมล่ะ ช่วยไม่ได้ ตอนนั้นเธอก็พกติดตัวไว้หนึ่งเม็ด ใครจะคิดว่าหลินหย่าจะใช้กระบวนท่าโหดเหี้ยมขนาดนี้ ถ้าแข่งขันครั้งต่อไปนายเจอหลินหย่า อย่าลืมช่วยสั่งสอนเขาแทนเก๋อเอ๋อร์ล่ะ”
ลู่ฝานรับยาเลือดสารจำเป็นเอาไว้ แล้วพูดว่า “เจ้าบ้านเชื่อใจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่กลัวฉันหนีเหรอ”
เจ้าบ้านตระกูลถานไถยิ้มแล้วพูดว่า “หนีก็หนีไปสิ ยังไงนายก็ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้เก๋อเอ๋อร์แล้ว ถ้าเปลี่ยนค่าตอบแทนจากยาวิเศษเป็นของสิ่งนี้ ฉันอยากทำแบบนั้นใจจะขาด ยิ่งไปกว่านั้น นายเป็นคนแบบนั้นเหรอ”
ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ
เจ้าบ้านตระกูลถานไถพูดว่า “โอเค เราออกไปกันเถอะ รอให้นายเอาเกราะเฟิ่งเซียนกลับมา ดอกผกผันจะเป็นของนาย ตอนนี้ให้มันเจริญเติบโตต่ออีกสักสองสามวัน ยังไงถึงอยู่ในมือนาย นายก็ยังใช้มันไม่ได้อยู่ดี”
ลู่ฝานพยักหน้า เดินตามเจ้าบ้านตระกูลถานไถออกไป ประตูไม้ด้านหลังปิดลงทันที
เจ้าบ้านตระกูลถานไถปรบมือเรียกสาวใช้แล้วพูดว่า “รับใช้คุณชายลู่ให้ดี ห้ามละเลยเด็ดขาด ลู่ฝาน นายดูสิเสื้อนายสกปรกแล้ว วันนี้พักที่ตระกูลถานไถสิ นายช่วยเก๋อเอ๋อร์ ถ้าฉันไม่เลี้ยงข้าวนายสักมื้อ คนอื่นคงหัวเราะเยาะตระกูลถานไถ”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “ขอบคุณเจ้าบ้านตระกูลถานไถ”
เจ้าบ้านตระกูลถานไถส่ายหน้าพูดว่า “ไม่ใช่ ขอพูดอีกรอบ ต่อไปเรียกฉันว่าลุงกอง”
เมื่อพูดจบ เจ้าบ้านตระกูลถานไถเดินออกไปพร้อมรอยยิ้มเต็มใบหน้า
……
เช้าวันต่อมา ลู่ฝานออกมาจากตระกูลถานไถแล้ว
คิดถึงข้าวเย็นที่กินที่ตระกูลถานไถเมื่อวานนี้ จนถึงตอนนี้ลู่ฝานยังกลัวไม่หาย
ตอนกินข้าว ถานไถเก๋อเข้ามาพิงอกเขาไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง เธอยังตั้งใจใส่เสื้อโชว์อก โชว์ด้านสมบูรณ์แบบที่สุดของเธอให้ลู่ฝานเห็น
บวกกับความอ่อนเพลียเล็กน้อย เพราะเพิ่งหายจากอาการป่วย ยิ่งทำให้ดูน่าสงสารเข้าไปใหญ่
ถ้าไม่ใช่เพราะลู่ฝานพยายามดึงสติตัวเองเอาไว้ เกรงว่าวันนี้คงไม่ได้ออกจากตระกูลถานไถ
คนล้วนพูดกันว่าพรหมจรรย์ผู้หญิงได้มายาก ตอนนี้ลู่ฝานคิดว่าผู้ชายจะรักษาพรหมจรรย์ของตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน