เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1261
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1261
แหวนเจ้าบ้าน เป็นแหวนที่ลู่เฮ่าหรานปู่ของเขาเป็นคนให้มา เป็นสัญลักษณ์ของเจ้าบ้านตระกูลลู่
ทุกตระกูลมีของสิ่งนี้ จะพูดว่าล้ำค่าก็ล้ำค่า จะพูดว่าไร้ค่า ก็เห็นอยู่ทั่วทุกที่ ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลลู่เทียบกับพวกตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ช่างอ่อนแอจนน่าสงสาร ปกติแล้วไม่มีใครมองแหวนเจ้าบ้านของเขาเลย
แต่ลู่ฝานรู้ดีแก่ใจว่าแหวนของตระกูลเขาไม่ธรรมดา
ท่านสวินเคยบอกเขาว่าวัสดุของแหวนวงนี้ไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาก เป็นหินลึกลับก้อนหนึ่ง
แต่ใส่มาตั้งนาน อันที่จริงลู่ฝานไม่รู้สึกว่ามีอะไรแปลกเลย
ไม่มีอะไรนอกจากเพิ่มการดูดซับพลังฟ้าดินให้เร็วขึ้น แต่เพิ่มความเร็วก็มีขีดจำกัด ยังเทียบไม่ได้กับอักษรยันต์ที่ลู่ฝานได้จากสถาบันสอนวิชาบู๊
แต่วันนี้แหวนวงนี้กลับแปลกไป
อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะกระบี่อู๋หมิงที่อยู่ข้างหน้า!
ลู่ฝานลองถอยหลังไปสองสามก้าว แหวนหยุดปล่อยแสงออกมาทันที เมื่อเดินเข้าไปอีกครั้ง มันก็สว่างขึ้นมาอีก
ใส่ปราณชี่เข้าไป ลู่ฝานสัมผัสได้ว่าแสงที่ออกมาจากในแหวน ไม่ใช่ธาตุในห้าธาตุฟ้าดิน นี่แปลกเป็นอย่างมาก!
ไม่ว่าจะเป็นหินหญ้าที่แปลกประหลาด ล้วนเกิดมาจากพลังห้าธาตุฟ้าดิน
ไม่อยู่ในห้าธาตุฟ้าดินได้ยังไง
ลู่ฝานขยับเข้าไปใกล้อีกนิด แหวนที่มือส่องแสงสว่างขึ้นอีก
ลู่ฝานรีบใช้มือปิดไว้ เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็นแสงนี้ ขณะนั้นลู่ฝานพบว่ากระบี่อู๋หมิงข้างหน้าสั่นเบาๆ
ลู่ฝานขมวดคิ้ว ตอนนี้เขาเห็นกระบี่ผุพังเล่มนี้หมุนมา
ไม่มีใครแตะต้องมัน กระบี่ที่อยู่ในแร่หินใสเคลื่อนไหวเอง
ลู่ฝานเบิกตาโตมองมันทันที
รอจนกระทั่งมันหมุนมา ลู่ฝานเห็นว่าตรงด้ามของมัน แตกร้าวออก อยู่ตรงกลางของด้ามกระบี่พอดี ถ้าเป็นกระบี่ล้ำค่าทั่วไป ตรงนี้จะเป็นจุดที่ฝังอัญมณีเอาไว้
อย่าบอกนะว่าแหวนของตระกูลเขา ทำมาจากส่วนที่แตกออกของด้ามกระบี่เล่มนี้
ขณะที่ลู่ฝานกำลังเดาไปเรื่อย จู่ๆ แสงที่แหวนบนมือหายไป
กระบี่อู๋หมิงข้างหน้าหายไปอย่างไร้ร่องรอย แร่หินใสก็หายไปด้วยเช่นกัน!
ลู่ฝานตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี เขารีบมองซ้ายมองขวาทันที
ยังดีที่คนอื่นกำลังวุ่นอยู่กับเรื่องของตัวเอง จึงไม่มีใครสังเกตมาที่เขา
แต่กระบี่อู๋หมิงหายไปได้ยังไงล่ะ
ลู่ฝานไม่เข้าใจ ลูบแหวนเจ้าบ้านของตัวเองไปมา
เมื่อมองอย่างละเอียด ตอนนี้ลู่ฝานเห็นบนแหวนของตัวเอง มีรอยกระบี่เล็กๆ เพิ่มมาหนึ่งรอย
ลู่ฝานสูดหายใจลึก เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่สัญชาตญาณบอกเขาว่าตอนนี้ไม่พูดอะไรจะดีที่สุด ไม่มีใครรู้จะดีที่สุด
ไม่งั้นแค่โทษที่จงใจเอาอาวุธจากคลังบู๊ ก็สามารถลงโทษเขาได้แล้ว
จู่ๆ ลู่ฝานไม่มีความคิดเดินดูต่อแล้ว เขารีบเดินกลับมาพูดกับผู้อาวุโสว่า “เกราะเฟิ่งเซียน”
จู่ๆ ผู้อาวุโสถามออกมาว่า “นายแน่ใจเหรอว่าจะเอาอันนี้ ไม่เปลี่ยนใจใช่ไหม”
ลู่ฝานเข้าใจความหมายของผู้อาวุโส นี่คือการเกลี้ยกล่อมให้เขาเลือกกระบี่เฮ่าหรานเป็นครั้งสุดท้าย
แต่ลู่ฝานตัดสินใจแล้ว เขาพยักหน้าพูดว่า “เกราะเฟิ่งเซียน!”
ผู้อาวุโสถอนหายใจ เมื่อสะบัดมือมีเกราะลอยมาจากด้านบนคลังบู๊
หรูหราอลังการมาก ด้านบนปักหงส์สีแดงเพลิง ด้านหลังมีผ้าคลุม ไหมทองสะดุดตา อักษรยันต์เยอะแยะไปหมด
ดูจากภายนอกเกราะชุดนี้ราคาไม่แพงเท่าไร ลู่ฝานกวาดตาดูตรงคำอธิบาย ทันใดนั้นเขารู้ทันทีว่าทำไมเจ้าบ้านตระกูลถานไถถึงต้องเอาของสิ่งนี้กลับไปให้ได้
ด้านบนเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า “เกราะที่เซียนบู๊หนีฉางมอบให้ถานไถเฟิ่ง”
ลู่ฝานไม่รู้ว่าถานไถเฟิ่งคือใคร แต่ต้องเป็นผู้อาวุโสคนใดคนหนึ่งของตระกูลถานไถแน่ๆ ของของตระกูลพวกเขาอยู่ในคลังบู๊ของประเทศ แน่นอนว่าต้องเอากลับไปอยู่แล้ว
หลู่ยินมองลู่ฝานแล้วพูดว่า “ลู่ฝาน นายไม่ได้ชอบถานไถเก๋อจริงๆ ใช่ไหม คิดไม่ถึงว่าจะเอาของของตระกูลถานไถ นายจะเอาไปให้เธอเหรอ”
ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “ฉันทำข้อตกลงกับเจ้าบ้านตระกูลถานไถ ของสิ่งนี้ให้ตระกูลถานไถ ไม่ได้ให้ถานไถเก๋อ”
“มันต่างอะไรกันล่ะ”
หลู่ยินยิ้มร้ายกาจแล้วเอ่ยขึ้น
ขณะลู่ฝานกำลังจะอธิบาย เสียงเทียนชิงหยางดังขึ้นด้านหลัง
“ความแตกต่างก็คือคนนิสัยต่ำทราม ทำเรื่องต่ำๆ แบบเขา ไม่มีทางทำเรื่องดีเหมือนคนอื่นหรอก ถึงแม้เป็นการให้ของขวัญ ก็ต้องหาข้ออ้างต่างๆ นานามาพูดให้ตัวเองหลุดพ้น”
ลู่ฝานหันมามองเทียนชิงหยาง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่รู้ว่าฉันกับคนกระจอกที่อยู่เบื้องหลังคอยยุยงให้คนอื่นโดนยาพิษ ใครมันเลวทรามกว่ากัน”
เทียนชิงหยางส่งเสียงหึอย่างเย็นชา ไม่สนใจลู่ฝาน เขาพูดกับผู้อาวุโสว่า “กระจกปากว้า!”
สุ่ยสือฉวนและคนอื่นก็พากันกลับมาอย่างรวดเร็ว ทุกคนเลือกอาวุธเสร็จเรียบร้อย ของแปดชิ้นลอยเรียงรายอยู่ด้านหน้าผู้อาวุโส
“พวกนายเลือกกันเสร็จหมดแล้ว ฉันจะถามอีกรอบ ไม่ได้แตะต้องของชิ้นอื่นใช่ไหม”
ผู้อาวุโสพูดเสียงเบา