เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1268
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1268
หลินหย่าปักกระบี่หักไว้ด้านหน้า จู่ๆ มีประกายแวบขึ้นนัยน์ตา ต่อมาสัตว์อสูรทั้งหมดชะงักฝีเท้าลงเหมือนกลายเป็นหิน ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
ผู้ชมเห็นภาพนี้ก็อดอุทานออกมาอย่างตกใจไม่ได้ หลินหย่าที่หันไปมองก็อึ้งเช่นกัน
เป็นไปไม่ได้!
ภาพนี้เป็นเรื่องที่เขาเจอเมื่อหนึ่งปีก่อนไม่ใช่เหรอ ใครเป็นคนบันทึกภาพนี้เอาไว้ ทำไมถึงเอามาฉายวันนี้ล่ะ
ไม่มีใครสามารถคลายความสงสัยของหลินหย่าได้
ท่านแปดตะโกนพูดต่อ พ่นน้ำลายออกมาจนจะเกิดเป็นสายรุ้งแล้ว!
“คนที่หก สือเฉินตระกูลสือ!”
แสงส่องลงมา สือเฉินกำลังหลับตาพักสายตา
ในม่านน้ำสรวงสวรรค์ โล่เสวียนเจวี๋ยปรากฏออกมา ตัวของสือเฉินค่อยๆ โผล่ออกมาทางด้านหลังโล่เสวียนเจวี๋ย ดวงตาทั้งสองข้างแน่วแน่มั่นคง นิ่งดังขุนเขา
“คนที่เจ็ด สุ่ยสือฉวนตระกูลสุ่ย!”
แสงเพิ่งส่องลงบนตัวสุ่ยสือฉวน สุ่ยสือฉวนลุกขึ้นช้าๆ วันนี้เขาดูไม่ธรรมดามาก เกราะนรกปกคลุมทั้งตัว ดูห้าวหาญมาก
เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นช้าๆ จู่ๆ ผู้หญิงนับไม่ถ้วนกรี๊ดจนสลบ วินาทีนี้ผู้หญิงที่เชียร์สุ่ยสือฉวนมีไม่น้อยเลย
ในม่านน้ำสรวงสวรรค์ มีสายน้ำที่ไหลอย่างต่อเนื่อง กระบี่เล่มหนึ่งลอยอยู่ในนั้น สุ่ยสือฉวนไหลไปตามสายน้ำ กระบี่วนเวียนอยู่รอบตัวเขา
“คนที่แปด ลู่ฝานเขตตงหวา!”
แสงส่องสว่าง รอยยิ้มบางๆ ปรากฏตรงมุมปากของลู่ฝาน
บนที่นั่งผู้ชม ตรงพื้นที่ที่ตระกูลหานนั่งอยู่ หานเฟิงลุกขึ้นตะโกนเสียงดังว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ฉันจะมีลูกกับนาย!”
พวกหลิงเหยา ศิษย์พี่ใหญ่ที่อยู่ข้างๆ ดึงหานเฟิงลงมาทันที ไม่รู้จักอายจริงๆ
แต่เสียงตะโกนของหานเฟิง ทำให้ชื่อของลู่ฝานดังไปทั่วสนามต่อสู้แปดทิศ
หานอู๋ซวงหันมาถลึงตาใส่หานเฟิง แล้วตวาดเสียงดังว่า “ถ้าทำให้ฉันอับอายอีก ฉันซัดนายตายแน่!”
หานเฟิงหัวเราะร่า ชี้ม่านน้ำสรวงสวรรค์ของลู่ฝานแล้วหัวเราะ “ครั้งนี้ศิษย์น้องลู่ฝานแอ็คสุดๆ ไปเลย!”
ในม่านน้ำสรวงสวรรค์ กระบี่หนักไร้คมร่วงลงจากฟ้า ส่วนลู่ฝานเด้งตัวขึ้นไปบนกระบี่หนักไร้คม
ด้านหลังเป็นสายฟ้าและเปลวเพลิง เสื้อผ้าสะบัดปลิว สองมือไพล่หลัง
ภาพนี้ลู่ฝานจำได้ เป็นภาพที่เขาไปช่วยอู่คงหลิง คิดไม่ถึงว่ามันจะถูกฉายวันนี้
อู่คงหลิงภายใต้ผ้าปิดหน้า ยืนอมยิ้มหัวเราะคิกคักอยู่ตรงมุมที่นั่งผู้ชม
ส่วนไม่ไกลจากเธอคือพวกไอ้อ้วนตง
ตอนนี้ข้างๆ ไอ้อ้วนตงนอกจากไอ้หลิวแล้ว ยังมีพวกนักบู๊ที่ซ่อนพลังเอาไว้ ไอ้อ้วนตงชี้ไปทางตระกูลหานแล้วพูดว่า “ฝั่งนั้นคือพวกศิษย์พี่ของลู่ฝาน สองวันก่อนพวกเขามาดื่มเหล้า ฉันว่าเป็นพวกเด็กที่ใช้ได้เลย พวกนายใครอยากได้ผู้สืบทอด ไปลองดูได้นะ”
ไอ้หลิวหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ที่แท้หาพวกเด็กที่มีความสามารถ วิ่งหาสิบกว่าปีไม่มีที่ได้ดั่งใจ ดูตอนนี้สิ นั่งดื่มเหล้าในเมืองหลวง เด็กที่มีความสามารถก็โผล่มาทีละคน กาเข้าฝูงกา หงส์เข้าฝูงหงส์จริงๆ คิดไม่ถึงว่าพวกศิษย์พี่ของลู่ฝานจะมีคุณสมบัติไม่เลวเลย”
ยัยแก่หยางหัวเราะแล้วพูดว่า “’งั้นพวกนายก็รีบแบ่งกันสิ เด็กลู่ฝานเป็นของฉันแล้ว”
เซวียนหยวนพูดอย่างราบเรียบว่า “ฝันไปเถอะ! เรายังแข่งกันไม่จบเลย”
ไอ้หลิวพูดเสียงดังว่า “ใช่ ยังแข่งไม่จบเลย พรุ่งนี้แข่งต่อ”
ยัยแก่หยางถลึงตาพูดว่า “แข่งทั้งบุ๋นทั้งบู๊แล้ว ยังหาคนแพ้คนชนะไม่ได้ พวกนายจะแข่งอะไรอีก!”
ไอ้หลิวกับเซวียนหยวนพูดพร้อมกันว่า “แข่งว่าใครดื่มเก่งกว่ากัน!”
ยัยแก่หยางอึ้งไปในตอนแรก หลังจากนั้นหัวเราะออกมาเบาๆ
รอยยิ้มเต็มใบหน้าทั้งสามคน ราวกับมั่นใจว่าจะชนะ!
มีเพียงไอ้อ้วนตงที่ส่ายหน้าเบาๆ แล้วพึมพำว่า “ดูเหมือนทั้งชีวิตสามคนนี้ก็คงแข่งกันไม่จบ!”
ในสนามบู๊ เสาแสงแปดต้น นักบู๊แปดคน ต่างแนะนำกันเสร็จเรียบร้อย
ท่านแปดเดินขึ้นมาไม่กี่ก้าว จู่ๆ เขาเอากระบอกไม้ไผ่ออกมาแล้วพูดว่า “การต่อสู้รอบแปดคนวันนี้ตัดสินด้วยการจับฉลาก แต่การจับฉลากวันนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมา เดี๋ยวฉันจะโยนแท่งหยกทั้งแปดแท่งด้านในขึ้นบนฟ้า พวกนายแย่งอันไหนได้ก็เอาอันนั้น ด้านหลังแท่งหยกมีตัวเลขอยู่ หมายเลขหนึ่งสู้กับหมายเลขสอง หมายเลขสองสู้กับหมายเลขสาม ทำแบบนี้ไปตามลำดับ มีอะไรสงสัยไหม”
รอยยิ้มบนใบหน้าลู่ฝานกว้างขึ้นอีก
น่าสนใจ คิดไม่ถึงว่าการแข่งขันวันนี้ไม่ได้ควบคุมโดยไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย ฟังจากกฎแล้วดูยุติธรรมขึ้นมาทันที เป็นเรื่องแปลกมากจริงๆ
บนท้องฟ้า ฉินซางต้าตี้ยิ้มบางๆ มองฉินอวิ่นแล้วพูดว่า “ฉินอวิ่น นายคิดวิธีนี้มาจับฉลากได้ยังไง น่าสนใจมาก!”
ฉินอวิ่นไท่จื่อคำนับแล้วตอบว่า “เสด็จพ่อ ลูกคิดว่าถ้าลูกเป็นคนจับฉลากอีกคงไม่ยุติธรรม ด้วยเหตุนี้จึงเอาแท่งหยกออกมาให้หยุนมู่เฟิงเป็นคนจัดการ เสด็จพ่อชื่นชมคนคนนี้มาก คิดว่าคงยุติธรรมแล้ว ภายใต้สายตาของทุกคน คงไม่มีอะไรผิดพลาด”
ฉินซางต้าตี้หัวเราะแล้วพูดว่า “ดี ดีมาก ในที่สุดนายก็ก้าวหน้าขึ้นแล้ว!”
ฉินอวิ่นไท่จื่อได้ยินประโยคนี้แล้วขนลุก ทำไมฟังดูเหมือนมีอะไรแฝงอยู่ในคำพูด ตอนนี้มีความก้าวหน้า แล้วก่อนหน้านี้ล่ะ
ในสนามบู๊ ท่านแปดกวาดตามองทั้งสนาม เมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไร ก็เอาแท่งหยกในกระบอกไม้ไผ่ออกมา หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “งั้นเริ่มกันเลย!”
ทุกคนจ้องไปที่มือท่านแปด ทันใดนั้นท่านแปดโยนเบาๆ ขึ้นไปกลางอากาศ จู่ๆ ตัวของทั้งแปดคนหายไปอย่างรวดเร็ว!