เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1275
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1275
เศษหินกระจุยกระจาย เกราะป้องกันสั่นไปมา
ถ้าสนามต่อสู้แปดทิศไม่มีเกราะป้องกันคุ้มกันผู้ชมเอาไว้ ไม่รู้กระบวนท่านี้ของเทียนชิงหยางจะคร่าชีวิตคนไปตั้งเท่าไร
กำแพงหนาโดนทำลายจนถล่มลงมาครึ่งหนึ่ง มังกรขนาดใหญ่สีทองกลับไปแล้ว ตัวสุ่ยสือฉวนเต็มไปด้วยเลือด หล่นลงมาในเศษหิน
เกราะนรกไร้แสง เมื่อไม่มีพลังปราณคอยสนับสนุน มันจึงไม่มีพลังในการดูดซับ
พลังแข็งแกร่งขนาดนี้ เกราะนรกจะดูดเข้ามาก็ไม่ทัน ถูกต้องที่มันเป็นอาวุธวิเศษ แต่มันไม่สามารถต้านทานได้ทุกอย่าง
อาวุธวิเศษเป็นของที่คนใช้งาน คนไม่ได้เรื่องก็คือไม่ได้เรื่อง ไม่มีอะไรต้องพูดอีก
“แค่กๆ!”
เลือดถูกพ่นออกมาทางปากสุ่ยสือฉวน ตอนนี้เขาไม่มีแรงสู้อีกแล้ว
ท่านแปดเดินเข้ามามองแวบหนึ่ง แล้วพูดเสียงดังว่า “เทียนชิงหยางชนะ!”
สุ่ยสือฉวนชักอย่างแรงครู่หนึ่ง จากนั้นก็สลบไป
ความพ่ายแพ้ของเขา ไม่ได้เหนือความคาดหมาย
เมื่อเถ้าแก่บ่อนพนันใหญ่ต่างๆ เห็นสุ่ยสือฉวนแพ้ ต่างพากันโล่งอก
แต่พละกำลังที่สุ่ยสือฉวนแสดงออกมา ก็แข็งแกร่งมากจริงๆ พูดได้เพียงว่าเทียนชิงหยางแข็งแกร่งกว่าที่ทุกคนจินตนาการไว้
นี่ทำให้คนที่พนันว่าเทียนชิงหยางจะได้ที่หนึ่งในการคัดเลือกมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม จินตนาการได้เลยว่าหลังจากวันนี้จะมีคนไปลงพนันเพิ่มเยอะขนาดไหน
สุ่ยสือฉวนถูกหามออกไป เทียนชิงหยางก็นั่งลงที่ข้างสนาม
สีหน้าเขาราบเรียบ เหมือนเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างสุ่ยสือฉวน ไม่ได้เสียแรงเยอะมากเท่าไร
แต่ลู่ฝาน สือเฉิน หลินหย่า รวมถึงพวกไอ้อ้วนตงที่อยู่บนที่นั่งผู้ชม ล้วนได้ยินเสียงหอบเบาๆ ของเทียนชิงหยาง
นี่แสดงว่าการชนะครั้งนี้ พลังที่เทียนชิงหยางสูญเสียไป ไม่ได้ง่ายดายเหมือนอย่างที่เห็นภายนอก
เจ้าบ้านตระกูลสุ่ยกำหมัดแน่น พูดอะไรไม่ออกสักคำ
เทียนชิงหยางชนะโดยที่ทำให้คนไม่สามารถพูดแก้ตัวได้เลย สุ่ยสือฉวนใช้หมดทุกวิถีทางแล้ว อีกทั้งยังดูออกว่าเตรียมพร้อมอย่างดี แต่ก็ยังเอาชนะเทียนชิงหยางไม่ได้
ไม่โทษสุ่ยสือฉวน พูดได้เพียงว่าเทียนชิงหยางแข็งแกร่งกว่า พูดขึ้นมาแล้ว เทียนชิงหยางก็ไม่ได้แอบใช้วิธีลับหรือท่าไม้ตายกับสุ่ยสือฉวน นี่ถือว่าไม่เลวแล้ว หลังผ่านการแข่งขันวันนี้ไปแล้ว เขาต้องส่งของขวัญไปให้ตระกูลเทียนสักชิ้น เพื่อแสดงความขอบคุณ
เรื่องน่าหดหู่ที่สุดในชีวิตคน คงไม่มีอะไรเกินไปกว่าสิ่งนี้แล้ว โดนคนอื่นทำให้บาดเจ็บ ยังต้องส่งของขวัญไปให้อีก แต่นี่คือความเป็นจริง!
การแข่งขันรอบแปดคน การต่อสู้รอบสองสิ้นสุดลง
รอจนเทียนชิงหยางกับสุ่ยสือฉวนลงจากสนาม ท่านแปดพูดเสียงดังว่า “รอบสาม เชิญหมายเลขห้ากับหมายเลขหกเข้าสนาม!”
สือเฉินลุกขึ้นยืนแล้วก้าวไปด้านหน้า
หลังจากนั้นหลินหย่าก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในสนามเช่นกัน!
กอดกระบี่จงเทียน หลินหย่าเดินช้ามาก นัยน์ตาสองข้างเต็มไปด้วยประกายวิบวับ
เมื่อเดินเข้ามาในสนาม สือเฉินเอาโล่เสวียนเจวี๋ยออกมาวางด้านหน้า มองหลินหย่าแล้วพูดว่า “ให้ฉันได้เห็นกระบี่จงเทียนของตระกูลฉู่หน่อยว่าเก่งกาจตรงไหน!”
เมื่อได้ยินคำว่ากระบี่จงเทียน ฉู่สิงกับฉู่เทียนที่อยู่บนที่นั่งผู้ชมลุกขึ้นยืนทันที!
“กระบี่จงเทียน!”
มีประกายประหลาดวูบไหวนัยน์ตาทั้งสองคน สีหน้าโมโห กำหมัดแน่น!
หานเฟิงยืนอยู่ข้างๆ มองฉู่สิงกับฉู่เทียนแล้วพูดอย่างสงสัย “ศิษย์พี่ทั้งสอง ทำไมถึงเดือดขนาดนี้ล่ะ อย่าบอกนะว่าพวกพี่เป็นคนตระกูลฉู่จริงๆ”
เมื่อได้ยินคำว่าตระกูลฉู่ ฉู่สิงกับฉู่เทียนตัวสั่นทันที จากนั้นนั่งลงช้าๆ ไม่พูดอะไรสักคำ
หานอู๋ซวงก็หันมามองทั้งสองคนเหมือนกัน
หานเฟิงรู้ว่าตัวเองพลั้งปากพูดไป จึงรีบละสายตาออกมาแล้วไม่พูดอะไรอีก
ในสนาม หลินหย่ามองสือเฉินอย่างเฉยเมย ไม่ได้ตอบอะไร