เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 129
มือเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ นิ้วมือของอาจารย์เต้ากวง สัมผัสกับหน้ากากเงินของลู่ฝาน
ขณะนั้น มีเสียงหอนดังขึ้นจากด้านหลัง
อาจารย์เต้ากวงหันไปมอง เห็นเจ้าดำกำลังพุ่งเข้ามา อ้าปากพ่นเปลวไฟดำออกมา
อาจารย์เต้ากวงสะดุ้งโหยง สะบัดมือทำลายเปลวไฟดำ
แต่เปลวไฟอันน่ากลัว ร่วงลงบนตัวลู่ฝาน
อาจารย์เต้ากวงตะโกนว่า “เจ้าดำ แกทำอะไร”
เจ้าดำไม่สนใจ เดินไปข้างหน้า และพ่นเปลวไฟดำออกมาเรื่อยๆ
ลู่ฝานที่ล้มลงบนพื้น รู้สึกว่ามีพลังพุ่งเข้ามาในตัว เมื่อดูอย่างละเอียด เขาเห็นเปลวไฟดำ เข้ามาทางมือขวาของเขา กลายเป็นกระแสอุ่นๆ ไหลไปทั่วร่างกาย
เจ้าดำเหรอ
ลู่ฝานตกใจก่อน จากนั้นใช้แรงทั้งหมด เด้งตัวขึ้นมา
ตอนนี้ลู่ฝานปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา กระโดดลงจากหิน และวิ่งเข้าไปในป่า
เดิมทีอาจารย์เต้ากวงคิดว่าคนชุดดำสลบไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะ “แกล้งตาย” แล้วหนีไปทันที
อาจารย์เต้ากวงโมโห ง้างมือขึ้นมา กระบี่ยาวปรากฏออกมา แสงบนกระบี่ เหมือนลำแสงนำทางฟ้าดิน
กระบี่ฟาดฟันโดนต้นไม้แถบนั้นพอดี
เจ้าดำเห่าออกมาอย่างร้อนใจ ขณะนั้น เสียงลู่ฝานดังขึ้นในป่า
“อาจารย์เต้ากวง หยุดครับ!”
ได้ยินเสียงลู่ฝาน อาจารย์เต้ากวงอึ้งไป รีบสลัดพลังในมือทิ้ง
แต่ถึงกระนั้น กระบี่ใหญ่ที่เล็กลงไปแล้วสิบเท่า ก็ยังยาวหลายสิบฟุต ร่วงลงไปทันที
เสียงดังสนั่นบนเขาอวิ๋นซาน
ฉู่สิง อู๋เหวยและคนอื่น เห็นแสงนั้น ก็ทอดถอนใจออกมา หานเฟิงส่ายหน้า “ไม่รู้คนโชคร้ายที่ไหน หาเรื่องอาจารย์เต้ากวง
ฉู่สิงตะโกนออกมาว่า “ไม่ต้องพูดไร้สาระ รีบมาช่วยเร็ว ศิษย์พี่ใหญ่ ยังจะขยายห้องอีกเหรอ ขยายไปหลายรอบแล้วนะ”
อาจารย์อี้ชิงมองไปทางลำแสง ขมวดคิ้วขึ้นมาเบาๆ แสงกระบี่เมื่อกี้ยิ่งใหญ่มาก ทำไมตอนนี้ถึงลดลงล่ะ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า
บนยอดเขาอวิ๋นซาน แสงกระบี่ตัดต้นไม้แถบนั้น จนราบเป็นหน้ากลอง
ลู่ฝานไม่รอดจากแสงกระบี่เช่นกัน แม้เขาจะถอดชุดคลุมกับหน้ากากเงิน ตอนวิ่งเข้าไปในป่า แถมเอากระบี่หนักออกมา
แต่แสงกระบี่ของอาจารย์เต้ากวง ทำให้เขาเกือบตาย
ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ลู่ฝานรู้สึกว่าตัวเองใกล้ความตายมาก กระบี่หนักไร้คมอยู่ข้างหน้า ต้านทานแสงกระบี่ให้เขาได้เกือบครึ่ง แต่ที่เหลือ ทำให้เขาเลือดเต็มตัว
กระดาษเพลงเต๋าหนึ่งเดียว ลอยลงมาบนตัวเขา แม้แสงกระบี่รุนแรงเช่นนี้ ก็ไม่ทำให้กระดาษเสียหายเลยสักนิด
แต่เลือดของลู่ฝานเปื้อนลงบนกระดาษ กระดาษทั้งแผ่นเป็นสีแดง ตัวอักษรคำว่าหนึ่งบนกระดาษ อยู่ในเลือด มันกลับดูดำขลับและลึกล้ำยิ่งขึ้น ต่อมา แสงสีขาวในกระดาษ เข้าไปในตัวลู่ฝาน
ตัวอักษรคำว่าหนึ่งบนกระดาษ ดูเลือนราง ลมพัดผ่านมา จนกระดาษปลิวไปข้างๆ
“ลู่ฝาน!”
อาจารย์เต้ากวงรีบเหาะมา
เห็นลู่ฝานเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด อาจารย์เต้ากวงเหมือนโดนมีดกรีดหัวใจ เขาทำร้ายลูกศิษย์ตัวเอง โดยไม่ตั้งใจ ถ้าลู่ฝานตาย เขาคงเสียใจไปตลอดชีวิต
เมื่อมาตรงหน้าลู่ฝาน อาจารย์เต้ากวงรีบเอาพลังปราณของตัวเอง ใส่เข้าไปในตัวลู่ฝาน
ลู่ฝานที่กำลังจะตาย ได้รับปราณอันรุนแรงจากอาจารย์เต้ากวง เริ่มดูดซับกัดกิน ลู่ฝานไอกระอักเลือดออกมาหนึ่งครั้ง
ยังโชคดี แค่บาดเจ็บสาหัส ไม่ถึงตาย
อาจารย์เต้ากวงแอบโล่งอก แผลบนตัวลู่ฝานยังรักษาได้
พลังปราณปกคลุมตัวลู่ฝาน ลู่ฝานลอยมาตรงหน้าอาจารย์เต้ากวง
เจ้าดำวิ่งเข้ามาเหมือนกัน เห่าใส่อาจารย์เต้ากวงไม่หยุด แถมยังวิ่งเข้ามากัดอาจารย์เต้ากวงหนึ่งที
อาจารย์เต้ากวงโกรธมาก มองเจ้าดำแล้วพูดว่า “เพราะแกพ่นไฟมั่วซั่ว ทำให้คนชุดดำหนีไปได้ เลยทำให้ฉันทำร้ายลู่ฝาน โดยไม่ได้ตั้งใจ แกยังกัดฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ ฉันจะช่วยลู่ฝาน”
เจ้าดำปล่อย และคำรามใส่อาจารย์เต้ากวงอีก
อาจารย์เต้ากวงส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ สัตว์อสูรปกป้องเจ้าของ จนปัญญาจริงๆ
แต่ไอ้คนชุดดำไปไหนแล้ว
อาจารย์เต้ากวงหันไปมองรอบๆ ไม่เห็นอะไรสักอย่าง
ไอ้นั่นหนีไปแล้วเหรอ บรรดาผู้ฝึกชี่ มีวิชาหนีที่แปลกประหลาด จับตัวได้ยาก
อาจารย์เต้ากวงไม่ได้คิดอะไรมาก มองกระดาษเพลงเต๋าหนึ่งเดียว ที่ลอยอยู่บนพื้น
ยิ้มบางๆ คนชุดดำเอาเพลงเต๋าหนึ่งเดียวไปไม่ได้ก็ดีแล้ว
อาจารย์เต้ากวงหยิบกระดาษขึ้นมา รู้สึกว่ากระดาษใบนี้แปลกๆ ตัวอักษรคำว่าอี ดูเลือนรางไปเล็กน้อย
รวบรวมสติ เพ่งมองเข้าไปในกระดาษ พลังวิญญาณที่แข็งแกร่งแต่เดิม ตอนนี้เบาบางลงไปเล็กน้อย
ให้ตายเถอะ ผู้ฝึกชี่ชุดดำต้องใช้วิธีอะไร บนกระดาษเพลงเต๋าหนึ่งเดียวแน่นอน
แต่ไม่เป็นไร ในนี้บันทึกไว้แค่เพลงเต๋าหนึ่งเดียวชั้นหนึ่ง เท่านั้น ไม่ได้สำคัญอะไรมาก
มือซ้ายใช้พลังปราณลากลู่ฝาน มือขวาจับเจ้าดำ อาจารย์เต้ากวงเหาะขึ้นไป มุ่งหน้าไปยังคณะหนึ่งเดียว
ทันใดนั้น อาจารย์เต้ากวงลงมาในลานคณะหนึ่งเดียว