เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1325
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1325
ใจกลางเมือง ถนนหย่งเล่อ
ผู้คนจำนวนมากมาย เบียดเสียดกันแน่นไปหมด
บนชั้นหอ บริเวณข้างถนน บนดาดฟ้าบ้าน ต่างก็เต็มไปด้วยผู้คน
ทุกคนต่างก็คาดหวังรอคอย ชะเง้อยื่นคอออกไปที่ถนนเพื่อมองดู ด้วยสีหน้าท่าทางที่คาดหวัง
“มาแล้ว ธิดาเทพมาแล้ว! ”
ทันใดนั้น ก็มีคนหนึ่งตะโกนขึ้น และพลันก็มีเสียงโห่ร้องกันอย่างเกรียวกราว
ที่ปลายสุดของถนน ปรากฏเงาร่างขององครักษ์เกราะทองขึ้นมาก่อน
บนชุดเกราะส่องแสงระยิบระยับ แทบจะปกปิดแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ลงแล้ว ส่วนด้านหลังขององครักษ์เกราะทองนั้น ก็มีรถม้าเคลื่อนตัวมาอย่างช้า ๆ
ม้ายูนิคอร์นที่ลากรถ ราชพาหนะที่เป็นคริสตัล ล้วนดึงดูดเสียงชื่นชมโห่ร้องจากผู้คนนับไม่ถ้วน
“เป็นธิดาเทพแห่งประเทศเป่ยเสินแน่นอน ดูราชพาหนะนั่นสิ ไม่ใช่สิ่งของของประเทศอู่อานเป็นแน่”
“ไอ้หยา รถม้าสง่างามยิ่งนัก ได้ยินว่ารูปลักษณ์ของธิดาเทพ ยากที่จะพบเจอในโลกมนุษย์ จะต้องดูชมโดยละเอียดแล้ว”
ผู้คนทั้งสองข้างทางต่างก็ชะเง้อมองกันไม่หยุด ในที่สุดพวกเขาก็มองเห็นธิดาเทพบนราชพาหนะนั้นแล้ว
ทันใดนั้น บริเวณโดยรอบก็เงียบสงบลงอย่างกะทันหัน
ทุกคนที่มองเห็นรูปโฉมของธิดาเทพอย่างชัดเจนแล้ว ต่างก็ถึงกับตกตะลึงในรูปโฉมของธิดาเทพนั้น
ยากที่จะจินตนาการได้ว่า บนโลกใบนี้ จะมีหญิงที่มีรูปโฉมงดงามหาที่เปรียบมิได้เช่นนี้
ใบหน้าที่บริสุทธิ์งดงาม ดุจดั่งบัวหิมะบนภูเขาสูง หมดจดไร้ที่ติ!
ดวงตาราวกับคริสตัล ในทุกบริเวณที่ส่งสายตามองไป ทุกคนก็กลายเป็นหินแข็งทื่อกันไปหมด
พวกเขาต่างก็ตะลึงกับรูปโฉมของธิดาเทพ จนในหัวสมองว่างเปล่าไปกันหมดแล้ว
ท่ามกลางกลุ่มคน ลูกหลานตระกูลหานได้แย่งจับจองจุดตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ลู่ฝานและคนอื่น ๆ ก็อยู่ในจุดนั้นด้วย จ้องมองมาจากระยะไกล ด้วยพลังสายตาของลู่ฝานแล้ว ถือเป็นคนแรกที่มองเห็นใบหน้าของธิดาเทพได้อย่างชัดเจน
“คือเธอ! ”
ลู่ฝานมองเพียงแวบเดียวก็จดจำได้แล้ว
ผู้หญิงคนนี้ก็คือคนที่เขาได้พบเจอหน้าสองครั้งที่บริเวณแท่นผู้ชมไม่ใช่เหรอ
คู่ดวงตาที่แวววาวนี้ ลู่ฝานจดจำได้อย่างชัดเจน
ขณะที่ปากกำลังพูดพึมพำอยู่ ทันใดนั้น ลู่ฝานก็รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยขึ้นที่แขน กลับกลายเป็นว่าหลิงเหยาที่อยู่ด้านข้างได้หยิกตัวเขาอย่างแรงและพูดว่า: “คือเธออะไรกัน หรือว่านายรู้จักธิดาเทพด้วยเหรอ? ”
ลู่ฝานอ้าปากค้าง คำถามนี้ยากที่จะตอบจริง ๆ!
บริเวณด้านข้าง ฉู่สิงและคนอื่น ๆ ต่างก็จ้องมองกันอย่างตะลึงงัน
แม้แต่ศิษย์พี่ใหญ่ที่หนักแน่นมาโดยตลอด ยังถึงกับพูดชื่นชมขึ้นว่า: “รูปโฉมช่างงดงามยิ่งนัก! ”
หานเฟิงยิ่งหนักไปอีกถึงขนาดที่น้ำลายจะไหลออกมาแล้ว คว้าไปที่ชายเสื้อของลู่ฝาน แล้วก็เขย่าอย่างไม่หยุดพร้อมกับพูดว่า: “ศิษย์น้องลู่ฝานอ่า ผู้หญิงแบบนี้ หากอยู่ร่วมกับฉันสักคืน ฉันยอมที่จะมีชีวิตน้อยลงสิบปีเลย ไม่ใช่ ยี่สิบปีเลยก็ได้! ”
เมื่อพูดจบ ลู่ฝานก็เห็นสายตาของกลุ่มคนที่แฝงไปด้วยเจตนาสังหารอันรุนแรงจับจ้องมาที่หานเฟิง
ลู่ฝานรีบขยับออกไปยืนด้านข้าง แสดงออกว่าฉันไม่รู้จักกับคนผู้นี้ แต่มือ ก็ยังกดตัวของศิษย์พี่หานเฟิงเอาไว้แน่น เขากลัวจริง ๆ ว่าศิษย์พี่หานเฟิงจะพุ่งทะยานออกไป ยืนขวางอยู่ด้านหน้ารถม้าและพูดเสียงดังขึ้นว่า: “ธิดาเทพ เธอกลับบ้านไปร่วมหลับนอนกับฉันเถอะ! ”
ลู่ฝานเชื่อว่า เรื่องแบบนี้ศิษย์พี่หานเฟิงกล้าที่จะกระทำ
รถม้าคริสตัลค่อย ๆ เคลื่อนตัวผ่านเบื้องหน้าของพวกลู่ฝานไป ในขณะนั้นเอง บนรถ ธิดาเทพที่กำลังกวาดสายตามองไปโดยรอบนั้น ก็พลันมองเห็นลู่ฝานที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน!
เมื่อจ้องสบตากัน ธิดาเทพก็มีรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก ลู่ฝานกลับตกใจ แอบรู้สึกว่ามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่างแล้ว!
ในขณะนั้นเอง ธิดาเทพก็พลันพูดขึ้นว่า: “หยุดก่อน! ”
เมื่อม้ายูนิคอร์นได้ยินเสียงก็หยุดลง ผู้นำองครักษ์เกราะทองก็ตะโกนขึ้นว่า: “หยุด! ”
องครักษ์เกราะทองทั้งหมดก็พลันหยุดฝีเท้าลง ผู้นำองครักษ์เกราะทองก็รีบวิ่งมายังด้านหน้ารถที่นั่งของธิดาเทพ พร้อมกับคำนับและถามขึ้นว่า: “ธิดาเทพมีอะไรจะรับสั่ง”
ธิดาเทพค่อย ๆ ยื่นมือข้างหนึ่งออกมา ชายชราที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ประคองมือของธิดาเทพ แล้วโค้งตัวเล็กน้อย
เวลานี้ ไม่นึกว่าธิดาเทพจะค่อย ๆ เดินลงมาจากรถที่นั่งแล้ว