เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1342
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1342
เทียนหลิงโมโหสุดขีด เขาจ้องเขม็งไปที่หานเฟิง
หานเฟิงไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย แล้วหลิงเหยาก็เดินขึ้นมาด้านหน้าและพูดว่า: “ฉันสามารถเป็นพยานได้ เมื่อไม่กี่วันก่อน มีนักฆ่าแอบลอบทำร้ายลู่ฝานจริง”
“นักฆ่า ฮึ เมื่อมีนักฆ่าก็สามารถพูดว่าเกี่ยวข้องกับตระกูลเทียนของพวกเราอย่างนั้นใช่ไหม พวกเราตระกูลเทียนเป็นตระกูลบู๊ที่กระทำเรื่องชั่วช้าแบบนี้อย่างนั้นเหรอ! ”
เกิดเสียงดังขึ้น เวลานี้เทียนชิงหยางได้เหาะเหินกลับมาแล้ว
รอยนิ้วมือทั้งห้าบนแก้ม มองเห็นชัดเจนอย่างที่สุด แล้วเขาก็มองไปที่หานอู๋ซวงด้วยสายตาที่ดุดัน และกัดฟันพูดขึ้นว่า: “ในวันหนึ่ง จะเอาคืนให้หนักกว่าเดิมหลายเท่า”
หานอู๋ซวงพูดตอบกลับว่า: “ไอ้ขยะ! ”
เทียนหลิงได้ยินที่เทียนชิงหยางพูดแล้ว ก็รีบโบกมือบอกให้เขาไปยืนด้านหลัง หยุดพูดมากได้แล้ว
ไม่รู้อะไรเลย แล้วยังจะมาพูดซี้ซั้วอีก แม้แต่ตระกูลของตนเองก็ยังด่าด้วย
องค์ชายรองฉินฝานมองไปที่หานอู๋ซวง แล้วก็หันมองไปที่เทียนหลิง ขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า: “ไอ้หยา เรื่องนี้ยุ่งยากอย่างมาก ลู่ฝานหายตัวไปแล้วจริง ๆ ด้วย”
หานอู๋ซวงพูดว่า: “ไม่กลับมาทั้งคืน และไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน”
ฉินฝานถามต่อว่า: “มีนักฆ่าที่ต้องการฆ่าเขาจริงเหรอ เป็นนักฆ่าแบบไหนกัน จับตัวได้แล้วหรือยัง”
หานอู๋ซวงส่ายศีรษะเบา ๆ หลิงเหยาครุ่นคิดชั่วครู่ แต่ก็คิดไม่ออกถึงชื่อของนักฆ่าสองคนนั้น
เทียนหลิงพูดว่า: “ทำไม ไม่พูดไม่จาแล้วล่ะ ไม่ใช่บอกว่านักฆ่านั้นเป็นทางพวกเราตระกูลเทียนส่งตัวไปหรอกเหรอ นายนำหลักฐานออกมายืนยันสิ ไม่มีหลักฐานมายืนยัน ก็จะมาร้องเอาตัวคนกลับคืนไป พวกนายเห็นกฏหมาย เห็นราชสำนักอยู่ในสายตาบ้างไหม”
หานอู๋ซวงพูดเสียงดังว่า: “มารับตัวคนกลับที่ตระกูลของนายแล้วจะทำไม”
คำพูดเดียว มันอัดอั้นจนเทียนหลิงแทบจะระเบิดอารมณ์ขึ้นแล้ว
หลู่เฉิงเซี่ยงพลันยิ้มและพูดขึ้นว่า: “หานอู๋ซวงอ่า นายจะมารับคนกลับคืนไป ก็ต้องแสดงหลักฐานออกมายืนยัน หากไม่มีจริง ๆ ตัวพยานก็ได้ นายมีพยานไหมล่ะ”
เมื่อพูดถึงพยาน หลิงเหยาก็พลันพูดเสียงดังขึ้นว่า: “พวกเรามีพยาน เฟิงเสี่ยวชี่ รีบไปตามตัวเฟิงเสี่ยวชี่มาหน่อย! ”
หลิงเหยาและคน ๆ อื่นก็รีบหันหลังวิ่งออกไปด้านนอก
และในเวลานี้เอง ที่บริเวณมุมหนึ่ง ก็มีเงาร่างค่อย ๆ เดินเข้ามา
“ไม่ต้องไปตามหาแล้ว ฉันมาแล้ว ฉันคือเฟิงเสี่ยวชี่ คารวะทุกท่าน! ”
เฟิงเสี่ยวชี่เดินขึ้นมาด้านหน้า แล้วกำหมัดแสดงความเคารพต่อทุกคน
เมื่อเห็นเฟิงเสี่ยวชี่ เทียนหลิงก็พลันมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป และพูดเสียงดังว่า: “นายเป็นใคร คงรู้นะว่าหากให้การเท็จจะต้องติดคุกยาวนานเลย”
เฟิงเสี่ยวชี่เงยหน้าขึ้นมองเทียนหลิง และพูดว่า: “ให้การเท็จ เจ้าบ้านเทียน นายลืมง่ายจังเลยนะ ไม่ใช่ว่านายเรียกฉันกับอู่จุนไปพบ แล้วให้พวกเราลงมือกับลู่ฝานไม่ใช่เหรอ แต่แค่ฉันไม่ตอบตกลงเท่านั้นเอง ทำไมนายไม่พูดล่ะว่า นายกับอู่จุนแห่งโลกจู๋หลง ได้ตกลงสัญญาอะไรกันเอาไว้! ”
เทียนหลิงตวาดเสียงดังว่า: “ไอ้หนุ่มสารเลวนี้มาจากที่ไหนกัน ทำไมถึงได้ใส่ร้ายพวกเราตระกูลเทียนแบบนี้ นายช่างรนหาที่ตายจริง ๆ! ”
ขณะที่พูด เทียนหลิงก็ใช้ฝ่ามือตบไปที่เฟิงเสี่ยวชี่ หานอู๋ซวงเบิกตาโพลง เขาคิดไม่ถึงอย่างมากว่า เทียนหลิงคิดจะลงมือฆ่าปิดปากอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้
แต่ในขณะนั้นเอง ไอ้อ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของเฟิงเสี่ยวชี่ แล้วแกว่งมือ เฟิงเสี่ยวชี่ก็รอดพ้นจากอันตราย
เทียนหลิงพลันส่งเสียงร้องโอดครวญดังขึ้น ราวกับว่าวที่เชือกขาด ตกลงมาจากท้องฟ้า
ทุกคนพากันตกตะลึง และเงียบกริบกันไปหมด
พร้อมกับหันหน้ามองไปดูว่าคนที่มานั้นคือใคร!
ขณะนั้น ผู้อาวุโสตระกูลเทียนสองคน ผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสรองของตระกูลหาน รวมไปถึงหลู่เฉิงเซี่ยง และเจ้าบ้านอีกหลายคนต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปโดยพลัน
ไอ้อ้วนตงลูบไปที่ท้องที่อ้วนกลม และพูดขึ้นว่า: “ศิษย์หลานของฉัน ไม่พูดโกหกหรอก ตระกูลเทียน เหอะเหอะ วันนี้พวกนาย พูดความจริงออกมาจะเป็นการดีที่สุด! ”