เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1363
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1363
เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา เงาองค์ชายรองฉินฝานเดินกะโผลกกะเผลกปรากฏในสายตา
ลู่ฝานรีบเดินไปด้านหน้าแล้วพูดว่า “เตี้ยนเซี่ยมาด้วยตัวเองทุกครั้ง ลู่ฝานรู้สึกได้รับความเมตตาจนคาดไม่ถึง!”
ฉินฝานโบกมือไปมาแล้วพูดว่า “นายกับฉันเหมือนเพื่อนพี่น้อง พูดเกรงอกเกรงใจแบบนี้ทำไม สหายลู่ฝาน ฉันมาวันนี้เพราะจะชวนนายไปร่วมงานเลี้ยงที่ฉันจัดเพื่อฉลองชัยชนะของนายวันนี้!”
รอยยิ้มบนใบหน้าลู่ฝานหายไปนิดหน่อย เขาพูดว่า “งานเลี้ยงเหรอ งานเลี้ยงที่เตี้ยนเซี่ยจัดให้ฉันเหรอ”
ฉินฝานพูดเสียงดังว่า “ใช่แล้ว รถม้าเตรียมไว้พร้อมแล้ว เตรียมงานเลี้ยงไว้เรียบร้อยแล้ว รอพระเอกอย่างนายไปงาน นายคงไม่ทำให้ฉันมาเสียเที่ยวใช่ไหม!”
ฉินฝานตบไหล่ลู่ฝานอย่างสนิทสนม
ลู่ฝานมองหน้าเขา รู้เจตนาของฉินฝานเป็นอย่างดี ต้องการดึงเขามาเป็นพวกชัดๆ
ถ้าวันนี้เขาไป ต้องกลายเป็นคนของเตี้ยนเซี่ยแน่นอน
ไม่ว่าเขาจะมีความคิดช่วยฉินฝานหรือไม่ แต่อย่างน้อยจากมุมมองคนภายนอก เขาเป็นพวกเดียวกับเตี้ยนเซี่ยไปแล้ว
นี่คือสิ่งที่องค์ชายรองฉินฝานต้องการ แต่ไม่ใช่สิ่งที่ลู่ฝานต้องการ
ตอนนี้เขาเพิ่งได้รางวัลจากฝ่าบาท เป็นช่วงที่กำลังเป็นจุดสนใจมาก ทุกการกระทำของเขาสามารถทำให้คนจินตนาการไปเรื่อย ลู่ฝานไม่อยากเป็นพวกเดียวกับองค์ชายรองอย่างรวดเร็ว นี่คงไม่ใช่ภาพที่ฉินซางต้าตี้อยากเห็น
ลู่ฝานคารวะแล้วพูดว่า “เตี้ยนเซี่ยจัดงานเลี้ยงเพื่อฉัน ทำให้ฉันซาบซึ้งใจจริงๆ แต่ตระกูลหานจัดงานเลี้ยงไว้เรียบร้อยแล้ว ฉันรับปากไปแล้วด้วย ถ้าไปตอนนี้คงไม่เหมาะเท่าไร เตี้ยนเซี่ยไปร่วมงานเลี้ยงที่ตระกูลหานดีไหม”
ฉินฝานใบหน้าไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที เขาพูดช้าๆ ว่า “สหายลู่ฝาน งานเลี้ยงของตระกูลหานค่อยจัดตอนไหนก็ได้ เพราะตอนนี้นายก็อยู่ตระกูลหาน แต่งานเลี้ยงของฉันเชิญคนมีชื่อเสียงมามากมาย แม้แต่ตระกูลสุ่ย ตระกูลสือก็ส่งคนมา ถ้านายไม่ไปก็เท่ากับทำให้ทุกคนผิดหวังน่ะสิ ฉันว่าให้เพื่อนรัก ศิษย์พี่และพวกลุงของนายไปร่วมงานเลี้ยงของฉันด้วยเป็นไง สนุกกันหลายคนดีกว่าสนุกคนเดียว เชื่อฉันสิ ไปกินข้าวที่นั่นต้องอร่อยกว่าที่นี่เยอะ!”
ลู่ฝานสีหน้าเหยเก นี่ปฏิเสธยากแล้ว!
ฉินฝานไม่พูดพร่ำทำเพลง ลากลู่ฝานเดินออกไปข้างนอกทันที
เดินพลางตะโกนว่า “สหายลู่ฝาน ไม่ต้องลังเลแล้ว ไปกันเถอะๆ!”
ทั้งสองฉุดกระชากลากถูกันออกจากตระกูลหาน
ตอนเดินออกจากประตู หานเฟิงและคนอื่นเห็นลู่ฝานและฉินฝาน ไม่มีใครกล้าเข้าไปพูด พากันหลีกทางให้ทันที
ลู่ฝานหยุดลงหน้าประตู พูดด้วยใบหน้าขมขื่นว่า “องค์ชายรอง ไม่ได้จริงๆ ถ้าฉันไปพวกลุงหานจะเสียใจมาก เปลี่ยนเป็นวันอื่นได้ไหม วันอื่นฉันจะไปขอโทษถึงที่เลย!”
ระหว่างพูด ลู่ฝานส่งสายตาให้หานเฟิงและคนอื่นทันที
หานเฟิงรีบตะโกนแล้วพุ่งเข้ามา จับแขนลู่ฝานเอาไว้แล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝานจะไปไหน นายไปไหนไม่ได้นะ!”
ฉินฝานแอบกัดฟัน แล้วพูดเสียงดังว่า “คุณชายหาน ฉันมาชวนสหายลู่ฝานไปงานเลี้ยง พวกนายจะไปก็ไปด้วยกันได้”
เมื่อหานเฟิงได้ยินก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที พูดเสียงเบาว่า “งานเลี้ยงเหรอ มีนางระบำแบบบริเวณสระเหยาเมื่อครั้งที่แล้วไหม”
ฉินฝานหัวเราะ พยักหน้าแล้วพูดว่า “มีสิ นายเลือกได้ตามสบายเลย”
หานเฟิงรีบปล่อยแขนลู่ฝานแล้วพูดว่า “ไปๆ ศิษย์พี่ฉู่สิง ศิษย์พี่ฉู่เทียน ศิษย์พี่ใหญ่ หลินหย่า สิบสาม หลิงเหยา ไปกินข้าวด้วยกัน!”
ลู่ฝานเกือบหงายหลัง ศิษย์พี่หานเฟิงพึ่งไม่ได้จริงๆ ไม่ควรเรียกเขามาเลย
ขณะนั้น จู่ๆ มีแสงสีทองร่วงลงมาที่ประตู ลอยอยู่หน้าประตูตระกูลหาน
ขบวนเสด็จใหญ่กว่ารถม้าของฉินฝาน ดึงดูดสายตาทุกคนทันที ฉินฝานก็รีบปล่อยมือทันที
ทั้งประเทศอู่อาน คนที่สามารถใช้ขบวนเสด็จ อีกทั้งรถม้ายังใหญ่กว่าเขามีเพียงสองคนเท่านั้น
คนแรกคือฉินซางต้าตี้ ส่วนอีกคนคือฉินอวิ่นไท่จื่อ
ใครคนหนึ่งค่อยๆ เดินออกมาจากรถม้า มีองครักษ์เกราะทองปรากฏตัวขึ้นด้านหลังอย่างต่อเนื่อง
คนคนนี้คือฉินอวิ่นไท่จื่อ
ขั้นบันไดแสงสีทองทอดลงมาจากรถม้า ฉินอวิ่นไท่จื่อเดินลงมาจากบันไดแสงสีทอง คนรอบๆ พากันโค้งทำความเคารพ
“ถวายบังคมไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย!”
ฉินอวิ่นยิ้มอบอุ่นแล้วพูดเสียงเบาว่า “ทุกคนลุกขึ้นได้”
สายตาจ้องไปที่ลู่ฝาน ฉินอวิ่นหัวเราะร่าแล้วพูดว่า “ท่านลู่ฝาน ฉันมาแสดงความยินดี!”
ลู่ฝานอึ้งไป ถ้าบอกว่าคนอื่นมาแสดงความยินดีกับเขา เขาคงไม่ตกใจขนาดนี้
ฉินอวิ่นไท่จื่อเป็นคนที่จะฆ่าเขาหลายต่อหลายครั้ง ทำไมจู่ๆ ถึงพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ มาแสดงความยินดีกับเขาในวันนี้
ลู่ฝานคารวะแล้วพูดว่า “ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยอุตส่าห์มาเอง ลู่ฝานรู้สึกลำบากใจจริงๆ”
ฉินอวิ่นเดินมาหน้าลู่ฝาน แอบปรายตามองฉินฝานเล็กน้อย จากนั้นพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉินฝาน นายก็อยู่ที่นี่ด้วย คงไม่ได้มาเชิญลู่ฝานไปคุยที่จวนเหมือนฉันใช่ไหม”