เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1375
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1375
เสียงสดใส แฝงความยียวนเล็กน้อย
ลู่ฝานหันไปมอง ทันใดนั้นเขาเห็นร่างอันคุ้นเคยนั่งอยู่ถัดไป
“ธิดาเทพ”
ลู่ฝานพูดเสียงเบา
ผ้าคลุมปกปิดใบหน้า ชุดคลุมยาวปกคลุมตัว ธิดาเทพเดินมาช้าๆ คำนับหวูเฉินแล้วพูดว่า “คารวะผู้อาวุโส”
หวูเฉินมองธิดาเทพแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ธิดาเทพประเทศเป่ยเสิน บังเอิญจริงๆ คิดไม่ถึงว่าเราสองคนจะได้เจอเธอที่นี่”
ธิดาเทพยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันก็รู้สึกว่าบังเอิญเหมือนกัน ฉันออกมาเดินเล่นพอดี คิดไม่ถึงว่าจะเห็นคุณชายลู่ฝาน ตอนแยกจากกันที่บริเวณสระเหยาครั้งที่แล้ว คุณชายลู่ฝานให้ฉันรออย่างทรมานตั้งนาน ตอนนี้มาสู้กับฉันสักรอบได้ไหม”
ลู่ฝานลุกขึ้นแล้วนั่งลง “ธิดาเทพ เธอบอกฉันมาก่อนว่าพาฉันไปประเทศตันเซิ่งได้ หมายความว่ายังไง”
ธิดาเทพพูดว่า “ง่ายมาก หอเทวาลัยประเทศเป่ยเสินของฉันมีการอนุมัติพิเศษ สามารถเข้าออกประเทศตันเซิ่งได้ทุกเมื่อ เพราะหอเทวาลัยกับประเทศตันเซิ่งรู้จักกันในอดีต พวกนายเข้าไปไม่ได้ แต่คนของหอเทวาลัยประเทศเป่ยเสินเข้าได้ ถ้านายอยากไป แค่ตามฉันมา เดิมทีการเดินทางของฉันคือผ่านประเทศอู่อานแล้ว ไปอีกสองสถานที่ก็คือประเทศตันเซิ่ง”
หวูเฉินพูดว่า “เงื่อนไขล่ะ”
ธิดาเทพหัวเราะเบาๆ แล้วตอบว่า “ผู้อาวุโส เงื่อนไขอะไรกันล่ะ ตอนนี้ฉันอยู่ที่อู่อานยังไม่ได้ไปไหน อยากสู้กับคุณชายลู่ฝานสัก 2-3 กระบวนท่า ถ้าคุณชายลู่ฝานชนะฉันได้ อย่าว่าแต่ไปประเทศตันเซิ่งเลย ถึงกลับไปประเทศเป่ยเสินพร้อมกันยังได้เลย”
ลู่ฝานตอบตกลงทันที “ได้ สรรพสิ่งเป็นไปตามธรรมชาติก็ดีแล้ว งั้นฉันกับเธอประลองกันวันนี้เถอะ!”
ธิดาเทพยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ไม่ต้องใจร้อนขนาดนี้หรอก คุณชายลู่ฝาน การต่อสู้ระหว่างฉันกับนาย อาจเป็นการต่อสู้ชั้นยอดของผู้แข็งแกร่งอายุน้อยของประเทศอู่อานและประเทศเป่ยเสิน แน่นอนว่าสถานที่ต่อสู้ต้องกว้างหน่อย นายว่าไหมล่ะ ฉันว่าอีกห้าวันมาสู้กันที่สนามต่อสู้แปดทิศเหมือนเดิม นายคิดว่ายังไง”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “ไม่มีปัญหา อีกห้าวันก็อีกห้าวัน”
ธิดาเทพรอยยิ้มเต็มใบหน้า แม้มีผ้าปิดหน้ากั้นอยู่ ทว่าลู่ฝานสัมผัสได้ถึงรอยยิ้มที่ทำสำเร็จตามแผนของธิดาเทพ
“งั้นฉันขอตัวก่อน อีกเดี๋ยวฉันจะแจ้งเรื่องต่อสู้ระหว่างนายกับฉันให้ประมุขประเทศอู่อานทราบ คุณชายลู่ฝาน ห้ามกลับคำพูดเด็ดขาด”
เมื่อพูดจบ ธิดาเทพลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
หวูเฉินมองด้านหลังธิดาเทพ แล้วพูดเสียงเบาว่า “บังเอิญเจองั้นเหรอ ฉันว่าสะกดรอยตามมากกว่า”
ลู่ฝานพูดว่า “มีโอกาสเป็นไปได้มากว่าเธอให้ยอดฝีมือจับตามองเรา คงตามเราตั้งแต่ออกจากเจดีย์ยาแล้วสินะ”
ระหว่างพูด ลู่ฝานกวาดตามองบนถนน จู่ๆ ลู่ฝานเห็นนักบู๊คนหนึ่งบนถนนรีบหันหน้าไป จากนั้นก็เดินออกไปทันที
หวูเฉินส่ายหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “ลู่ฝาน นายเชื่อเหรอว่าธิดาเทพจะช่วยนาย”
ลู่ฝานพูดว่า “เชื่องั้นเหรอ ไม่ ถ้าฉันแพ้เธอ เธอคงเตะฉันทิ้งเหมือนขยะเลยล่ะ”
หวูเฉินพูดต่อ “แต่ถ้านายชนะ เธอจะพานายไปประเทศตันเซิ่งจริง ไม่เลวแฮะ ธิดาเทพของหอเทวาลัยเป็นแบบนี้มาตลอด กลับเจดีย์ยากันเถอะ”
ลู่ฝานประคองหวูเฉินให้ลุกขึ้น จากนั้นเดินกลับเจดีย์ยา
ตกเย็นแสงยามโพล้เพล้สาดส่องไปทั่ว
ยามค่ำคืนมาถึงอย่างเงียบๆ
ในเจดีย์ขาว ลู่ฝานบอกแผนการของตัวเองให้หานเฟิง หลิงเหยาและคนอื่นฟัง สุดท้ายเขาพูดว่า “เรื่องก็ประมาณนี้แหละ อีกห้าวันฉันจะสู้กับธิดาเทพ ถ้าชนะฉันจะตามเธอไปประเทศตันเซิ่ง ถ้าแพ้ฉันก็จะไปเอง”
หานเฟิงกุมหัวแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ทำไมนายถึงจะไปอีกล่ะ ต้องออกจากประเทศอู่อานอีก พระเจ้า ชีวิตนี้ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะออกจากประเทศอู่อาน”
ศิษย์พี่ใหญ่และคนอื่นไม่พูดอะไร หลินหย่ามองลู่ฝานแล้วพูดว่า “ต้องไปจริงๆ เหรอ”