เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1388
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1388
ดังนั้นฉินอวิ่นมองเพียงไม่นานก็ละสายตาตัวเองออกมา ไม่มองต่ออีก
ฉินซางต้าตี้ยิ้มแล้วพูดว่า “การประลองน่าจะเริ่มได้แล้ว จำไว้ว่าทำพอเป็นพิธี อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็ไม่กระทบต่อมิตรภาพของสองประเทศ”
ธิดาเทพพยักหน้าพูดว่า “ค่ะฝ่าบาท หานเยียนจะยับยั้งชั่งใจ”
เสียงกลองดังโครมคราม ถึงเวลาแล้ว การประลองใกล้เริ่มขึ้น
การประลองวันนี้ไม่จำเป็นต้องมีผู้ตัดสิน ผู้บรรยาย ทุกอย่างอยู่ในสายตาทุกคน บนที่นั่งผู้ชมก็มียอดฝีมือนับไม่ถ้วน
ไม่ต้องพูดเรื่องอื่น แค่ฝั่งไอ้อ้วนตงก็เป็นผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งแล้ว
ไอ้หลิวและคนอื่นพากันนั่งลง
ช่วงนี้เหมือนว่าไอ้หลิว ยัยแก่หยางและเซวียนหยวน ไม่ค่อยสู้กันเท่าไรแล้ว
เหมือนทั้งสามคนทำข้อตกลงกันได้แล้ว รอยยิ้มเต็มใบหน้า
ไอ้อ้วนตงมองซ้ายมองขวา ยังไม่เห็นลุงเฒ่าหวูเลย
ไอ้อ้วนตงถอนหายใจเบาๆ ไม่รู้จะพูดยังไงดี
ไม่ไกลจากไอ้อ้วนตง พวกเหลยเชียนเริ่นอยู่ในความสงบ
เมื่อไม่กี่วันก่อนพวกเขาเจอหวูเฉินแล้ว ได้คุยกันรอบหนึ่ง ทำให้เหลยเชียนเริ่นคลายความเสียใจที่มีมาครึ่งชีวิต
ตอนนี้สภาพของเหลยเชียนเริ่นไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขามองไปในสนามด้วยรอยยิ้ม
เหลยเชียนเริ่นพูดอย่างราบเรียบว่า “ลู่ฝานชนะได้แน่นอน ฉันพนันว่าตัดสินแพ้ชนะในสิบกระบวนท่า พวกนายพนันกับฉันไหม”
เหลยเสี่ยวหย่งที่นั่งข้างเขาพูดเสียงดังว่า “บูรพาจารย์มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ ศิษย์พี่ลู่ฝานเก่งมากก็จริง แต่ธิดาเทพก็ไม่ด้อยเลยนะ ตัดสินแพ้ชนะในสิบกระบวนท่าได้จริงเหรอ”
เหลยเชียนเริ่นพูดอย่างเฉยเมยว่า “ไม่แน่อาจไม่ถึงสิบกระบวนท่าด้วยซ้ำ!”
คนข้างๆ แอบปรายตามอง เหลยเสี่ยวหย่งขมวดคิ้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
“ลู่ฝานมาแล้ว เขามาแล้ว!”
จู่ๆ กลุ่มคนตะโกนขึ้นมา
เห็นลู่ฝานเดินช้าๆ เข้ามาในสนามบู๊
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลู่ฝานเหยียบเข้ามาในสนามบู๊ ลู่ฝานมองผู้ชมรอบๆ แล้วยิ้มอย่างราบเรียบ
บนที่นั่งของตระกูลหาน ศิษย์พี่หานเฟิงหัวเราะร่า “ศิษย์น้องลู่ฝานมาแล้ว ฉันนึกว่าเขาจะมาไม่ทันแล้ว ศิษย์น้องหลิงเหยา ศิษย์น้องลู่ฝานคิดกระบวนท่าใหม่ได้หรือเปล่า เธอดูรอยยิ้มเขาสิ ต้องมีวิชาใหม่แน่ๆ”
หลิงเหยาอุ้มเจ้าดำแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่รู้จักเขาดีจริงๆ ใช่แล้ว เมื่อวานเขาบอกฉันว่าคิดกระบวนท่าใหม่ที่ไม่เลวได้กระบวนท่าหนึ่ง”
หานอู๋ซวงหันมาถามว่า “กระบวนท่าที่ไม่เลวยังไงเหรอ”
หลิงเหยาส่ายหน้าพูดว่า “ไม่รู้ แต่ดูเขาดีใจมาก น่าจะใช้ได้เลยล่ะ!”
ทุกคนสีหน้าคาดหวัง บนท้องฟ้า ธิดาเทพก็ลุกขึ้นยืนแล้ว
ธิดาเทพคำนับฉินซางต้าตี้ แล้วเด้งตัวลงมาจากท้องฟ้า
ตัวมีแสงน้ำแข็งเย็นยะเยือก มีแสงกะพริบด้านหลังธิดาเทพอย่างต่อเนื่อง ดูสะดุดตาและสวยงาม
ค่อยๆ ลอยตัวลงสู่พื้น ท่าทางสง่างาม ทำให้ผู้ชมสติหลุดทันที
ภาพที่งดงามนั่น เหมือนนางฟ้าลงมาจากสวรรค์มาก!
ขนาดหานเฟิงยังถึงกับอึ้ง น้ำลายไหลอยู่ที่มุมปาก
“สวยมาก เฮ้อ เมื่อไรฉันจะได้สู้กับคนสวยๆ เหมือนศิษย์น้องลู่ฝานบ้างนะ โดนโจมตีใส่ฉันก็เต็มใจ!”
ในสนาม ธิดาเทพมองลู่ฝานด้วยรอยยิ้ม “ท่านลู่ วันนี้ไม่ได้เล่นหมากรุก ได้โปรดทุ่มสุดกำลังด้วย!”
ลู่ฝานยื่นมือออกมาข้างหนึ่ง เกิดแสงกะพริบ กระบี่หนักไร้คมปรากฏขึ้นในมือเขาทันที
กระบี่หนักปักลงบนพื้น ลู่ฝานยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ธิดาเทพอย่าลืมสัญญาของเราล่ะ”