เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1396
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1396
เช้าวันต่อมา หน้าประตูตระกูลเทียน
ลู่ฝานบอกลาหานอู๋ซวง หานเฟิงและคนอื่นอีกครั้ง
หานอู๋ซวงจับมือลู่ฝานแล้วพูดว่า “ลู่ฝาน ลุงรับปากว่าจะให้บ้านนายหลังหนึ่ง แต่ยังไม่ทันทำความสะอาด นายก็จะไปแล้ว ลุงรู้สึกเหมือนคำพูดเชื่อถือไม่ได้ ช่วยไม่ได้ คงต้องให้อย่างอื่นกับนายแล้วล่ะ นายเก็บหยกชิ้นนี้ไว้ ในเวลาคับขันมันช่วยชีวิตนายได้!”
หานอู๋ซวงเอาหยกยัดใส่มือลู่ฝาน
นี่เป็นหยกสีทั้งชิ้น มองแวบเดียวลู่ฝานก็ดูออกว่านี่คือหยกแขวนจิตบู๊ อีกทั้งยังเป็นหยกแขวนจิตบู๊ที่เต็มไปด้วยวิถีบู๊
ของขวัญชิ้นนี้ล้ำค่ามากจริงๆ ลู่ฝานมองแววตาจริงใจของหานอู๋ซวง กัดฟันรับไว้แล้วพูดว่า “ขอบคุณลุงมาก”
ศิษย์พี่ใหญ่และคนอื่นยืนอยู่ข้างๆ พากันมาบอกลาลู่ฝานทีละคน
หลิงเหยาเป็นคนสุดท้าย จู่ๆ เธอร้องไห้โฮออกมาแล้วโผเข้าไปหาลู่ฝาน
ลู่ฝานตบหลังหลิงเหยาแล้วพูดเสียงเบาว่า “ฉันกลับมาแน่นอน”
หลิงเหยาจับเสื้อลู่ฝานเอาไว้แน่น ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอจึงค่อยๆ ปล่อยมือ
น้ำตาคลอเบ้า หลิงเหยาวางเจ้าดำลงบนไหล่ลู่ฝานแล้วพูดว่า “นายต้องกลับมาพร้อมเจ้าดำนะ”
ลู่ฝานพยักหน้าแรง ตอนนี้สิบสามแบกสัมภาระยืนอยู่ด้านหลังลู่ฝาน
ลู่ฝานถอนหายใจแล้วปล่อยมือหลิงเหยา
หันมาพูดกับสิบสามว่า “นายอยู่ที่นี่ต่อได้นะ”
สิบสามยิ้มแล้วส่ายหน้าเบาๆ
ลู่ฝานพูดต่อ “นายตามฉันไป อาจตายอย่างน่าเวทนา สิบสาม ฉันขอสั่งให้นายอยู่ที่นี่”
สิบสามเงียบไปครู่หนึ่ง จู่ๆ เขาคุกเข่าหมอบกราบลงบนพื้น แล้วพูดเสียงเบาว่า “ไม่กลัวตาย!”
ลู่ฝานไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว เขาก้าวออกไปข้างนอก
สิบสามรีบลุกขึ้นเดินตามลู่ฝานไป หลิงเหยาก็จะวิ่งไปข้างนอก แต่โดนพวกหานเฟิงรั้งไว้
“หลิงเหยา ให้เขาไปเถอะ”
รถม้าผลึกน้ำแข็งจอดรออยู่บนถนนนานแล้ว
บนรถม้า ธิดาเทพกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ใบหน้าปกติ ยโสโอหังเหมือนเดิม
เมื่อเห็นลู่ฝานเดินออกมา ธิดาเทพลงจากรถม้าแล้วพูดว่า “เชิญคุณชายลู่ฝาน!”
ลู่ฝานหันกลับไปมองพวกหลิงเหยาแวบหนึ่ง จากนั้นกัดฟันเดินขึ้นรถม้า
การไปครั้งนี้ไม่ใช่แค่หนทางยาวไกลและเต็มไปด้วยอันตราย ลู่ฝานไม่รู้เหมือนกันว่าจากกันครั้งนี้ จะต้องจากกันตลอดไปหรือเปล่า
แต่เขาทำได้เพียงแข็งใจเดินขึ้นรถม้า
สิบสามนั่งลงบนที่นั่งคนบังคับรถม้า คนละฝั่งกับผู้อาวุโส
ม้ามังกรเขาเดียวส่งเสียงร้องออกมา พารถม้าเคลื่อนตัวไปข้างหน้า
ขณะนั้นลู่ฝานเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ข้างถนน
หลู่เฉิงเซี่ยง!
หลู่เฉิงเซี่ยงไม่ได้พูดอะไร เขาคารวะเป็นการบอกลา หลู่ยินกินถังหูลู่ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอยู่ข้างๆ เขา
ลู่ฝานก็คารวะกลับเช่นกัน
แม้ทั้งสองคนไม่พูดอะไรสักคำ แต่เหมือนเข้าใจทุกอย่างชัดเจน
ลู่ฝานมองไปยังท้องฟ้าไกล ตรงนั้นฟ้าครามเมฆขาว แม้เขามองไม่เห็นอะไร แต่รู้สึกได้ว่ามีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองเขาอยู่ เขารู้ว่านั่นคือสายตาของหวูเฉินอาจารย์ของเขา และตอนนี้ในเจดีย์ยา หวูเฉินกำลังมองม่านน้ำสรวงสวรรค์ น้ำตาไหลพราก ด้านในนั้นคือเงาของลู่ฝาน
หน้าประตูตระกูลหาน
จู่ๆ หลิงเหยาตัวสั่น เธอมองลู่ฝานค่อยๆ หายไป เบ้าตาแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ เธอกัดฟันพูดว่า “ถ้าลู่ฝานตายอยู่ที่อื่นจะทำยังไง”
หานเฟิงรีบตอบว่า “ศิษย์น้องลู่ฝานไม่ตายหรอก”
หลิงเหยาหันมามองหานเฟิงด้วยดวงตาแดงก่ำแล้วพูดว่า “ถ้าเขาตายที่อื่น ฉันไม่มีทางอยู่คนเดียว ฉันจะตามเขาไปด้วย!”
หานเฟิงอึ้งไป จู่ๆ หลิงเหยาสะบัดมือคนรอบๆ ออก แล้ววิ่งไปทางรถม้า
“ลู่ฝาน!”
เสียงตะโกนดังสะเทือนเลือนลั่น
ลู่ฝานหันมามองทันที รถม้าหยุดลงกะทันหัน
“หลิงเหยา!”
ลู่ฝานมองหลิงเหยาที่วิ่งเข้ามาเหมือนเสียสติ เขารีบลงจากรถม้าทันที
หลิงเหยาพุ่งเข้ามากอดลู่ฝาน
“ฉันจะไปกับนาย ตายก็จะตายกับนาย”
ลู่ฝานขบฟันจนสั่น “ไร้สาระ!”
หลิงเหยาพูดเสียงดังว่า “ฉันรู้แค่ว่าถ้าฉันปล่อยนายไปตอนนี้ ฉันจะเสียใจไปทั้งชีวิต ถ้านายไม่ให้ฉันไปด้วย ฉันจะตายให้นายดูตอนนี้เลย!”
สายตาแน่วแน่พร่าเลือนไปด้วยน้ำตา
จู่ๆ ลู่ฝานพูดอะไรไม่ออก ธิดาเทพขมวดคิ้วเบาๆ
ลู่ฝานกอดหลิงเหยาเอาไว้ทันที จากนั้นพูดเสียงเบาว่า “ได้ เราไปด้วยกัน!”
หลิงเหยายิ้มทั้งน้ำตา ทั้งสองคนขี้นมาบนรถม้าอีกครั้ง
ลู่ฝานพูดเสียงเบาว่า “ธิดาเทพ เพิ่มมาอีกคนคงไม่เป็นไรใช่ไหม!”
ธิดาเทพยิ้มสดใสแล้วพูดว่า “แล้วแต่คุณชายลู่ฝานเลย!”
ลู่ฝานมองหลิงเหยา ทั้งสองจับมือกันแน่น
ด่านเขานับหมื่นลี้ เราสองไม่แยกจากกัน!
สุดขอบฟ้าสิ้นมหาสมุทร เราสองร่วมเป็นร่วมตาย!
เราสองร่วมเดินทางในใต้หล้า!