เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1399
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1399
ผ่านไปสามวัน อุโมงค์ข้ามมิติไกลๆ เริ่มมีแสงสว่าง
อยู่กับความมืดในอุโมงค์ข้ามมิติมาสิบกว่าวัน ในที่สุดก็เห็นแสงสว่างสักที ขนาดคนสุขุมอย่างลู่ฝาน ยังอดมีรอยยิ้มบนใบหน้าไม่ได้
เห็นด้วยตาเปล่าว่านั่นเป็นมวลแสงห้าสี
ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ลู่ฝานและคนอื่นเห็นว่ามวลแสงห้าสีนี้คือพลังฟ้าดินที่เคลื่อนไหวอยู่ในอุโมงค์ข้ามมิติ
แต่พลังฟ้าดินที่นี่ไม่เหมือนประเทศอู่อาน ที่รวมตัวเป็นอุโมงค์มิติและเคลื่อนตัวไหลไป
มวลแสงห้าสีขนาดใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดไกลๆ ลอยนิ่งอยู่ตรงนั้น
ธิดาเทพเห็นแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ใกล้ถึงแล้ว!”
ลู่ฝานยิ้มแล้วถามว่า “คิดไม่ถึงว่าพลังฟ้าดินของพวกเขาจะไม่เคลื่อนไหว”
ธิดาเทพตอบว่า “ใช่ พลังฟ้าดินของประเทศเป่ยเสินของเราก็ไม่เคลื่อนไหวเหมือนกัน พอพูดขึ้นมาเหมือนในใต้หล้านี้ มีแค่พลังฟ้าดินของประเทศอู่อานที่เคลื่อนไหว ไม่รู้คือกฎเกณฑ์อะไร”
ลู่ฝานไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน เขาจับมือหลิงเหยาแล้วมองมวลแสงห้าสีที่ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งวัน แสงห้าสีส่องมายังใบหน้าพวกลู่ฝาน
มองไกลๆ ดูยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก เมื่อเข้ามาใกล้พลังฟ้าดินเหล่านี้ เหมือนคูน้ำปิดกั้นโลก
ลู่ฝานเบิกตาโตมองพลังฟ้าดินที่รุนแรงสุดขีด เหมือนรวมตัวเป็นกำแพงธรรมชาติ ปิดกั้นพวกเขาเอาไว้ด้านนอก
ธิดาเทพยิ้มแล้วพูดว่า “นี่คือจุดที่วุ่นวาย ไปประเทศอื่นต้องแจ้งให้ทราบ แสดงให้เห็นว่าตัวเองไม่ได้มีเจตนาร้าย ให้พวกเขาพาเราเข้าไปในเส้นทางที่ปลอดภัย แต่ประเทศอู่อานของพวกนายไม่มีอะไรแบบนี้ สามารถเข้าไปได้เลย”
พูดจบ ธิดาเทพสะบัดมือไปทางผู้อาวุโส
ทันใดนั้น ผู้อาวุโสมาข้างหน้ากำแพงห้าสีที่แข็งแกร่งไร้ขอบเขต แล้วพูดเสียงดังว่า “ธิดาเทพประเทศเป่ยเสินท่องใต้หล้า ผ่านมาประเทศคุณ ได้โปรดนำทางด้วย!”
เสียงดังผ่านพลังฟ้าดินรุนแรงเข้าไปข้างใน
แค่เสียงนี้ ลู่ฝานก็มั่นใจว่าผู้อาวุโสคนนี้ต้องมีวิทยายุทธแดนปราณฟ้าขึ้นไปแน่ๆ มีโอกาสเป็นแดนปราณฟ้าขั้นสูงสุดด้วย
ลู่ฝานรู้สึกได้ว่าตอนผู้อาวุโสตะโกน กำแพงพลังฟ้าดินข้างหน้าเริ่มสั่นเบาๆ
ตะโกนติดกันสามครั้ง จากนั้นผู้อาวุโสถอยกลับมา
หลิงเหยาเบิกตาโตถามว่า “อีกฝ่ายจะมารับไหม ถ้าพวกเขาไม่มาจะทำยังไง”
ธิดาเทพยิ้มแล้วพูดว่า “ประเทศเป่ยเสินของเรามีบารมีมาก ถ้าพวกเขากล้าเมินใส่ฉัน รอฉันเอาเรื่องนี้กลับไปแจ้งหอเทวาลัย เอาเซียนบู๊สักสองคนมาหาเรื่องพวกเขา พวกเขาก็รับไม่ไหวแล้ว”
พูดจบ ธิดาเทพหันไปพูดกับลู่ฝานต่อ “ไม่ใช่ทุกประเทศที่มีเซียนบู๊บัญชาการ อย่างเช่นประเทศหลิง พื้นที่คงไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของประเทศอู่อานเลยมั้ง เซียนบู๊คงน้อยจนนับนิ้วได้เลย!”
ลู่ฝานถามอย่างไม่เข้าใจ “เธอเคยมาประเทศหลิงเหรอ เหมือนเธอรู้จักประเทศนี้ดีมาก”
ธิดาเทพยิ้มแล้วตอบว่า “เพราะก่อนมาฉันทำการบ้านเป็นอย่างดี ประเทศทั้งใต้หล้านี้ ฉันพูดได้ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเป็นรอบๆ ประเทศเป่ยเสินของเรา ฉันพูดได้ 100 เปอร์เซ็นต์”
ลู่ฝานมองธิดาเทพด้วยแววตาเลื่อมใส ความรู้แบบนี้เขาหาไม่ได้ในตระกูลหลู่ ดูเหมือนต่อไปต้องให้ธิดาเทพแนะนำเยอะๆ แล้ว
ลู่ฝานไม่เคยคิดว่าการขอคำแนะนำจากคนที่แพ้ตัวเองเป็นเรื่องน่าอับอาย คนอื่นมีความรู้ เข้าใจอะไรมากมาย ก็ต้องถามจากคนอื่นเยอะๆ