เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1481
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1481
ประเทศตันเซิ่ง
ตามตำนานคือประเทศที่สร้างโดยตันเซิ่ง
ไม่มีใครจำชื่อจริงของตันเซิ่งได้ จำได้แค่ว่าตามตำนานตอนเขาสร้างประเทศ ประเทศตันเซิ่งเป็นแค่พื้นที่รกร้างว่างเปล่า ไม่มีแม่น้ำลำธาร ภูเขาป่าไม้ พลังฟ้าดินน้อยมาก ผืนดินแห้งแล้ง พายุหิมะรุนแรง
ตันเซิ่งเห็นสภาพเช่นนี้ จึงใช้เวลา 30 ปี กลั่นยาทิพย์เป็นอมตะออกมาหนึ่งเม็ด แล้วยัดลงไปในผืนดิน
หลังจากนั้นสรรพสิ่งเจริญงอกงามอย่างรวดเร็ว ต้นไม้ใบหญ้าเจริญเติบโต ภายในคืนเดียวผืนดินของประเทศตันเซิ่งเริ่มอุดมสมบูรณ์ จู่ๆ ก็มีแม่น้ำลำธารเกิดขึ้น พายุหิมะอ่อนกำลังลง นกมากมายบินมาจากแดนไกล
หลังจากนั้นตันเซิ่งโยนเครื่องรางของตัวเองออกมา เจดีย์เฮ่าเทียนตั้งอยู่ที่นี่
ตัวเจดีย์ปะทะลมแล้วขยายใหญ่ขึ้น สุดท้ายกลายเป็นเจดีย์เก้าชั้นของประเทศตันเซิ่ง ปกป้องคุ้มครองประชาชนประเทศตันเซิ่งมารุ่นต่อรุ่น ติดต่อกันมาถึงทุกวันนี้
พลังฟ้าดินรุนแรงของประเทศตันเซิ่ง ว่ากันว่าเป็นสิ่งที่ตันเซิ่งทิ้งไว้ก่อนตาย
นี่คือที่มาของประเทศตันเซิ่ง ถ้ายังไม่ได้มาประเทศตันเซิ่ง ลู่ฝานคงคิดว่านี่เป็นเพียงแค่ตำนาน
แต่หลังจากมาประเทศตันเซิ่ง ลู่ฝานคิดว่านี่คงเป็นเรื่องจริง
ไม่งั้นคงไม่สามารถอธิบายได้หรอกว่าเจดีย์ใหญ่ขนาดนี้มาจากที่ไหน
ลู่ฝานสอบถามไอ้เก้าในใจ ไอ้เก้าพูดอย่างราบเรียบว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ถ้าฉันฟื้นฟูพลังทั้งหมด ก็ใหญ่แบบนี้ได้เหมือนกัน!”
ลู่ฝานตอบกลับอย่างเฉยเมยว่า “แกโม้ให้น้อยลงหน่อยน่าจะดีนะ”
เดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ ดูเหมือนสวรรค์ชั้น 1 ของประเทศตันเซิ่งใหญ่กว่าเมืองหลวงเยอะเลย
อย่างน้อยในเมืองหลวง จากศูนย์กลางเมืองด้านในถึงเมืองชั้นนอก ใช้เวลาเดินทางแค่ไม่กี่วันเท่านั้น
ถ้าใช้ค่ายกลเคลื่อนฟ้าตลอดทาง คงใช้เวลาไม่ถึง 2-3 วัน
แต่ในสวรรค์ชั้น 1 ของประเทศตันเซิ่ง ถึงใช้ค่ายกลเคลื่อนฟ้าอย่างบ้าคลั่ง หั่วเทียนหรุ่ยก็พาหลิงเหยากับลู่ฝานเดินทางตั้ง 5-6 วันเต็มๆ กว่าจะถึงสถานที่ที่เต็มไปด้วยความเขียวชอุ่ม
เมื่อมองจากไกลๆ ที่นี่มีป่าเขาและลำธาร ดูเงียบสงบมาก
แต่ลู่ฝานสัมผัสได้ว่าในป่าเขามีความอาฆาตซ่อนอยู่
เต็มไปด้วยค่ายกลและพลังห้าธาตุ
ที่นี่แม้แต่ใบไม้ใบเดียวคงกลายเป็นสัตว์อสูรห้าธาตุได้
สถานที่ที่มีการป้องกันแบบนี้ ต้องไม่ใช่สถานที่ธรรมดาแน่ๆ ลู่ฝานแอบส่งเสียงให้หลิงเหยา “เราใกล้ถึงตระกูลหั่วแล้ว”
หลิงเหยาพูดเสียงเบา “ทำไงดี จะหนีตอนนี้เลยไหม”
ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ “เตรียมตัวไว้ตลอดเวลา ถ้าไปข้างในต่อเรื่อยๆ คงไม่มีโอกาสหนีแล้ว ที่นี่เป็นป่าไม้ คาถาต้องห้ามไม่น้อยเหมือนกัน พวกเขาน่าจะไม่กล้าไล่ตามมั่วซั่ว เป็นสถานที่ให้เราได้หนี!”
หลิงเหยาสูดหายใจลึก เริ่มปรับพลังของตัวเอง
ในช่วงนี้ภายใต้การช่วยเหลือของลู่ฝาน หลิงเหยาค่อยๆ ปรับตัวกับประสิทธิภาพของหินผนึกกำลัง ตอนนี้เธอไม่ต้องให้ลู่ฝานช่วยแล้ว อันที่จริงสามารถหลุดออกจากโซ่ได้เองแล้ว
สายตาของทั้งสองคนเริ่มดุดัน เตรียมตัวหนี
แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังจะเคลื่อนไหว จู่ๆ มีเสียงตะโกนดังขึ้นไม่ไกล
“โอ๊ย นี่มันเทียนหรุ่ยนี่นา ลมอะไรพัดเธอกลับตระกูลได้เนี่ย”
ทันใดนั้นเรือสีม่วงทองลอยมาจากไม่ไกล
ดูแค่หัวก็รู้ว่าเรือสีม่วงทองลำนี้ดีกว่าเรือสีทองของหั่วเทียนหรุ่ยเยอะ
ลู่ฝานเห็นว่ามีคนมาอีกกลุ่ม จึงส่งสัญญาณให้หลิงเหยาอย่าบุ่มบ่าม
หั่วเทียนหรุ่ยยกมือขึ้น ทุกคนหยุดลงทันที จ้องเงาที่เหาะเข้ามา เป็นผู้ฝึกชี่ 7-8 คนสวมชุดคลุมยาวสีแดงอมม่วง
ชายคนที่นำมาใบหน้าดั่งหยกประดับกวน ถือพัดขนนก ดูรูปหล่องดงาม
แต่รอยยิ้มตรงมุมปากกลับทำให้เขาดูร้ายกาจเล็กน้อย นัยน์ตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยความปรารถนา วินาทีที่เห็นหั่วเทียนหรุ่ย เขาเผยใบหน้าโลภออกมา