เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1483
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1483
คำตอบของทั้งสองคนทำให้ลู่ฝานตกใจจนอ้าปากค้าง
“นักบู๊ เพียงเพราะพวกนายเป็นนักบู๊เนี่ยนะ”
หลิงเหยาอดถามไม่ได้
ทั้งสองคนไม่ตอบ แต่หั่วเยี่ยนที่อยู่ข้างหน้าพูดเสียงดัง “ใช่ เพราะพวกเขาเป็นนักบู๊ นักบู๊ต่ำต้อยจากต่างแดนอย่างพวกนาย ยังไม่เคยเห็นความโหดร้ายที่แท้จริงของสังคมนี้สินะ นี่คือประเทศของผู้ฝึกชี่ที่สูงส่ง เป็นอมตะ ยิ่งใหญ่ ประเทศตันเซิ่งที่มีเกียรติสูงสุด และฉันคือคุณชายสามของตระกูลหั่วหนึ่งในห้าตระกูลสุดแข็งแกร่งของประเทศตันเซิ่ง นักบู๊อย่างพวกนายเมื่ออยู่ต่อหน้าฉันก็เป็นได้แค่สุนัขเท่านั้น ถ้าพวกนายไม่ยอมเป็นสุนัข ฉันจะไม่ให้พวกนายมีสิทธิ์แม้แต่มีชีวิตอยู่ต่อไป”
หั่วเยี่ยนพูดพลางเดินมาตรงหน้าหลิงเหยา
ใบหน้ามีรอยยิ้มชั่วร้าย “สาวสวยขนาดนี้ แค่อบรมอีกนิดหน่อยก็ยิ่งสมบูรณ์แบบเพิ่มขึ้นอีก!”
พูดพลาง เขายื่นมือเข้าไปหาหลิงเหยา เหมือนต้องการจับใบหน้าเธอ
ความอาฆาตฉายขึ้นนัยน์ตาลู่ฝาน เขาจ้องหั่วเยี่ยนแล้วพูดว่า “ถ้านายกล้าแตะต้องเธอ ฉันจะเอาชีวิตนาย!”
เสียงเหมือนมาจากนรก พลังอาฆาตเย็นยะเยือกทะลุเสื้อผ้าและผิวหนังของหั่วเยี่ยนเข้ามาในกระดูกของเขา
ทันใดนั้นหั่วเยี่ยนชะงักไป เขาหันมามองลู่ฝาน
เห็นได้ชัดว่าหั่วเยี่ยนขนลุกไปทั้งตัว
นั่นมันเป็นดวงตาที่ทำให้คนหวาดกลัวมาก ทั้งชีวิตหั่วเยี่ยนไม่เคยเจอความอาฆาตที่โถมใส่หน้าแบบนี้มาก่อน
หั่วเยี่ยนกลั้นหายใจ โงนเงนถอยไปด้านหลัง เกือบตกจากเรือสีม่วงทองของตัวเอง
ผู้ฝึกชี่เสื้อม่วง 7 คนด้านหลังเขามีพลังชี่พุ่งขึ้นมาบนตัว แสงห้าธาตุรวมตัวบนมือ เหมือนเตรียมลงมือทุกเมื่อ
ลู่ฝานกวาดตามองพวกเขาอย่างเฉยเมย พวกพละกำลังแค่ปรมาจารย์บำเพ็ญชี่ขั้นสูงสุด คิดจะจัดการเขางั้นเหรอ
ลู่ฝานเตรียมโจมตีกลับทุกเมื่อ
แต่หั่วเยี่ยนไม่ได้สั่งให้ลงมือ เขามองลู่ฝานอย่างหวาดกลัวแวบหนึ่ง หลังจากนั้นหมุนตัวเรือแล้วพูดว่า “กลับ”
ผู้ฝึกชี่คนอื่นล้อมลู่ฝานกับหลิงเหยาเอาไว้ตรงกลางอย่างหวาดระแวง
ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ ส่งเสียงให้หลิงเหยาว่า “พวกอ่อน”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าหลิงเหยา
ด้านหน้า ชายคนหนึ่งมาข้างหั่วเยี่ยนแล้วพูดว่า “คุณชายสามเป็นอะไรไป นักโทษคนนี้กล้าเสียมารยาทกับคุณชายขนาดนี้ ฆ่าเขาเลยดีไหม!”
ตอนนี้หั่วเยี่ยนยังสติหลุดอยู่ เมื่อได้ยินผู้ชายพูดคำว่าฆ่า เขาชะงักไปทั้งตัวแล้วพูดว่า “อย่าฆ่าฉัน!”
ทุกคนมองมาทางหั่วเยี่ยนด้วยสายตาประหลาด
ใบหน้าหั่วเยี่ยนอึมครึม เขากัดฟันพูดว่า “ให้ตายเถอะๆ ทำไมนักบู๊ขยะถึงทำให้ฉันตกใจได้ เป็นไปไม่ได้ ฉันคือคุณชายสามแห่งตระกูลหั่วผู้ยิ่งใหญ่”
หั่วเยี่ยนหันมามองลู่ฝานด้วยแววตาเคียดแค้น
ไอ้หมอนี่ทำให้เขาสติหลุดและขายหน้า อภัยให้ไม่ได้เด็ดขาด
“กลับเข้าไปในป่า จัดการเขาซะ”
หั่วเยี่ยนอับอายจนโกรธ ตอนนี้เขาไม่สนใจคำพูดของหั่วเทียนหรุ่ยแล้ว
ศิษย์อสูรศักดิ์สิทธิ์ เรื่องใหญ่อะไรกัน ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาทั้งนั้น ตอนนี้เขาอยากให้ลู่ฝานตายทันที
ผู้ฝึกชี่ชุดม่วงที่อยู่ข้างๆ พยักหน้า สะบัดมือให้เรือเปลี่ยนทิศทางเข้าไปในป่า
ลู่ฝานเห็นภาพนี้จึงส่งเสียงว่า “ดูเหมือนพวกเขาจะลงมือกับเราแล้ว”
หลิงเหยาเกร็งไปทั้งตัว “จะลงมือตอนนี้เลยไหม”
ลู่ฝานส่ายหน้าเบาๆ ขยับริมฝีปากเล็กน้อย
“พวกเขาจะหาสถานที่ลับตาคนกำจัดเราทิ้ง นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการพอดีเลย!”
หลิงเหยาพยักหน้าเข้าใจ
ร่มเงาต้นไม้บดบัง แสงอาทิตย์โดนใบไม้บดบังจนเป็นแสงกระจายส่องลงมาบนพื้น ยิ่งเข้าไปข้างในเรื่อยๆ ยิ่งเงียบสงัดเป็นอย่างมาก
ต้นไม้โดนลมพัดเบาๆ จนเกิดเสียง หั่วเยี่ยนพาพวกลู่ฝานมาถึงใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งจึงหยุดลง
ต้นไม้ต้นนี้สูงมาก ขนาดประมาณร้อยคนโอบ
ใบไม้หลากหลายสีสัน แสงสะดุดตาแผ่ออกมาตั้งแต่ยอดไม้จนถึงรากไม้
“โอเค ที่นี่แหละ”
หั่วเยี่ยนพูดเสียงเย็นชา
ทุกคนหยุดลง ผู้ฝึกชี่ทุกคนเอาเครื่องรางออกมา
ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “คุณชายหั่วเยี่ยน ไหนบอกว่ากลับจวนของนายไม่ใช่เหรอ ฉันดูไม่ออกเลย ต้นไม้ต้นนี้คือจวนของนายเหรอ”
หั่วเยี่ยนยิ้มแล้วพูดว่า “นายยังอยากเข้าไปในจวนฉันอีกเหรอ ฉันจะบอกให้นะ ที่นี่คือที่ฝังศพนาย นายไม่ควรมาหาเรื่องฉัน!”
หั่วเยี่ยนหันมาพูดกับหลิงเหยาว่า “ส่วนคนนี้ฉันจะดูแลเป็นอย่างดี จนกว่าวันใดวันหนึ่งฉันจะเบื่อ!”
สีหน้าหลิงเหยาไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก
ลู่ฝานพูดเสียงขรึมว่า “นายรู้หรือเปล่าว่าคนบางคนตายเพราะปากตัวเอง”
หั่วเยี่ยนพูดว่า “ใช่ อย่างเช่นนายไงล่ะ รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงเลือกที่นี่เป็นที่ฝังศพนาย นายอาจยังไม่รู้ที่มาต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังฉัน มันชื่อว่าต้นกินพลัง กินเนื้อเป็นอาหาร ชอบกินศพมนุษย์เป็นที่สุด เนื้อและกระดูกตั้งแต่หัวจรดเท้าของนายไม่มีทางเหลือ นายจะกลายเป็นอาหารของมัน มีส่วนช่วยตระกูลหั่วของเรา โอเค พวกนายตายได้แล้ว ลงมือ!”