เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1523
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1523
หั่วหลงจู้อกสั่นขวัญแขวน ใบหน้าซีดเผือด ค่อยๆ เดินไปหาผู้อาวุโสห้า
ลู่ฝานหันไปมองทางผู้อาวุโสห้า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นผู้ฝึกชี่ชุดคลุมขาวของตระกูลหั่ว
ลู่ฝานไม่รู้ว่าผู้อาวุโสห้ามาตั้งแต่เมื่อไร นี่แสดงว่าวิทยายุทธของผู้อาวุโสห้ากับไป๋หยินเหมือนกัน คงเป็นอริยปราชญ์แดนฟ้าดินเหมือนกัน
หั่วหลงจู้เดินมาตรงหน้าผู้อาวุโสห้า คำนับแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโส”
ผู้อาวุโสห้าส่งเสียงหึออกมาอย่างแรง “หั่วหลงจู้ ตอนนี้ฉันรู้สึกพลาดที่เรียกนายกลับมา นายน่าจะอยู่ในถ้ำไฟเซียนสักสิบปีเพื่อขัดเกลานิสัย ดูเหมือนฉันต้องปรึกษาผู้อาวุโสคนอื่น รายงานเรื่องนี้กับเจ้าบ้าน ดูสิว่าเขาจะจัดการยังไง!”
หั่วหลงจู้สั่นไปทั้งตัว พูดอะไรไม่ออกสักคำ
ผู้อาวุโสห้าสะบัดแขนเสื้อแล้วพูดว่า “ตามฉันมา อย่ามาทำขายหน้าที่นี่!”
ผู้อาวุโสห้าเดินออกไป หั่วหลงจู้รีบตามไปอย่างรวดเร็ว
ก่อนไปหั่วหลงจู้หันมามองลู่ฝานอย่างเคียดแค้น ท่าทางกัดฟันกรอดๆ เหมือนจะกลืนลู่ฝานเข้าไปทั้งเป็นอย่างไรอย่างนั้น
ลู่ฝานยิ้มบางๆ แล้วพูดเสียงเบาว่า “หั่วหลงจู้ซวยแล้ว”
หลิงเหยาพูดเสียงเบาอยู่ข้างๆ ว่า “เมื่อกี้เขาว่านายขนาดนั้น นายไม่โกรธเลยเหรอ”
นัยน์ตาลู่ฝานฉายแววประหลาด “โกรธเหรอ ไม่หรอก ฉันไม่โกรธสักนิด ยิ่งเขาด่าแรงเท่าไร ก็ยิ่งแสดงว่าเขากระจอก”
หลิงเหยาพูดว่า “หึ ก่อนเราไปต้องสั่งสอนไอ้หมอนี่ให้เข็ด คิดไม่ถึงว่าเขากล้าด่านาย เมื่อกี้ฉันเกือบต่อยเขาไปแล้ว”
หลิงเหยายกหมัดเล็กๆ ของตัวเองขึ้นมา ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ เรามีโอกาสนั้นแน่ๆ”
ทั้งสองคุยกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังจากนั้นก็กวาดขยะต่อ
ไป๋หยินมองผู้อาวุโสห้ากับหั่วหลงจู้เดินออกไป จากนั้นเดินช้าๆ เข้ามาหาลู่ฝาน
ผู้อาวุโสรอบๆ จำนวนไม่น้อย พากันมองไป๋หยินด้วยสายตาประหลาด ในนั้นมีความรู้สึกขบขันอยู่ไม่น้อย
เมื่อเห็นไป๋หยินเดินเข้ามา ลู่ฝานไม่ได้หยุดกวาดขยะ ค่อยๆ จัดการงานตัวเองไปเรื่อยๆ
ไป๋หยินยืนห่างจากลู่ฝานประมาณสามเมตร มองลู่ฝานกวาดขยะอย่างเฉยเมย
ทันใดนั้นไป๋หยินพูดว่า “นายกวาดผิดวิธี”
ลู่ฝานเงยหน้ามองไป๋หยินแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสโปรดชี้แนะด้วย”
ไป๋หยินพูดว่า “กวาดลมก่อน จากนั้นกวาดฝุ่น แล้วค่อยกวาดใจ”
พูดพลาง ไป๋หยินขยับนิ้วเบาๆ ไม่ได้ใช้พลังอะไรสักอย่าง พลังฟ้าดินรอบตัวก็ไม่เคลื่อนไหว แร่หินที่พื้นแตกกระจัดกระจายไปทั่ว
เมื่อลู่ฝานเห็นภาพนี้ เขามีอะไรในใจแล้ว
ไป๋หยินเอาสองมือไพล่หลังเดินไป เขาพูดทิ้งท้ายว่า “จิตใจที่เต็มไปด้วยฝุ่นจะเคลื่อนไหวฟ้าดินได้ยังไง จิตใจที่ไม่สะอาด จะกวาดล้างทั้งใต้หล้าได้ยังไง!”
เหมือนมีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ในใจลู่ฝาน เขารีบหลับตาลง ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
หลิงเหยาได้ยินแล้วมึนงง ไม่เข้าใจอะไรเลย
เธอไม่เข้าใจก็ไม่ผิด เพราะเธอเป็นนักบู๊
ลู่ฝานพอเข้าใจสิ่งที่ซ่อนอยู่ในคำพูดไป๋หยิน แต่เหมือนมีผ้าบางๆ บังหน้าตาแท้จริงของโลกด้านหน้าเขา
ลู่ฝานมองเห็นแค่รูปร่างเพียงรางๆ เท่านั้น
เขายื่นมือออกไปเพื่อจะเปิดผ้าบางออก แต่พบว่านิ้วมือตัวเองไม่สามารถสัมผัสผ้าบางที่ดูเหมือนไม่มีอยู่จริง
ความกระวนกระวายผุดขึ้นในใจ ลู่ฝานขมวดคิ้วขึ้นมา
หลิงเหยาก็ไม่กล้ารบกวนเขา เธอรอเงียบๆ อยู่ข้างๆ
ผ่านไปนาน จู่ๆ ลู่ฝานสูดหายใจลึก พยายามทำให้ตัวเองใจเย็น
ลู่ฝานลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วพูดว่า “ทำงานต่อเถอะ”
หลิงเหยาพูดเสียงเบาว่า “นายทำความเข้าใจอะไรได้เหรอ”
ลู่ฝานส่ายหน้า “บอกไปอาจไม่ดี พูดยาก! ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามใจและวาสนาแล้วกัน!”
เมื่อพูดเช่นนี้ ลู่ฝานเริ่มกวาดขยะอีกแล้วครั้ง แต่ครั้งนี้ไม้กวาดของเขาไม่สัมผัสพื้น
……
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวผ่านไปแล้วเจ็ดวัน
เหมือนวันนี้ตระกูลหั่วเกิดเรื่องอะไรบางอย่าง ทุกคนพากันไปที่ตีนเขาตั้งแต่เช้า
วันนี้ในหมู่บ้านด้านล่างเขาเทียนนู่ มีค่ายกลแร่หินวางอยู่
สูงเก้าเมตรกว่า กว้างสามร้อยกว่าเมตร แร่หินเป็นกองกระจัดกระจายไปทั่ว แสงไหลวนไปมา
ผู้ชายสวมชุดคลุมยาว มีลายมังกรทองด้านหลัง ยืนตระหง่านอยู่ด้านนอกค่ายกล
ห้าวหาญ ทรงพลัง ความได้ใจของคนพวกนี้ แทบจะเชิดหน้ามองคนอื่นอยู่แล้ว
มองเพียงแวบเดียวลู่ฝานก็จำพวกเขาได้แล้ว นี่มันพวกผู้ฝึกชี่ตระกูลจินที่จะแย่งสมุนไพรที่ร้านยาตันหั่วนิ
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้า ลู่ฝานพูดกับหลิงเหยาที่อยู่ข้างๆ ว่า “จินเซ่าเหยียน! ฉันว่าแล้วว่าช่วงนี้คนพวกนี้ไปไหนกัน”
หลิงเหยาพูดว่า “คิดไม่ถึงว่าพวกเขายังอยู่ตระกูลหั่ว อย่าบอกนะว่านี่คือการต่อสู้ห้าปีของห้าตระกูลใหญ่”
ลู่ฝานพูดด้วยแววตาประหลาด “ไม่ค่อยแน่ใจ ดูไปเดี๋ยวก็รู้”
ผู้ฝึกชี่บินไปมาบนท้องฟ้า ทั้งบนฟ้าและพื้นดินมีผู้ฝึกชี่ตระกูลหั่วแย่งชิงที่นั่งชมดีๆ อย่างต่อเนื่อง ล้อมค่ายกลแร่หินเอาไว้แน่นขนัด
จู่ๆ ลำแสงสีขาวสามดวงพุ่งมาจากขอบฟ้า ร่วงลงตรงหน้าทุกคน
ลำแสงสีขาวแต่ละแสงคือผู้อาวุโสชุดคลุมขาว ผู้อาวุโสห้าคือหนึ่งในนั้น
ส่วนผู้อาวุโสสองคนที่เหลือหน้าตาสดใส จิตใจสงบผ่อนคลาย
ผู้อาวุโสห้ากวาดตามองรอบๆ แล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสสามกับผู้อาวุโสรอง ใครจะเป็นคนประกาศ”