เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1549
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1549
หลังผ่านไปสิบวัน ที่สวนยาวิเศษ
วันเวลายังคงดำเนินต่อไป ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ
สวนยาวิเศษที่สงบสุข ดอกไม้ใบหญ้าแปลกประหลาดยังเบ่งบานเหมือนเดิม ลู่ฝานนั่งอยู่บนดอกไม้ขนาดใหญ่มหึมา มองออกไปไกลๆ
ลองนับดูแล้ว การต่อสู้ห้าปีของห้าตระกูลใหญ่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว
ลู่ฝานกระวนกระวายใจเล็กน้อย การที่เขาอยู่ที่ตระกูลหั่ว เพราะต้องการเข้าร่วมการต่อสู้ห้าปีของห้าตระกูลใหญ่ ถ้าตระกูลหั่วไม่คิดให้เขาเข้าร่วมคงวุ่นแน่ๆ
“ลู่ฝาน นายดูสิว่าใครมา”
หลิงเหยาตะโกนอยู่ด้านล่าง
ลู่ฝานหันไปมอง เห็นผู้อาวุโสห้ามองเขาด้วยรอยยิ้มสดใส
ลู่ฝานกระโดดลงมาจากดอกไม้ขนาดใหญ่ มองผู้อาวุโสห้าด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโส กว่าจะได้เจอกันสักครั้ง!”
ผู้อาวุโสห้ายิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าไม่มีธุระฉันก็ไม่มาหรอก ลู่ฝาน อันนี้ให้นาย เก็บไว้ให้ดีล่ะ”
ผู้อาวุโสห้าโยนป้ายอันหนึ่งออกมา พาดผ่านเป็นแสงห้าสีอยู่กลางอากาศ
ลู่ฝานรับป้ายเอาไว้ แสงห้าธาตุกะพริบอยู่ข้างบน
สีหน้าลู่ฝานตื่นเต้นเล็กน้อย “นี่อะไร”
ผู้อาวุโสห้ายิ้มบางๆ “ป้ายคำสั่งห้าธาตุของห้าตระกูลใหญ่ นายอาจได้ยินแล้ว ฉันปรึกษากับผู้อาวุโสคนอื่นแล้ว ตัดสินใจให้นายออกเดินทางไปกับลูกหลานตระกูลหั่ว นายต้องช่วยตระกูลต่อสู้อย่างเต็มที่ ถ้าทำได้ดี ตระกูลมีรางวัลใหญ่ให้!”
ลู่ฝานรีบเก็บป้าย ในที่สุดความกังวลใจก็หายไปสักที
มีป้ายอันนี้อยู่ ก็เหมือนมีเส้นทางไปยังต้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซ่อมแซมสวรรค์
แม้เส้นทางนี้ดูยากลำบาก แต่ลู่ฝานมั่นใจมาก
“นั่งคุยกันหน่อยไหม ลู่ฝาน เอาสมุนไพรในสวนของนายมาชงชาให้ฉันสิ”
ผู้อาวุโสห้าพูดด้วยรอยยิ้ม
ลู่ฝานรีบพูดกับหลิงเหยาว่า “หลิงเหยารีบไปจัดการเร็ว เก็บยาเทวดาที่ดีที่สุดมาให้ผู้อาวุโส”
หลิงเหยายิ้มกว้างแล้วรีบเดินออกไป
ลู่ฝานเชิญผู้อาวุโสห้ามาที่หน้าบ้านไม้ ทั้งสองนั่งตรงข้ามกัน ลู่ฝานสะบัดมือเอาน้ำสะอาดมาเทให้ผู้อาวุโสห้า
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโส ฉันเข้าร่วมการประลองของห้าตระกูลใหญ่ครั้งแรก ผู้อาวุโสบอกฉันหน่อยสิว่ามีตรงไหนต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษไหม”
ผู้อาวุโสห้ายิ้มบางๆ “การประลองไม่มีอะไรมากไปกว่าวิชายากับวิชา การประลองครั้งนี้อยู่ที่เมืองหลวงสวรรค์ชั้นหก ฝ่าบาทเป็นคนดำเนินการ สู้ต่อหน้าทุกคน ตระกูลที่ชนะจะได้รางวัลและทรัพยากรมากมาย ภายในห้าตระกูลใหญ่ก็มีการเดิมพันต่างๆ อีกทั้งไม่ใช่น้อยๆ ด้วย ดังนั้นถ้าพูดว่าชนะได้ก็ต้องชนะได้จริงๆ นี่ไม่ใช่แค่ศักดิ์ศรีของตระกูล ยังมีผลประโยชน์แท้จริงอีกมากมาย”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “เข้าใจได้ แล้วคนตระกูลอื่นแข็งแกร่งกันหมดเลยไหม”
ผู้อาวุโสห้าพูดว่า “การต่อสู้ของคนอายุน้อย ถึงแข็งแกร่งแต่ก็มีขีดจำกัด อย่างมากก็แค่เซียนบำเพ็ญชี่เท่านั้น จากพละกำลังของนายตอนนี้ แม้ไม่กล้าพูดว่าชนะ แต่ถ้าสู้กันก็ไม่เป็นปัญหา แต่มีอยู่หนึ่งคนที่นายต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ ถ้าเจอคนนี้แล้วสู้ไม่ได้ ให้รีบยอมแพ้ทันที”
ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “ใคร”
ผู้อาวุโสห้าพูดว่า “สุ่ยหมิงคงตระกูลสุ่ย!”
ลู่ฝานพูดว่า “คนนี้แข็งแกร่งมากเหรอ”
ผู้อาวุโสห้าพยักหน้า “ใช่น่ะสิ ทายาทอันดับหนึ่งของตระกูลสุ่ย วิทยายุทธน่าจะถึงระดับเซียนบำเพ็ญชี่ตอนปลายแล้วมั้ง การแข่งนานาประเทศอีกสองปี เขาก็อยากได้ที่หนึ่ง คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตระกูลหั่วสนับสนุนเขา อยากได้ทรัพยากรอะไรได้หมด ฝีมือวิชาเกลียวคลื่นฟ้าดิน คงฝึกจนถึงขั้นสมบูรณ์แล้วมั้ง การประลองห้าตระกูลครั้งที่แล้ว เขาคือคนที่ได้อันดับหนึ่ง อีกทั้งยังได้ฝึกฝนอยู่ที่สวรรค์ชั้นแปดตั้งสามเดือน ตอนนี้คงแข็งแกร่งขึ้นอีก”