เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1569
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1569
เงียบสงัด รอบๆ เงียบจนเหมือนเสียงลมหายใจหยุดลงกะทันหัน
ลู่ฝานใช้มือบีบเม็ดยาที่เคลื่อนไหวไปมา แล้วหันมองรอบๆ พบว่าทุกคนเบิกตาโตมองเขา
ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ทุกคนมองฉันแบบนี้ทำไม ฉันไม่ได้ทำหม้อระเบิดนะ!”
พูดพลาง ลู่ฝานหมุนยาเม็ดกลมในมือ
ตอนนี้ทุกคนเพิ่งตั้งสติได้
ผู้อาวุโสสี่ที่ตัดสินว่าลู่ฝานกลั่นยาไม่ได้ หน้าแดงเถือกเหมือนเลือดจะไหลออกมา
พวกหั่วหลงชิ่งกลืนน้ำลายสุดชีวิต
“นั่นคือยาที่เขากลั่นออกมาเหรอ”
“เป็นไปไม่ได้ เขาไม่ได้ชุบสมุนไพรเหมือนสุ่ยโม่หราน เขากลั่นออกมาได้ยังไง”
ทุกที่ในประเทศตันเซิ่ง ผู้ฝึกชี่นับไม่ถ้วนแทบคลั่งแล้ว
เมื่อกี้พวกเขาเอาแต่จ้องสุ่ยโม่หรานรวมยา ไม่ค่อยมีใครสังเกตว่าลู่ฝานกลั่นยาออกมาได้ยังไง
“เมื่อกี้เขาควบคุมพลังชี่ไม่ได้ไม่ใช่เหรอ แล้วยานี้ออกมาได้ยังไง”
“เป็นไปไม่ได้ พวกนายดูสีหน้าเขาไม่แดง ไม่หอบหายใจ เหมือนการกลั่นยานี้ไม่ได้เปลืองแรงเท่าไร”
“เมื่อกี้ใครบันทึกวิธีกลั่นยาของลู่ฝานเอาไว้บ้าง ฉันซื้อราคาสูงเลย!”
“ใครมีบ้าง รีบเอาออกมาเลย ฉันซื้อด้วย!”
สวรรค์ชั้นหนึ่งถึงสวรรค์ชั้นหก พวกผู้ฝึกชี่มากมายพากันคลั่งแล้ว
เมื่อกี้สุ่ยโม่หรานแสดงให้พวกเขาเห็นถึงความยากของการกลั่นยาเม็ดนี้ ต้องมีวิชากับพื้นฐานที่แข็งแกร่งถึงกลั่นออกมาได้ แต่สิ่งที่ตามมาคือลู่ฝานกลั่นออกมาได้อย่างง่ายดาย นี่เป็นการตบหน้าทุกคนชัดๆ
ไม่ใช่แค่พวกเขา ถึงเป็นผู้อาวุโสทั้งห้าคนของห้าตระกูลใหญ่แล้วยังไงล่ะ พวกเขาคืออริยปราชญ์อย่างแท้จริง แต่ก็ไม่มีใครรู้สักคนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เซียนบำเพ็ญชี่ธรรมดาๆ อย่างลู่ฝาน สามารถทำเรื่องที่อริยปราชญ์ทั้งห้าคนไม่อยากเชื่อออกมาได้
ถ้าพูดเรื่องนี้ออกไปคงไม่มีใครเชื่อ
ในเจดีย์ยาเมฆขาว มีเพียงอริยปราชญ์ด้านยาทั้งสามคนที่นิ่งมาก นิ่งเงียบเหมือนปกติ
ผู้อาวุโสเคราขาวพูดว่า “ลู่ฝาน เอายาของนายออกมา ให้เราดูหน่อยว่านายแอบตัดลดขั้นตอนอะไรหรือเปล่า”
ลู่ฝานถือยามาตรงหน้าผู้อาวุโสเคราขาว เขายืนกับสุ่ยโม่หราน
สุ่ยโม่หรานมองยาในมือลู่ฝานที่ดูใหญ่กว่าหลายเท่า แล้วพูดด้วยใบหน้าประหลาดใจว่า “นายทำได้ยังไง สูตรยาบอกให้เราชุบสรรพสิ่งไม่ใช่เหรอ”
ลู่ฝานพูดว่า “เธอดูออกได้ยังไงว่าเขาให้เราชุบสรรพสิ่ง”
ทั้งสองมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา
ตอนนี้อริยปราชญ์ด้านยาทั้งสามคนเริ่มดูยาที่ทั้งสองคนกลั่นออกมา
ทั้งสามปรึกษาหารือกันครู่หนึ่ง จากนั้นวางยาลงที่เดิม
ผู้อาวุโสเคราขาวยิ้มแล้วพูดว่า “โอเค ฉันขอเป็นคนพูดเกี่ยวกับยาของทั้งสองคน”
ใช้มือชี้ไปที่ยาของสุ่ยโม่หรานแล้วพูดว่า “เป็นยาสวรรค์บันดาลในบัดดลที่ไม่เลว ฤทธิ์ยาบริสุทธิ์ เรียกได้ว่าเป็นของชั้นยอด ตอนกลั่นก็ได้แสดงให้เห็นว่าอะไรคือการชุบ แค่จุดนี้ฉันก็ให้เธอผ่านได้แล้ว สุ่ยโม่หราน เธอกลั่นยาได้ดีมาก ฉันไม่เคยเห็นผู้ฝึกชี่ที่ทั้งฉลาด มีพรสวรรค์และพื้นฐานแน่นแบบเธอมานานแล้ว เธออนาคตไกลแน่นอน”
สีหน้าสุ่ยโม่หรานราบเรียบ ไม่ยินดียินร้าย เพราะเมื่อพูดมาถึงขนาดนี้ ต้องมีคำว่า “แต่” แน่นอน
เป็นไปตามคาด จากนั้นผู้อาวุโสเคราขาวพูดต่อ “เพราะวิธีกลั่นอันบริสุทธิ์ของเธอ ทำให้ฤทธิ์ยาของยาเม็ดนี้ไม่เพียงพอ มันมีชื่อว่ายาสวรรค์บันดาลในบัดดล ไม่ใช่กว่าสวรรค์จะบันดาล หรือสองสามชั่วโมงกว่าสวรรค์จะบันดาล แม้การกลั่นยาของเธอไม่มีปัญหา แต่การใช้งานจริงแย่มาก อย่างน้อยก็ไม่ถึงระดับที่สูตรยาต้องการ แน่นอนว่าสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้ เชื่อว่าเธอก็คงมีวิธี แค่เปลืองเวลาในตอนกลั่นยาเท่านั้น”