เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1572
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1572
หลงอีตอบว่า “การรวมชี่กับบู๊เป็นหนึ่ง ไม่สามารถหาคำตอบได้จริงๆ แต่มุกหกเต๋าหุ้นตุ้น ในสำนักมารเริ่มมีวี่แววให้เห็นแล้ว”
เด็กชายขมวดคิ้วพูดว่า “วี่แววอะไร”
หลงอีพูดว่า “การแข่งนานาประเทศอีกสองปี ผู้สืบทอดของล่วนเซิ่งจะเข้าร่วมด้วย บนตัวเธอมีมุกหกเต๋าหุ้นตุ้น!”
เด็กชายพูดเสียงดุว่า “ข้อมูลจริงเหรอ”
หลงอีกับหลงหลิงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่กล้าโกหกอริยบุคคล”
แววตาของเด็กผู้ชายเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ผู้สืบทอดของล่วนเซิ่งเหรอ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย รู้ไหมว่ามุกในมือเธอคืออะไร ตอนนี้อยู่ไหน”
หลงอีพูดว่า “ตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่ไหน เจ้าสำนักมารใช้วิชาไร้เทียมทาน เปิดตาทิพย์ก็เห็นแค่ตอนเธอปรากฏตัวในการแข่งนานาประเทศอีกสองปี ถือมุกวิญญาณดับมอดแห่งหุ้นตุ้น”
เมื่อเด็กชายได้ยินคำว่ามุกวิญญาณดับมอด สายตาเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก
ทันใดนั้น เด็กผู้ชายใช้ฝ่ามือตบลงบนทางช้างเผือก วินาทีต่อมาฟ้าดินถล่มทุกอย่างกลับสู่ความเวิ้งว้าง
เด็กผู้ชายพูดเบาๆ ท่ามกลางความมืด “เธอชื่ออะไร”
หลงอีพูดเหมือนจะขาดใจ “จางเยว่หาน! เธอชื่อจางเยว่หาน!”
..….
เช้าตรู่วันต่อมาที่เมืองในเมฆ
ลู่ฝานและคนอื่นเงยหน้ามองฟ้า ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ดวงดาวที่ยังดีๆ อยู่เมื่อวาน วันนี้กลับหายไป เป็นเรื่องแปลกจริงๆ
แต่เหมือนไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับเมืองในเมฆ ทุกคนยังทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป
เหาะไปทางเจดีย์ยาเมฆขาว วันนี้คนในเมืองในเมฆเห็นลู่ฝาน ต่างพากันคำนับทำความเคารพ
อาจเป็นเพราะการแสดงออกของลู่ฝานเมื่อวานนี้ทำให้คนพวกนี้ยอมรับ
ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ผู้ฝึกชี่ที่มีความสามารถล้วนได้รับความเคารพเลื่อมใส
เหมือนคนในเมืองตันเซิ่งชอบอัจฉริยะมาก สายตาที่พวกเขามองลู่ฝานดูร้อนแรงกว่าคนในประเทศอู่อานเยอะเลย
แต่เมื่อคิดดูดีๆ ลู่ฝานพอเข้าใจเรื่องราวภายในนั้น
คนในประเทศอู่อาน มีสักกี่คนที่เป็นนักบู๊ พวกเขาชมการประลอง ไม่มีอะไรมากไปกว่าการดูเรื่องสนุก หลายครั้งพวกเขายังไม่รู้เลยมั้งว่าลู่ฝานใช้กระบวนท่าอะไร ใช้พลังอะไร ดังนั้นการเลื่อมใสจึงมีขีดจำกัด รู้เพียงว่าลู่ฝานแข็งแกร่งมากเท่านั้น
แต่ในประเทศตันเซิ่ง คนเกือบ 70-80 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้ฝึกชี่
พวกเขาไม่ได้รู้แค่ว่าลู่ฝานแข็งแกร่งมาก ยังรู้ว่าลู่ฝานแข็งแกร่งจนเป็นแบบไหน
ดังนั้นพวกเขาจึงเคารพและดูกระตือรือร้นต่อลู่ฝานมากกว่า
ดูประกายนัยน์ตาคนพวกนี้ ลู่ฝานจินตนาการออกเลยว่าถ้าข้างกายเขาไม่มีพวกผู้อาวุโสสาม ผู้ฝึกชี่พวกนี้จะพุ่งเข้ามากดเขาลงบนพื้นไหม
ผู้หญิงยังไม่เท่าไร ถ้าเป็นผู้ชาย……
ลู่ฝานขนลุกไปทั้งตัว ช่วงนี้ภาพมโนในสมองไม่เข้าท่าขึ้นทุกวัน
ในเจดีย์ยาเมฆขาว ทุกคนมารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียงตั้งแต่เช้า
ไม่ใช่คนของตระกูลสุ่ยที่มา แม้อีกสามตระกูลโดนคัดออกแล้ว แต่วันนี้พวกเขาอยากชมการประลองของลู่ฝานกับสุ่ยโม่หราน
ไม่มีผู้ฝึกชี่คนไหนพลาดการประลองวิชายาที่ยอดเยี่ยม
โดยเฉพาะวันนี้พวกเขาอาจได้เห็นวิชายาที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
นี่เหมือนไอ้บ้ากามได้ยินว่าจะมีสาวงามไร้เทียมทานมาถึง แค่จินตนาการในหัวก็ทำให้เลือดร้อนของพวกเขาพลุ่งพล่านแล้ว
ทั่วทุกที่ในประเทศตันเซิ่งเต็มไปด้วยผู้คน
ไม่ว่าจะเป็นคนที่กลั่นยา เก็บตัวหรือเก็บยา ล้วนหยุดการกระทำทั้งหมด หาสถานที่ที่มีห้าธาตุสรวงสวรรค์เพื่อรับชม
ตอนนี้ที่ไหนที่ห้าธาตุสรวงสวรรค์ชัดเจนคนก็ยิ่งเยอะ
บางครั้งวิชายาคือมุทรา คือการเคลื่อนไหวอย่างหนึ่ง ไม่มีทางยอมพลาดช่วงเวลาสำคัญหรอก
ด้วยเหตุนี้ คนรวยจริงๆ ใช้ลู่ทางต่างๆ หาห้าธาตุสรวงสวรรค์ชั้นดีมาวางไว้ในบ้าน
อีกทั้งยังชวนเพื่อนสนิทมาดูด้วยกัน นี่คือการแสดงออกให้เห็นถึงความสามารถและมีหน้ามีตา
ในเจดีย์ยาเมฆขาว สุ่ยโม่หรานหลับตาสองข้าง ยืนรออยู่ตรงกลางนานแล้ว
หม้อยาวางอยู่หน้าเธอเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้ยินเสียงพวกลู่ฝาน เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้น
ผู้อาวุโสด้านยาทั้งสามคนยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง ช้อนตามองลู่ฝานด้วยรอยยิ้ม
ลู่ฝานชะงักฝีเท้าลง มองรอบๆ แล้วพูดกับผู้อาวุโสด้านยาทั้งสามคนว่า “ผู้อาวุโส วันนี้จะประลองยังไง”
ผู้อาวุโสเคราขาวพูดเสียงกังวาน “การประลองวันนี้คือการกลั่นยา กำหนดเวลาหนึ่งชั่วโมง ใครกลั่นยาได้ดีถือเป็นผู้ชนะ”
ลู่ฝานพูดอย่างประหลาดใจ “ไม่มีสูตรยากับสมุนไพรเหรอ”
ผู้อาวุโสเคราขาวยิ้มแล้วพูดว่า “เรื่องกลั่นยาคือหน้าที่ของผู้ฝึกชี่ ของพวกนี้นายควรเตรียมไว้เอง”
สุ่ยโม่หรานเชิดหน้าขึ้น มองลู่ฝานด้วยรอยยิ้ม “นายกลัวเหรอ ยอมแพ้ตอนนี้ก็ได้นะ!”
จู่ๆ ลู่ฝานหัวเราะ กำหมัดแล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า “อีกเดี๋ยวคนที่ยอมแพ้คือเธอนั่นแหละ!”