เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 159
หานเฟิงหยิบกระดาษขึ้นมา กระดาษบางๆ แผ่นเดียว ตั้งแต่บนลงล่าง เต็มไปด้วยชื่อคน เยอะประมาณห้าสิบคน
หลิงเหยาพูดว่า “ฉันต้องจ่ายหนึ่งเหรียญทองเพื่อซื้อข้อมูลนี้มาเลยนะ”
หลิงเหยาดูได้ใจเป็นอย่างมาก ราวกับว่าใช้หนึ่งเหรียญทองซื้อกระดาษแผ่นเดียว เป็นเรื่องที่ได้กำไรมหาศาล
หานเฟิงพูดอย่างตกใจ “รายชื่อบู๊ปีนี้ ออกมาเร็วขนาดนี้เลยเหรอ มันออกมาก่อนต่อสู้จัดอันดับของสถาบัน ไม่กี่วันไม่ใช่เหรอ ใครมันเก่ง ถึงขั้นที่รู้พละกำลังของนักบู๊ ในเก้าคณะใหญ่ทั้งหมด หลอกคนหรือเปล่า ไหนดูสิว่านักบู๊คณะหนึ่งเดียวของฉัน มีรายชื่อกี่คน”
หานเฟิงดูตั้งแต่บนลงล่าง มองตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีชื่อคนของคณะหนึ่งเดียวสักคน
“ไอ้ฉิบหาย คณะหนึ่งเดียวของเรา ไม่ติดห้าสิบอันดับแรกสักคน”
หานเฟิงตบกระดาษลงบนโต๊ะ
ลู่ฝานถามอย่างสงสัย “รายชื่อบู๊คืออะไร”
หานเฟิงอธิบายว่า “คือนักเรียนห้าสิบอันดับแรก ของสถาบันสอนวิชาบู๊ พวกนักพนันทำออกมาเป็นรายชื่อ แค่เป็นการอ้างอิงเท่านั้น เช่นนักบู๊แบบฉัน ไม่อยู่ในรายชื่อ ก็รู้แล้วว่าเชื่อไม่ได้แค่ไหน ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้หรอก”
หลิงเหยาขมวดคิ้ว “ทำไมถึงใช้ประโยชน์ไม่ได้ล่ะ แค่ได้อยู่ในรายชื่อบู๊ จะมีรายชื่ออยู่ได้สามเดือน คณะจะให้รางวัลเยอะด้วย”
หานเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า “นั่นมันคณะสงบใจของเธอ คณะหนึ่งเดียวอย่างเรา อยู่ในรายชื่อก็เหมือนไม่ได้อยู่ ไม่มีรางวัลบ้าบออะไรทั้งนั้น ฉันไม่พยายามขนาดนั้นหรอก วันๆ ต้องมากังวลว่า จะมีคนมาแย่งอันดับไหม น่าเบื่อ”
ลู่ฝานเอากระดาษขึ้นมาดู รายชื่อคนส่วนใหญ่ เขาไม่รู้จัก แต่มีสองคนที่เขารู้จัก
“เหลิ่งหานแห่งคณะหยินหยาง อันดับที่ 42 การประเมิน วิชากระบี่เหมือนสายลม หลินฉีแห่งคณะบังเหิน อันดับที่ 50 การประเมิน ใกล้ถึงระดับปราณนอก”
หานเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า “ขนาดเหลิ่งหานยังอยู่ในอับดับที่ 42 งั้นถ้าฉันแสดงพลังที่แท้จริงออกมา คงอยู่ใน 30 อันดับแรกได้ ส่วนศิษย์น้องลู่ฝาน อย่างน้อยต้องอยู่ใน 20 อันดับแรก”
หลิงเหยาตาเป็นประกาย “จริงเหรอ งั้นพวกนายต้องลองดูหน่อยแล้ว ปีนี้คนที่มีรายชื่อบู๊ จะได้โอกาสขึ้นไปบนหอคอยฝึกฝนหนึ่งครั้ง”
“อะไรนะ!”
หานเฟิงลุกขึ้นทันที จนโต๊ะเกือบคว่ำ
ลู่ฝานขมวดคิ้ว “ศิษย์พี่หานเฟิง เลิกอาการตกใจแบบนี้ได้ไหม พี่เป็นแบบนี้ ถ้ามีผู้หญิงมาชอบ คงแปลกมาก”
หน้าด้านๆ ของหานเฟิง แดงขึ้นมาเล็กน้อย แต่แดงเพียงครู่เดียวเท่านั้น
หานเฟิงหัวเราะคิกคัก ถูมือไปมา แล้วพูดว่า “ศิษย์น้องหลิงเหยา เธอพูดจริงเหรอ 50 คนแรก ขึ้นไปบนหอคอยฝึกฝนได้เหรอ”
หลิงเหยาพูดว่า “เหมือนได้ยินศิษย์พี่อื่นพูดว่าใช่นะ”
หานเฟิงหันไปมองลู่ฝาน “ศิษย์น้องลู่ฝาน ไปกันเถอะ เราไปกันเถอะ หอคอยฝึกฝนเลยนะ สถานที่ดีเลยล่ะ”
พูดพลาง หานเฟิงเตรียมจะเกี่ยวแขนลู่ฝานไป
ลู่ฝานขมวดคิ้ว “ศิษย์พี่หานเฟิง เราไม่ได้อยู่ในรายชื่อบู๊ ไปแล้วได้อะไร”
หานเฟิงพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน นายเอาชนะหลินฉีได้ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่อยู่ในรายชื่อล่ะ”
หลิงเหยามองลู่ฝานอย่างตกใจ “ลู่ฝาน นายเคยสู้กับคนในรายชื่อบู๊เหรอ หลินฉีงั้นเหรอ ขอฉันดูแป๊บ อันดับที่ 50 นายชนะเขาเหรอ”
หลิงเหยากะพริบตา มองลู่ฝานอย่างสงสัย
ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “ฉันเอาชนะเขาได้ครั้งนึง”
ไม่งั้น ศิษย์น้องลู่ฝาน คงอยู่ในรายชื่อไปแล้ว เด็กพวกนี้เป็นเด็กจริงๆ รีบไปกันเถอะ ศิษย์น้องลู่ฝาน ฉันใจร้อนแทบตายแล้ว นายรู้ไหมว่าหอคอยฝึกฝน เอาไว้ทำอะไร เป็นคลังเคล็ดวิชาบู๊เลยนะ เป็นคลังเคล็ดวิชาบู๊อย่างแท้จริง แค่ไปทดสอบ ก็จะได้ทักษะเคล็ดวิชาบู๊ ไม่มีข้อจำกัด ถ้าได้แล้ว สามารถใช้ได้ ฝึกสำเร็จ สามารถออกมาซัดคนได้ เมื่อซัดคนเสร็จ จะดึงดูดศิษย์น้องคนสวยด้วย
ดวงตาหานเฟิงเป็นสีแดง
หลิงเหยารีบถามว่า “ดึงดูดศิษย์น้องได้ จะได้อะไร”
ลู่ฝานรีบตัดบทคำถามของหลิงเหยา เขากลัวว่าศิษย์พี่หานเฟิง จะหลุดพูดเกี่ยวกับ “ความสัมพันธ์ลึกซึ้งของชายหญิง” ออกมา เขาลุกขึ้นยืน “ไปกันเถอะ ศิษย์พี่หานเฟิง เราไปตอนนี้เลย หลิงเหยา เธอไปด้วยไหม”
หลิงเหยาพูดว่า “ไปด้วยอยู่แล้ว ถ้าพวกนายเข้าไปหอคอยฝึกฝนได้จริง อย่าลืมเอาเคล็ดวิชาบู๊ให้ฉันสักเล่มนะ”
หานเฟิงหัวเราะ แล้วพูดว่า “ไม่มีปัญหา ศิษย์น้องลู่ฝาน ฝากด้วยนะ ฉันเชื่อใจนาย”
ลู่ฝานสีหน้าอึมครึม มองศิษย์พี่หานเฟิงอย่างเหนื่อยใจ