เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1601
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1601
เวลาสามวันจะว่านานก็ไม่นาน จะว่าเร็วก็ไม่เร็ว มันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หน้าประตูหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ พวกผู้ฝึกชี่ของห้าตระกูลใหญ่มาที่นี่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้คนที่มาหายไปเกือบครึ่ง
ตระกูลที่ถือว่ามีสมาชิกครบถ้วนมีเพียงตระกูลสุ่ยกับตระกูลหั่ว
หั่วหลงจู้ หั่วหลงชิ่ง สุ่ยโม่หรานและสุ่ยหมิงคงปลอดภัยหายห่วง
ส่วนตระกูลมู่ ตระกูลถู่และตระกูลจินเหลือแค่คนเดียว
แบ่งเป็นมู่จึฉี ถู่ห่วงและจินอีหมิง
พวกเขาคือคนอายุน้อยที่เป็นผู้นำของตระกูลตัวเอง ดิ้นรนออกจากพลังของฝันร้ายภายในสามวัน ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ
ทั้งหมดเจ็ดคน บวกกับลู่ฝานที่ยังไม่ออกมาจากหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ มีผู้คัดเลือกทั้งหมดแปดคนพอดี
ทุกคนยืนอยู่หน้าหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เห็นผู้อาวุโสซั่งซินนั่งอยู่หน้าประตู
ซั่งซินเงยหน้ามองพวกเขาเล็กน้อย “ไม่เลว คิดไม่ถึงว่าจะเหลือตั้งแปดคน เยอะกว่าที่ฉันคาดไว้มาก”
ผู้อาวุโสตระกูลมู่พูดอย่างราบเรียบ “นี่ต้องขอบคุณลู่ฝานของตระกูลหั่ว ถ้าเขาไม่ทำลายฝันร้ายก่อน คนที่เข้าร่วมการแข่งรอบสองในวันนี้คงมีแค่ไม่กี่คน อย่างน้อยก็มีคนที่ไม่สามารถเข้าร่วมได้แน่ๆ”
พูดพลางผู้อาวุโสตระกูลมู่หันไปมองทางหั่วหลงจู้
ผู้ฝึกชี่ตระกูลอื่นพากันมองไปทางหั่วหลงจู้ด้วยสายตาประหลาดเหมือนกัน
หั่วหลงจู้หน้าแดงเถือก เขารู้ว่าตัวเองโชคดีขนาดไหนที่ผ่านด่านนี้ได้
หลักๆ เลยเพราะพวกเขาอยู่ใกล้ลู่ฝานมาก ตอนฝันร้ายเข้าไปในตัวลู่ฝาน ก็เอาพลังรอบตัวพวกเขาไปด้วยส่วนหนึ่ง
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงโชคดีผ่านด่านได้ กลับกันถ้าลู่ฝานไม่ทำลายฝันร้าย พวกเขาคงโดนคัดออกตั้งแต่รอบแรก
เหมือนพวกจิตวิญญาณเปราะบางที่เข้ามาในแดนมายาแล้วโดนฆ่าตายทันที ไม่มีทางให้พวกเขากลับไปทะลุระดับในเวลาสามวัน
สีหน้าหั่วหลงชิ่งกับหั่วหลงจู้ไม่สู้ดี พวกเขาก็ไม่อยากผ่านด่านแบบนี้เหมือนกัน แต่ช่วยไม่ได้ ห้าธาตุสรวงสวรรค์บันทึกความจริงทุกอย่างตอนพวกเขาอยู่ในแดนมายา พวกเขาพึ่งพาลู่ฝาน ถึงผ่านด่านมาได้อย่างถูไถ
คนที่สีหน้าประหลาดเหมือนพวกเขาคือสุ่ยหมิงคงกับสุ่ยโม่หรานตระกูลสุ่ย
ตอนนั้นพวกเขาอยู่ใกล้ลู่ฝานเหมือนกัน ดังนั้นปีศาจในหัวใจจึงไม่หนักเท่าไร ผ่านมาได้แบบสบายๆ
ได้ยินคำพูดที่แอบเยาะเย้ยเล็กน้อยของผู้อาวุโสตระกูลมู่ ทั้งสองสีหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย
สุ่ยหมิงคงพูดเสียงเบา “ทำไมฉันรู้สึกเหมือนติดหนี้น้ำใจลู่ฝานเลย”
สุ่ยโม่หรานพูดว่า “ฉันก็ไม่ชอบความรู้สึกนี้เหมือนกัน ฉันไม่ชอบติดค้างคนอื่น”
ผู้อาวุโสตระกูลหั่วกระแอมเบาๆ ถามผู้อาวุโสชุดดำว่า “ไม่ทราบว่าวันนี้ผู้อาวุโสจะประลองอะไร”
ผู้อาวุโสชุดดำยิ้มแล้วพูดว่า “การแข่งวันนี้ง่ายมาก ต่อสู้กันเองภายในรัศมีพันลี้ของหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ฉันต้องการแค่ผู้ฝึกชี่ที่เหลือสองคน ทำการต่อสู้รอบสุดท้ายต่อหน้าฝ่าบาท”
ผู้อาวุโสของห้าตระกูลใหญ่ตกใจ สิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดมาถึงแล้ว
ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่มีเวทีประลอง ต้องการแค่ผู้ชนะสองคนเท่านั้น
การต่อสู้แบบนี้เกิดการสูญเสียขึ้นง่ายมาก
ผู้อาวุโสชุดดำกวาดตามองทุกคนแล้วพูดว่า “มีปัญหาอะไรไหม คนที่จะถอนตัวรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหว กลัวตาย บอกมาได้เลย ถอนตัวตอนนี้ยังทัน ถ้าการต่อสู้เริ่มแล้ว คนจะเห็นทั้งประเทศตันเซิ่ง ถ้ายอมแพ้ตอนนั้น ขายหน้ากว่าตอนนี้เยอะ”