เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1602
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1602
ผู้ฝึกชี่ทุกคนไม่พูดอะไรสักคำ มาถึงขั้นนี้แล้วไม่มีใครถอยง่ายๆ หรอก
สุ่ยหมิงคงพูดกับสุ่ยโม่หราน “ถึงตอนนั้นน้องตามฉันไว้ ฉันจะดูสิว่าใครกล้าจัดการเธอ ให้เราสองคนผ่านด่านไปประลองต่อหน้าฝ่าบาทก็พอแล้ว”
สุ่ยโม่หรานยิ้มแล้วพยักหน้า
หั่วตันซูพูดเสียงเบาข้างๆ หั่วหลงชิ่งกับหั่วหลงจู้ “คุณชายใหญ่ คุณชายรอง ถ้าเป็นวิธีนี้ก็ดีกับตระกูลหั่วของเราสิ ตระกูลหั่วของเรามีตั้งสามคน!”
หั่วหลงจู้ส่งเสียงหึแล้วพูดว่า “สามคนเหรอ ทำไมฉันยังไม่เห็นลู่ฝานเลย เขาอยู่ไหนล่ะ”
ผู้อาวุโสสามอดตบหัวหั่วหลงจู้ไม่ได้ “ไอ้โง่ ถึงตอนนี้แล้วยังนิสัยขี้แค้นอีก นายจะให้ฉันโมโหตายใช่ไหม หั่วหลงจู้ ฉันจะบอกว่าพวกนายสองคนต้องมีหนึ่งคนที่ผ่านด่าน เข้าใจไหม”
หั่วหลงจู้แอบกัดฟันขานรับ
หั่วหลงชิ่งตบไหล่หั่วหลงจู้แล้วพูดว่า “อย่าคิดมาก วิทยายุทธของลู่ฝานไม่เลว ถึงตอนนั้นให้เขารับการโจมตีทั้งหมดให้เราก็พอแล้ว”
เมื่อหั่วหลงจู้ได้ยินก็ยิ้มแล้วพูดว่า “พี่พูดถูก ต้องใช้ลูกน้องแบบนี้แหละ!”
ผู้อาวุโสชุดดำเห็นว่าไม่มีใครขานรับ เขายิ้มแล้วพูดว่า “ดูเหมือนพวกนายเห็นด้วยกันหมด งั้นก็ดี อีกเดี๋ยวการประลองจะเริ่มแล้ว”
พูดพลางผู้อาวุโสชุดดำสะบัดมือโยนอักษรยันต์ออกมา
อักษรยันต์นับไม่ถ้วนลอยไปไกล ลอยอยู่ทั่วทุกที่นอกหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์เหมือนดาวระยิบระยับเต็มฟ้า
เมื่อการต่อสู้เริ่มอย่างเป็นทางการ อักษรยันต์เหล่านี้จะกลายเป็นดวงตาลอยอยู่กลางฟ้าดิน ให้คนในประเทศตันเซิ่งรับชม
ผู้อาวุโสสี่ของตระกูลสุ่ยพูดว่า “ทำไมถึงไม่เริ่มตอนนี้เลยล่ะ”
ผู้อาวุโสชุดดำพูดอย่างเฉยเมยว่า “รออีกหน่อย ตอนนี้คนยังไม่ครบ!”
ทุกคนมองรอบๆ หลังจากนั้นถู่ห่วงหัวเราะเบาๆ “เหมือนจะขาดแค่ลู่ฝานสินะ เขามีหน้ามีตาจริงๆ ให้พวกเรารอเขาอยู่ที่นี่”
จินอีหมิงพูดเสียงดังว่า “ผู้อาวุโส เวลาไม่ค่อยท่า ตอนนี้เขายังไม่ปรากฏตัว ไม่แน่เขาอาจทิ้งการแข่งวันนี้แล้วก็ได้”
มู่จึฉีพูดว่า “รอบก่อนเขาทำลายฝันร้าย เดาว่าคงบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ยังรักษาไม่หายถือเป็นเรื่องปกติ ทำไมผู้อาวุโสต้องรอเขาด้วย!”
ผู้อาวุโสชุดดำหัวเราะแต่ไม่พูดอะไร หันไปมองทางพวกหั่วหลงชิ่งแล้วพูดว่า “พวกนายว่าไง”
หั่วหลงชิ่งกดเสียงต่ำพูดว่า “ผู้อาวุโสสาม เราจะรอลู่ฝานไหม”
ผู้อาวุโสสามคิดแล้วพูดว่า “มีลู่ฝานอยู่ พวกนายมีโอกาสชนะสูง”
หั่วหลงชิ่งพยักหน้าเข้าใจ กำลังจะอ้าปากพูดแทนลู่ฝาน แต่ขณะนั้นผู้อาวุโสสามพูดต่อ “แต่อันที่จริงไม่มีลู่ฝานก็ดีเหมือนกัน เขาทำมามากพอแล้วไม่ใช่เหรอ”
หั่วหลงชิ่งรีบหุบปาก ผู้อาวุโสสามกระแอมแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโส ฉันว่ากฎก็คือกฎ ฉันว่า……”
ยังไม่ทันพูดจบ ประตูหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์เปิดออกเสียงดัง
แสงหนึ่งพุ่งออกไปจากหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ พลังรุนแรงเหมือนสายลมพุ่งไปสุดขอบฟ้า แอบหมุนวนเป็นวงกลมด้วย
สัมผัสถึงสายลมรุนแรงด้านหลัง จู่ๆ ผู้อาวุโสชุดดำอึ้งไป เหมือนเขาคิดอะไรขึ้นได้ หันไปมองด้านหลังด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ
ตอนนี้ลู่ฝานเดินช้าๆ ออกมาจากหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์
รอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า เสื้อท่อนบนขาด เผยให้เห็นกล้ามเนื้อแข็งแกร่งของเขา
ลู่ฝานมองทุกคนด้วยรอยยิ้ม “พวกนายมากันแล้วเหรอ ฉันไม่ได้พลาดอะไรใช่ไหม!”