เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1603
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1603
ผู้อาวุโสสามหุบปาก กลืนคำพูดที่เหลือลงคอ
ไอ้เด็กนี่ออกมาได้ถูกจังหวะจริงๆ!
ผู้อาวุโสชุดดำมองลู่ฝานด้วยสายตาประหลาดใจมาก เขาขยับริมฝีปากส่งกระแสจิตถาม “นายได้พลังของเจ้าสำนักเหรอ”
ลู่ฝานหัวเราะแต่ไม่ได้พูดอะไร แค่กำหมัดเบาๆ รอยร้าวปรากฏในฝ่ามือเขา
ผู้อาวุโสชุดดำหัวเราะอย่างมีความสุขสุดๆ
“สามวัน แค่สามวันเท่านั้น นายไม่เพียงแค่ฉลาด แต่ยังมีความเข้าใจมากด้วย!”
ผู้อาวุโสชุดดำเอ่ยชมลู่ฝานอีกครั้ง หลังจากนั้นสะบัดมือพูดว่า “คนครบแล้ว งั้นฉันขอประกาศเริ่มการแข่งขันเลย ทุกคนออกไปนอกรัศมีสิบลี้หน้าประตูหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ หลังเวลาหนึ่งก้านธูป สามารถเริ่มโจมตีได้ คนที่ตาย ยอมแพ้หรือสลบจะนับว่าล้มเหลว อนุญาตให้ใช้ได้ทุกวิธี รวมถึงหุ่นเชิด อสูรวิเศษ ค่ายกล แต่ถ้าทำแบบนี้ก็รับผลที่ตามมาเอาเอง เข้าใจกันแล้วใช่ไหม”
ทุกคนพยักหน้าขานรับ ผู้อาวุโสชุดดำหมุนฝ่ามืออย่างรวดเร็ว ท้องฟ้ามืดลงทันที
เหมือนมีพลังอะไรบดบังแสงบนท้องฟ้า หลังจากนั้นอักษรยันต์ที่ผู้อาวุโสชุดดำโยนออกมารอบหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์เริ่มส่องแสง
แสงสว่างขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายส่องสว่างทุกสิ่งทุกอย่าง!
“ไปเถอะ!”
ผู้อาวุโสชุดดำสะบัดแขนเสื้อเบาๆ ผู้ฝึกชี่เจ็ดคนเหาะออกไปทันที
ลู่ฝานมองรอบๆ แล้วพูดว่า “เริ่มแล้วเหรอ สู้ได้ตามใจชอบเลยเหรอ”
ผู้อาวุโสชุดดำตบด้านหลังลู่ฝานแล้วพูดว่า “ใช่ ไปเถอะไอ้หนุ่ม ให้ฉันได้เห็นว่านายมีความสามารถอะไรบ้าง!”
ฝ่ามือมีพลังเบาๆ ลู่ฝานเหาะออกไปไกล
ห้าธาตุสรวงสวรรค์ทั้งหมดในประเทศตันเซิ่งเปิดออกอีกครั้ง
พวกผู้ฝึกชี่ส่งเสียงเชียร์ กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขแล้วหาที่นั่งชม ในเวลาเดียวกันก็ตะโกนว่า “เริ่มแล้วๆ การประลองรอบสองจะประลองด้วยวิธีไหนกัน”
“เอ๊ะ เหลือแค่แปดคนนี้แล้วเหรอ ทำไมพวกเขาแยกกันล่ะ”
“ฉันรู้ นี่คือการต่อสู้ตามใจชอบแล้วหาผู้ชนะออกมา ยังจำการประลองเมื่อสิบห้าปีก่อนได้ เป็นแบบนี้เหมือนกัน”
“ดีๆๆๆ ฉันชอบดูการต่อสู้ตามใจชอบที่สุด มีวิธีอะไรก็ใช้ออกมาจนหมด ฆ่าๆๆๆ!”
“ลงพนันๆๆ สุ่ยหมิงคง 1:1 ลู่ฝาน 1:2!”
ในตระกูลหั่วที่สวรรค์ชั้นหนึ่ง
หลิงเหยามองห้าธาตุสรวงสวรรค์แวบหนึ่ง จากนั้นเดินออกไปด้วยรอยยิ้ม
ลูกหลานตระกูลหั่วที่อยู่ข้างๆ ถามว่า “น้องหลิงเหยาไม่ดูการต่อสู้ของเจ้านายตัวเองเหรอ”
หลิงเหยายิ้มแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรต้องดู ผลถูกกำหนดเอาไว้แล้ว!”
……
นอกหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ลู่ฝานเหาะอยู่กลางอากาศ ไม่นานก็ตามหั่วหลงชิ่งกับหั่วหลงจู้ทัน
เหมือนสองคนนี้มีเจตนารอเขา เมื่อเห็นลู่ฝานเหาะมา หั่วหลงชิ่งมองลู่ฝานอย่างประเมินแล้วพูดว่า “ไม่เจอกันสามวัน เหมือนสหายลู่ฝานก้าวหน้าขึ้นอีกแล้วนะ ได้ของดีในหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์เหรอ”
ลู่ฝานนึกถึงการฝึกฝนอย่างทรมานมาสามวัน เขาส่ายหน้าพูดว่า “ไม่เรียกว่าของดีหรอก เจอความทรมานอยู่บ้าง”
หั่วหลงจู้ส่งเสียงหึแล้วพูดว่า “ได้ของดีแล้วทำมาพูดแบบนี้อีก ลู่ฝานทำไมนายเสแสร้งแบบนี้”
ลู่ฝานปรายตามองหั่วหลงจู้ ไม่ได้สนใจเขา
จู่ๆ หั่วหลงจู้โมโห เขาพูดไม่ดีใส่คนอื่น สุดท้ายตัวเองกลับโกรธเอง
ลู่ฝานไม่แคร์อะไรทั้งนั้น เสแสร้งเหรอ
ถ้าหั่วหลงจู้รู้ว่าสามวันนี้เขาเจออะไรบ้าง คงตกใจจนอ้าปากค้าง
ตั้งแต่วินาทีที่ลู่ฝานเริ่มศึกษาป้ายวิญญาณของเทพบู๊เสินเซียว ก็โดนพลังที่เทพบู๊เสินเซียวหลงเหลือไว้โจมตีร่างกาย