เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1605
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1605
หน้าประตูหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์
ผู้อาวุโสของห้าตระกูลใหญ่ รวมถึงผู้อาวุโสชุดดำนั่งลงเรียบร้อยแล้ว ด้านหน้าพวกเขามีห้าธาตุสรวงสวรรค์ปรากฏอยู่ในสายตา
ม่านแสงแบ่งเป็นสามส่วน เห็นการเคลื่อนไหวของพวกลู่ฝาน พวกสุ่ยหมิงคง พวกมู่จึฉีทั้งหมด
ผู้อาวุโสตระกูลมู่ ตระกูลถู่และตระกูลจินหัวเราะอย่างมีความสุขสุดๆ
ผู้อาวุโสตระกูลมู่พูดว่า “รู้ว่าควรผูกมิตรตอนไหน เข้าใจว่าสถานการณ์ไม่เข้ากับปัจจุบัน เด็กพวกนี้ฉลาดกว่าเราในตอนนั้นเยอะเลย!”
ผู้อาวุโสตระกูลจินพยักหน้าพูดว่า “ใช่ การวิเคราะห์ของจินอีหมิงดีมาก ตอนนี้โจมตีตระกูลสุ่ยก่อนเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ฉันภูมิใจสุดๆ นี่คือศิษย์ที่ฉันอบรมสั่งสอนมา”
ผู้อาวุโสตระกูลถู่มองผู้อาวุโสสี่ตระกูลสุ่ยแล้วพูดว่า “ตาเฒ่าสี่ของตระกูลสุ่ย คราวนี้ตระกูลสุ่ยของพวกนายซวยแล้ว”
ใบหน้าผู้อาวุโสสี่ของตระกูลสุ่ยเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ไม่มีความตึงเครียดสักนิด กรอกน้ำเต้าใส่เหล้าใส่ปากพลางพูดว่า “พวกเขาเนี่ยนะจะจัดการสุ่ยหมิงคง ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!”
สีหน้าผู้อาวุโสคนอื่นไม่สู้ดีเล็กน้อย แต่ละคนส่งเสียงหึออกมาเบาๆ
มีเพียงผู้อาวุโสสามของตระกูลหั่วที่สีหน้าปกติ แต่นัยน์ตาเขาแอบกังวลเล็กน้อย
“หั่วหลงชิ่ง หั่วหลงชิ่ง อย่าใช้อารมณ์เด็ดขาด!”
ผู้อาวุโสสามเคาะนิ้วเบาๆ มองหั่วหลงชิ่งในม่านแสงแล้วพึมพำ
เมฆขาวลอยไปตามลม แสงส่องลงมาบนรูปปั้น
พวกลู่ฝานหยุดลงตรงหน้ารูปปั้นขนาดใหญ่ เงยหน้ามองรูปปั้น หั่วหลงชิ่งพูดว่า “ดูเหมือนทางที่ดีเราอย่าใช้หุ่นเชิดหรืออสูรวิเศษเลยดีกว่า หั่วหลงจู้ ทางที่ดีนายเก็บยาที่สามารถยกระดับวิทยายุทธได้ในระยะเวลาสั้นๆ เอาไว้ดีกว่า”
หั่วหลงจู้ถามอย่างไม่เข้าใจว่า “ทำไมล่ะ ไหนบอกว่าใช้อะไรก็ได้ไม่ใช่เหรอ”
ลู่ฝานพูดขึ้นข้างๆ ว่า “ความหมายของคุณชายใหญ่คือผู้อาวุโสชุดดำให้เราสู้กันที่นี่ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาให้โอกาสเราโชว์พลังกับรูปปั้นผู้แข็งแกร่ง ถ้าโชคดีอาจเข้าตาผู้อาวุโสคนใดคนหนึ่งและได้รับการถ่ายทอด แต่ถ้าเราใช้การช่วยเหลือจากภายนอกเช่นหุ่นเชิด ยาหรืออสูรวิเศษ โอกาสที่เราจะได้การถ่ายทอดมีน้อยมาก การประลองเพียงชั่วครู่เท่านั้น แต่การถ่ายทอดวิชาที่ดีอยู่ได้ตลอดชีวิต”
หั่วหลงชิ่งพยักหน้าพูดว่า “ใช่ ฉันหมายความแบบนี้แหละ”
หั่วหลงจู้แอบกัดฟัน “โอเค ไม่ใช้ก็ไม่ใช้ เราไม่ใช้พวกเขาก็คงไม่กล้าใช้”
หั่วหลงชิ่งตบไหล่หั่วหลงจู้แล้วพูดว่า “เข้าใจก็ดี หาสถานที่ต่อสู้ที่ได้เปรียบต่อดีกว่า หวังว่ารอบๆ จะมีรูปปั้นผู้แข็งแกร่งที่เรารู้จัก ถ้าได้เลือกวิชาที่ถ่ายทอดสักหน่อยคงดี!”
พูดพลาง หั่วหลงชิ่งพาหั่วหลงจู้เหาะไปด้านหน้าต่อ
ลู่ฝานกลอกตาไปมา จู่ๆ เขากระแอมแล้วพูดว่า “คุณชายทั้งสอง ฉันคิดว่าอันที่จริงใช่ว่าจะใช้ไม่ได้ ฉันว่าพวกนายเอาหุ่นเชิด ยา อสูรวิเศษออกมาให้ฉันดีกว่า ฉันได้รับการถ่ายทอดแล้ว คิดว่าคงไม่สามารถรับการถ่ายทอดครั้งที่สองได้แล้ว ดังนั้นถ้าฉันใช้คงไม่มีปัญหาอะไร”
หั่วหลงชิ่งกับหั่วหลงจู้หยุดลงแล้วขมวดคิ้วเบาๆ
หั่วหลงชิ่งพูดว่า “ลู่ฝาน ไม่เคยมีคนบอกว่ารับการถ่ายทอดครั้งที่สองไม่ได้ นายแน่ใจเหรอว่าจะใช้”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “วิชาที่ถ่ายทอดให้เพียงชุดเดียว เพียงพอให้ฉันฝึกฝนทั้งชีวิตแล้ว มากไปก็ไม่ดี สู้ช่วยพวกนายให้ชนะรอบนี้ดีกว่า พอกลับไปเทียนนู่ พวกนายช่วยพูดชมฉันได้ใช่ไหม ถึงตอนนั้นผลดีที่ฉันได้ก็ไม่น้อยไปกว่าวิชาหนึ่งชุด หนี้น้ำใจนี้ฉันเอาคืนอยู่แล้ว”