เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1606
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1606
หั่วหลงชิ่งกับหั่วหลงจู้มองหน้ากัน
หั่วหลงชิ่งพยักหน้าช้าๆ หั่วหลงจู้มองลู่ฝานด้วยสีหน้าประหลาด “ดูเหมือนฉันมองนายผิดไปจริงๆ ลู่ฝาน นายเป็นคนรู้จักบุญคุณ ต่อไปฉันจะพยายามพูดดีกับนายละกัน”
พูดพลางหั่วหลงจู้เอาของออกมาให้ลู่ฝาน
สิ่งแรกที่เอาออกมาคือยาเซียนชั้นดีหนึ่งขวด หั่วหลงจู้เอาออกมาแล้วพูดว่า “นี่คือยาฟ้าดินทำลายพลัง หลังกินเข้าไปจะสามารถควบคุมพลังฟ้าดินได้ในระยะเวลาสั้นๆ จัดการเซียนบำเพ็ญชี่ได้สบายๆ”
หลังจากนั้นหั่วหลงจู้เอาจานค่ายกลออกมา “นี่คือจานค่ายกลเปลวไฟลวงตา เมื่อใส่พลังชี่เข้าไปแล้วโยนออกไป จะกลายเป็นค่ายกลเผาสวรรค์ขั้นสิบ แผดเผาทุกสิ่งทุกอย่าง”
สุดท้ายหั่วหลงจู้เอาหุ่นเชิดออกมาสองตัว “หุ่นเชิดร้อนระอุ ความสามารถทัดเทียมกับเซียนบำเพ็ญชี่ขั้นต้น แต่ต้องแยกสมาธิควบคุมค่อนข้างลำบาก ถ้านายคิดว่าใช้ได้ก็ใช้”
ลู่ฝานเก็บของดีพวกนี้เข้าไปในเข็มขัดตัวเองด้วยรอยยิ้ม
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรในตัวก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ฮ่าๆๆๆ ตลกสิ้นดี เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่เลวจริงๆ สองคนนี้ก็โง่จริงๆ พูดไม่กี่ประโยคก็ได้ของดีตั้งสามอย่าง นี่คือลูกหลานห้าตระกูลใหญ่เหรอ เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่รีบหลอกให้พวกเขาไม่เหลือแม้แต่กางเกงเลยสิ”
ลู่ฝานยิ้มกว้าง อย่างที่ไอ้เก้าพูด เขากำลังหลอกเอาของ
ดูยาเซียน จานค่ายกลและหุ่นเชิดในมือสิ
เขาหาได้จากที่อื่นไหมล่ะ ตระกูลหั่วจะให้ของดีแบบนี้กับเขาไหม
ยัดของสามอย่างเข้าไปในแหวน ลู่ฝานหัวเราะอย่างมีความสุขสุดๆ
แค่ของอยู่ในมือเขา ไม่มีทางได้เอาออกมาอีกแน่นอน
เมื่อเอาของมาแล้วยังทำให้หั่วหลงชิ่งกับหั่วหลงจู้มีความสุขได้อีก ลู่ฝานนับถือความหน้าด้านของตัวเองจริงๆ
ดูเหมือนเขาเป็นศิษย์ยอดเยี่ยมที่มาจากคณะหนึ่งเดียวเหมือนกัน
กฎของคณะหนึ่งเดียวคือ หน้าไม่ด้าน วิทยายุทธไม่พอไม่ใช่หรือไง
เมื่อคิดเช่นนี้ วิทยายุทธของลู่ฝานในตอนนี้ไม่เลวจริงๆ
หั่วหลงจู้กับหั่วหลงชิ่งสีหน้าได้ใจ เหมือนพวกเขาได้เปรียบเป็นอย่างมาก
หั่วหลงชิ่งพูดว่า “ลู่ฝาน งั้นอีกเดี๋ยวตอนสู้รบกวนนายด้วยนะ”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ได้เลย มีของพวกนี้อยู่ ฉันคิดว่าฉันคนเดียวสามารถจัดการพวกเขาได้แล้ว”
หั่วหลงชิ่งกับหั่วหลงจู้หัวเราะร่า
หั่วหลงชิ่งหัวเราะจนน้ำตาจะไหล “ลู่ฝาน นายคิดว่านี่คือการกลั่นยาเหรอ ฉันจะบอกให้นะพวกเขาแข็งแกร่งกว่าที่นายจินตนาการไว้ นายรับมือได้คนเดียวก็ถือว่าไม่เลวแล้ว!”
ขณะกำลังพูด จู่ๆ มีแสงสว่างขึ้นไกลๆ
พลังชี่อันแข็งแกร่งแผ่ซ่านมาพร้อมคลื่นอากาศปะทะเข้าหน้าทั้งสามคน
หั่วหลงชิ่งพูดอย่างแปลกใจว่า “เหมือนสู้กันแล้ว”
ลู่ฝานนับนิ้วดูเวลาแล้วพูดว่า “เวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไปแล้วจริงด้วย”
หั่วหลงจู้ชี้แสงสีฟ้าที่กระเพื่อมมาจากไกลๆ แล้วพูดว่า “สุ่ยหมิงคง เขาสู้กับคนอื่นแล้ว!”
หั่วหลงชิ่งได้ยินชื่อสุ่ยหมิงคง แววตาเขาดุดันทันที “ไปดูกันเถอะ”
ลู่ฝานถามว่า “พวกเราจะไปช่วยเขาไหม”
หั่วหลงชิ่งพูดเสียงดังว่า “ช่วยเขาเหรอ หึ ฉันจะทำลายเขาก่อน ถ้ามีคนสู้กับเขาจริง อีกเดี๋ยวพวกนายจัดการสุ่ยหมิงคงพร้อมกับฉัน ฉันจะให้เขาไสหัวไปก่อน”
หั่วหลงจู้หัวเราะร่า “เราร่วมมือกันโจมตี เขาต้านทานไม่ได้แน่นอน!”
พูดจบ ทั้งสองคนกลายเป็นลำแสงเหาะออกไป
ลู่ฝานรีบเหาะตามหลังทั้งสองคนไป เขาขมวดคิ้วแน่น
จู่ๆ เขารู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดี