เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1608
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1608
แค่สายฝนแห่งนรกก็ทิ้งห่างลูกหลานพวกเขาสามตระกูลไปไกลตั้งเท่าไรแล้ว
ถ้าสู้ตัวต่อตัวแบบปกติ คงไม่มีใครสู้สุ่ยหมิงคงได้
สีหน้าของผู้อาวุโสสี่ของตระกูลสุ่ยไม่ได้ผ่อนคลาย กลับกันเขาก็จริงจังมากเหมือนกัน
คนอื่นไม่รู้ แต่เขาเป็นผู้อาวุโสของตระกูลสุ่ย รู้ความสามารถของสุ่ยหมิงคงเป็นอย่างดี
ถูกต้อง สองสามปีนี้สุ่ยหมิงคงมีความก้าวหน้าด้านวิถีธาตุน้ำจริงๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นเข้าใจวิถีอย่างถ่องแท้
สุ่ยหมิงคงน่าจะใช้สายฝนแห่งนรกอันแข็งแกร่งได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น ตอนนี้แข่งกันว่าใครจะสู้สุดใจมากกว่ากัน
ภายใต้สายฝนแห่งนรก พลังที่พวกจินอีหมิงปล่อยออกไปโดนหดให้เล็กลง ทั้งสามคนใช้วิธีต่างๆ นานา โยนเครื่องรางออกมาสิบกว่าอย่าง แต่ก็ยังหาเงาสุ่ยหมิงคงไม่เจอ
เหมือนเขาหายไปในฟ้าดิน ทำให้พวกจินอีหมิงเคียดแค้นจนกัดฟันกรอด
จู่ๆ มู่จึฉีกัดฟันพูดว่า “ไม่ได้การแล้ว ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป เราต้องเหนื่อยตายแน่นอน สู้เราสู้สุดชีวิตดีกว่า!”
ถู่ห่วงพูดเสียงดังว่า “ได้!”
ตอนนี้เหมือนจินอีหมิงนึกอะไรได้ เขาพูดเสียงดังว่า “เดี๋ยวก่อน อันที่จริงเรายังมีวิธี! โจมตีสุ่ยโม่หราน เรารวมพลังกันโจมตีสุ่ยโม่หราน ไม่เชื่อหรอกว่าสุ่ยหมิงคงจะไม่ออกมา!”
มู่จึฉีกับถู่ห่วงตาเป็นประกาย พากันมองไปทางสุ่ยโม่หราน
ทั้งสองคนพูดเสียงดังว่า “เป็นความคิดที่ดี!”
“เอาแบบนี้แหละ!”
ระหว่างพูด แสงสามแสงสว่างขึ้นอีกครั้ง
“พลังทองปราศจากความกลัว กระบี่ทองขั้นสุดยอด!”
“ธาตุไม้ขั้นสุดยอดจุติใต้หล้า พลังชีวิตย้อนกลับ!”
“ธาตุดินผนึกสรรพสิ่ง ฟ้าดินกลายเป็นหิน!”
ทั้งสามคนตะโกนออกมาพร้อมกัน สามวิชาอันแข็งแกร่งกลายเป็นแสงสะดุดตาทั่วฟ้า พุ่งเข้าไปฆ่าสุ่ยโม่หรานทันที!
สุ่ยโม่หรานช็อกไปแล้ว เห็นกระบี่ทองยักษ์พุ่งเข้ามา อากาศที่กลายเป็นหิน รวมถึงพลังธาตุไม้ขั้นสุดยอดอมตะ เธอช็อกอยู่กับที่
พลังของเธอไม่สามารถต้านทานสามวิชาชั้นยอดได้เลย!
สายฝนรอบๆ ม้วนกลับอย่างรวดเร็ว กลายเป็นสายน้ำป้องกันอยู่ด้านหน้าสุ่ยโม่หราน เหมือนจะต้านทานสามวิชาชั้นยอดเอาไว้
แต่สายน้ำโดนแสงของสามวิชาที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วทำลายจนกระจาย
สุ่ยโม่หรานเบิกตาโต ความกลัวที่มาจากก้นบึ้งหัวใจฉุดจิตใจเธอไว้ ทำให้เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ขณะนั้นเงาใครคนหนึ่งปรากฏตรงหน้าเธอ
ตัวเหมือนสายน้ำของสุ่ยหมิงคงเหมือนภูเขาต้านทานพลังทั้งหมดไว้
พรวด!
เลือดสาดกระจาย แสงระเบิดออก
สุ่ยหมิงคงกระแทกลงบนตัวสุ่ยโม่หราน ทั้งสองกระเด็นถอยหลังออกไปกระแทกกับรูปปั้นหินขนาดใหญ่อย่างแรง
“แค่กๆ!”
สุ่ยหมิงคงกระอักเลือดออกมา บาดแผลเต็มตัว
สุ่ยโม่หรานก็รู้สึกถึงเลือดบริเวณลำคอ เลือดไหลออกมาจากมุมปาก เจ็บปวดแทบขาดใจไปทั้งตัว!
ฝนแห่งนรกค่อยๆ หายไป พวกมู่จึฉีเพ่งมองสุ่ยโม่หรานกับสุ่ยหมิงคงจากไกลๆ
จินอีหมิงหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “สุ่ยหมิงคง นายก็มีวันนี้ได้เหมือนกันนะ!”
สุ่ยหมิงคงไม่พูดอะไรสักคำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความอาฆาต
พวกจินอีหมิงกำลังจะเข้ามากำจัดสุ่ยหมิงคง จู่ๆ มีเงาคนสามคนปรากฏออกมา
ในที่สุดหั่วหลงชิ่ง หั่วหลงจู้ และลู่ฝานก็มาถึงสักที
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ลู่ฝานขมวดคิ้วแน่น ตะโกนในใจว่าแย่แล้ว
หั่วหลงชิ่งกวาดตามองทุกคนแล้วพูดเสียงดัง “พวกนายสู้กันดุเดือดมาก!”
พวกจินอีหมิงชะงักฝีเท้าลง มองพวกหั่วหลงชิ่งอย่างหวาดระแวง
มู่จึฉีพูดเสียงดังว่า “มาเร็วไม่สู้มาได้ถูกจังหวะ หั่วหลงชิ่ง พวกนายสามคนก็มาด้วย อยากสู้ด้วยหรือไง”
จู่ๆ สุ่ยโม่หรานตะโกนเสียงดังว่า “หั่วหลงชิ่ง รีบกำจัดพวกเขาสามคนทิ้งซะ พวกเขามีพลังชี่ไม่มากแล้ว ถ้าพวกนายให้พวกเขากำจัดเราทิ้ง พวกนายจะซวยในไม่ช้า!”
หั่วหลงชิ่งมองสุ่ยโม่หรานอย่างเย่อหยิ่ง “หุบปาก!”
หั่วหลงจู้ที่อยู่ด้านหลังพูดว่า “พี่ เหมือนสุ่ยหมิงคงแพ้แล้ว เราจะช่วยฝั่งไหน”
ลู่ฝานรีบพูดว่า “ช่วยตระกูลสุ่ยสิ ตระกูลมู่ ตระกูลถู่ ตระกูลจินร่วมมือกันแล้ว พลังของพวกเขาแข็งแกร่งมาก เราต้องร่วมมือกับตระกูลสุ่ยกำจัดพวกเขา!”
หั่วหลงชิ่งไม่ได้พูดอะไร ยืนเงียบอยู่ตรงนั้นเหมือนกำลังครุ่นคิด
เห็นสีหน้าหั่วหลงชิ่ง จู่ๆ จินอีหมิงหัวเราะ “หั่วหลงชิ่ง อย่าบอกนะว่านายจะช่วยสุ่ยหมิงคง นายลืมการต่อสู้ห้าปีครั้งก่อนไปแล้วหรือไง นายโดนเขาทำให้อับอายยังไงบ้าง”
สีหน้าหั่วหลงชิ่งเปลี่ยนไปเล็กน้อย ลู่ฝานเห็นสีหน้าหั่วหลงชิ่งแล้วส่ายหน้าเบาๆ
ไอ้หมอนี่กำลังจะตัดสินใจผิดพลาด!
เป็นไปตามคาด หั่วหลงชิ่งเงียบอยู่นาน จากนั้นพูดว่า “ฉันแค่มาดูเท่านั้น พวกนายสู้กันต่อเถอะ!”