เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 161
เกิดความโกลาหลอลหม่าน นักเรียนบริเวณรอบๆ พากันอ้าปากค้าง
อาจเป็นเพราะสิ่งที่จ้าวหลิงตะโกนออกมา น่าตกใจมาก ดังนั้นสายตาทุกคน จึงฉายแววแปลกประหลาด
รังแกงั้นเหรอ รังแกยังไงล่ะ
ทันใดนั้น คนจำนวนมากมีความคิดหลายอย่างผุดขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย
สีหน้าจ้าวคั่วก็เปลี่ยนไปทันที มองตามที่จ้าวหลิงชี้ไป จ้องหานเฟิงเขม็ง
“นายกล้ารังแกน้องสาวฉัน”
จ้าวคั่วเดินเข้ามา มองหานเฟิงอย่างเหนือกว่า กำมือจนเกิดเสียงดังขึ้น
หานเฟิงอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นพูดเสียงดังว่า “ให้ตายเถอะ การแข่งขันปกติ มีข้อกำหนดแพ้ชนะ ฉันจะรังแกเธอได้ยังไง ฉันเป็นคนมีเกียรติน่านับถือเชียวนะ”
พูดพลาง หานเฟิงสะบัดผม มั่นใจเป็นอย่างมาก
แต่เห็นได้ชัดว่าไม้นี้ ใช้ไม่ได้สักนิด เมื่ออยู่ต่อหน้าจ้าวคั่ว
จ้าวคั่วพูดด้วยเสียงมีพลัง “ฉันเกลียดการพูดทฤษฎีกับคนที่สุด นายรังแกน้องสาวฉัน เท่ากับรนหาที่ตาย”
ไม่รอให้พูด จ้าวคั่วกระแทกหมัดออกมาทันที
ถือว่าปฏิกิริยาของหานเฟิงรวดเร็วมาก เอากระบี่ฟ้าครามออกมา กันไว้ด้านหน้าทันที
เสียงดังชัดเจน ทันใดนั้น กระบี่ฟ้าครามของหานเฟิงโค้งจนน่ากลัว หานเฟิงถอยหลังไปหลายก้าว ร่างกายโงนเงน ใบหน้าแดงก่ำ เลือดลมพลุ่งพล่าน
“ให้ตายเถอะ นายไม่มีเหตุผลงั้นเหรอ งั้นฉันไม่พูดด้วยเหตุผลแล้ว”
หานเฟิงถือกระบี่พุ่งเข้าไป ปล่อยพลังปราณออกมา กระบี่ฟ้าครามมีแสงขึ้นมาบางๆ
จ้าวคั่วหัวเราะเย็นชา “เด็กน้อยที่ยังฝึกไม่ถึงแดนปราณนอก กล้ามาอวดดีต่อหน้าฉัน”
กระแทกหมัดออกมาโจมตีอีกครั้ง พลังปราณพุ่งขึ้นมา แขนถูกปกคลุมไปด้วยสีดำทั้งแขน เสียงคำรามดังขึ้นชัดเจน
ลู่ฝานแอบพูดว่าไม่ดีแล้ว พลังของหมัดนี้ กลัวว่าศิษย์พี่หานเฟิงจะต้านทานไม่ได้
แต่ขณะที่เขากำลังจะลงมือ หุ่นทองสำริดข้างๆ ทั้งสองตัว เอาหอกยาวสองเล่มปักไว้ตรงหน้าเขา ขวางไม่ให้เขาเดิน
“การแข่งขันของนักบู๊ คนนอกห้ามก้าวก่าย”
หุ่นทองสำริดทั้งสองตัวพูดด้วยเสียงเย็นชา พลังอันแข็งแกร่งทำให้พื้นสะเทือนจนพังทลาย ลู่ฝานจำเป็นต้องถอยไปด้านหลังหนึ่งก้าว แอบกัดฟันเบาๆ
กระบี่ของหานเฟิงฟันลงบนหมัดของจ้าวคั่วอย่างแม่นยำ
ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ประกายไฟกระเด็นออกมาจากจุดที่ปะทะกัน
ร่างกายของหานเฟิงโดนขวางไว้ทันที ฝ่าเท้ายุบลงไปในพื้นดิน
เสียงลมพัดแขนเสื้อหานเฟิงจนปลิว สีหน้าบิดเบี้ยว
จ้าวคั่วแผดเสียงออกมาเบาๆ พลังปราณบนหมัดระเบิดออกมา
หมัดระเบิด!
หานเฟิงโดนระเบิดกระเด็นออกไป กระแทกลงกับพื้นอย่างแรง
จ้าวคั่วก้าวขึ้นมา พูดอย่างเย็นชาว่า “พละกำลังแค่นี้ กล้ารังแกน้องสาวฉัน ตลกสิ้นดี!”
จ้าวคั่วซัดหานเฟิงจนล้มลงกับพื้นด้วยหมัดเดียว
คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ข้างๆ ทนดูไม่ได้แล้ว ใช้แดนปราณในชั้นเจ็ด ต่อกรกับแดนปราณนอกขั้นสามอย่างจ้าวคั่ว มีเพียงคำว่าน่าเวทนาเท่านั้น
ในคณะกำแหง มีใครไม่รู้จักเสือดำจ้าวคั่วบ้าง
หมัดกำลังจะโจมตีเข้ามา พลังอันรุนแรงปะทะหน้าหานเฟิงจนรู้สึกเจ็บ
หานเฟิงเด้งตัวขึ้นมา หลบหมัดของจ้าวคั่วได้อย่างหวุดหวิด ขณะเดียวกัน ก็เตะออกไป
เตะนี้ไร้สุ้มเสียงและธรรมดา แต่กลับทำให้รู้สึกใจเต้นเร็วด้วยความหวาดกลัว
ลู่ฝานหรี่ตาลง เขารู้ว่านี่คือวิชาเท้าของศิษย์ที่แปรเปลี่ยนมาของพี่หานเฟิง วิชาเท้าที่มีแรงทำลายของเคล็ดวิชาบู๊ระดับดิน
จ้าวคั่วไม่ได้หลบ เหมือนกับดูหมิ่นการเตะของหานเฟิง
นักเรียนของคณะกำแหงล้วนยึดการฝึกร่างเป็นหลัก ไม่มีคนไหนที่ร่างกายไม่แข็งแกร่งเหมือนสัตว์ป่า แค่เตะเดียว ไม่ควรค่าให้พูดถึง
เกิดเสียงดังสวบ
สีหน้าจ้าวคั่วเปลี่ยนไปทันที เลือดสีแดงสาดกระเซ็น ตรงหน้าอกจ้าวคั่วเกิดรอยแผลที่เหมือนรอยแผลจากกระบี่